วันอังคาร ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2567 19:06 น.

ภูมิภาค

วัดดังกาฬสินธุ์ เปิดลานธรรมให้ชาวนาตากข้าว รอราคาปรับตัวสูงขึ้น

วันเสาร์ ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563, 10.27 น.
วันที่ 21 พฤศจิกายน 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการติดตามบรรยากาศการเก็บเกี่ยวและขายผลผลิตข้าวนาปี ของชาวนาที่ จ.กาฬสินธุ์ พบว่าต่างพากันนำเมล็ดข้าวเปลือกที่ได้จากการจ้างรถเก็บเกี่ยวมาผึ่งแดดกันเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ เพื่อให้เมล็ดข้าวแห้ง และชะลอการขาย  ซึ่งจะได้ราคาดีกว่านำไปขายในลักษณะข้าวสด ที่จะถูกพ่อค้าคนกลางกดราคา โดยอ้างว่าค่าความชื้นสูงและมีสิ่งเจือปน  ทำให้ชาวนาในรายที่นำข้าวไปขายได้ราคาต่ำ เพียง ก.ก.ละ 6-7 บาทเท่านั้น  ทั้งนี้ เพื่อจะได้ขาวข้าวราคาสูงขึ้น  ชาวนาที่ว่าจ้างรถเก็บเกี่ยวจึงนำข้าวเปลือกไปตากตามพื้นที่ว่างต่างๆ   โดยเฉพาะภายในวัดและสถนที่ทางราชการที่กว้างขวาง ดีกว่าจะตากตามถนนหลวง ที่เสี่ยงกับการเกิดอุบัติเหตุถูกรถเฉี่ยวชน
 
 
พระวีระ กนฺตวีโร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดวิเศษไชยาราม  วัดประจำตำบลบึงวิชัย อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นสถานที่ประดิษฐานเจดีย์พิพิธภัณฑ์พระธรรมวงศาจารย์ หรือหลวงปู่สุข สุขโณ อดีตเจ้าคณะ จ.กาฬสินธุ์ และอดีตเจ้าอาวาสวัดกลาง (พระอารามหลวง) กล่าวว่า ในช่วงฤดูกาลเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าว เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกกับชาวนา ที่ไม่มีสถานที่ตากข้าวเปลือก ทางวัดจึงได้อนุญาตให้ชาวนานำข้าวเปลือกมาตากภายในบริเวณวัด ที่เป็นลานบุญลานธรรม และตามพื้นที่ว่างได้ตามสะดวก ซึ่งตนและพระเณรในวัด ก็จะมาช่วยชาวนาตากและเก็บข้าวบ้าง โดยส่วนมากจะตาก 3 วัน ก็จะได้เมล็ดข้าวเปลือกที่แห้งพอดี จากนั้นก็จะบรรจุใส่ถุงไปเก็บไว้ในที่ปลอดภัย  รอช่วงข้าวราคาสูงขึ้นจึงนำไปขาย ทั้งนี้ ผลดีจากการนำข้าวเปลือกมาตากในวัดคือปลอดภัยจากการที่อาจจะถูกรถเฉี่ยวชน และไม่ต้องเสี่ยงกับการถูกโจรลักขโมย เหมือนนำไปตากตามถนนหลวงหรือสถานที่อื่น
 
 
ขณะที่นายเสาร์ ฤทธิ์รุ่ง นายกเทศมนตรีตำบลบึงวิชัย กล่าวว่าทางเทศบาลเองได้สนองนโยบายนายทรงพล  ใจกริ่ม ผวจ.กาฬสินธุ์ และนายสมเจตน์ เต็งมงคล นายอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ ในการอำนวยความสะดวกให้กับชาวนา ที่นำข้าวเปลือกมาตากบริเวณลานกีฬา หน้าสำนักงานเทศบาลตำบลบึงวิชัย  ซึ่งมีพื้นที่กว้างขวาง  และมีความปลอดภัยกว่าที่จะนำข้าวเปลือกไปตามถนนหลวงหรือหน้าบ้านที่คับแคบ  นอกจากนี้ การตากเมล็ดข้าวเปลือกให้แห้งก่อนนำไปขายให้กับแหล่งรับซื้อ ยังเป็นการชะลอการขาย  ซึ่งจะได้ราคาสูงกว่านำข้าวเปลือกสดหรือที่เพิ่งเก็บเกี่ยวไปขาย เพราะมีชาวนาหลายรายที่นำขาวเปลือกสดขายได้ราคาต่ำ เพียง ก.ก.ละ 6-7 บาท ทำให้ขาดทุน ต่างกับปีที่ผ่านมาซึ่งได้ราคาสูงถึง ก.ก.ละ 10-12 บาท
 
 
ด้านนายธนาพล  ธรรมโนขจิต ผู้จัดการตลาดกลางข้าวและพืชไร่  อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ผลจากการที่ชาวนาผึ่งเมล็ดข้าวเปลือกให้แห้งก่อนนำมาขาย  ซึ่งเป็นการชะลอการขาย  ราคาในภาพรวมทั้งข้าวเปลือกเหนียวและข้าวเปลือกเจ้า ในวันนี้มีการปรับตัวสูงขึ้น จากเดิมเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ลานรับซื้อทั่วไปเริ่มต้นที่ราคา ก.ก.ละ 5-6 บาท หรือ 6-7 บาท ขณะที่วันนี้ที่ตลาดกลางข้าวและพืชไร่ ให้ราคาสูงถึง ก.ก.ละ 8 บาทแล้ว อย่างไรก็ตาม เพื่อที่ชาวนาจะขายข้าวได้ราคาสูง จึงขอความร่วมมือใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวที่มีคุณภาพ  ไม่มีเมล็ดพันธุ์ปลอมปน หากปฏิบัติได้ควรเก็บเกี่ยวด้วยมือ แทนการใช้รถเกี่ยว เพราะสามารถคัดแยกสายพันธุ์ปลอมปนและประหยัดค่าแรง ก่อนนำมาขายควรผึ่งแดดให้แห้ง ก็จะขายข้าวได้ราคาสูงดังกล่าว

หน้าแรก » ภูมิภาค