วันพฤหัสบดี ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2567 03:28 น.

ภูมิภาค

มวลน้ำทะลักท่วมสุราษฎร์แล้ว เตือนพื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวังน้ำป่าหลาก น้ำล้นตลิ่ง

วันจันทร์ ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563, 17.07 น.
จากกรณีกรมอุตุนิยมวิทยามีประกาศฉบับที่ 4 ลงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2563 มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณชายฝั่งประเทศมาเลเซีย ทำให้ จังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส กระบี่ ตรัง และสตูลมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่  ส่วนคลื่นลมในทะเลมีกำลังแรงคลื่นสูงประมาณ 2-3 เมตร ตั้งแต่วันที่ 30 พ.ย. 2563 จนถึงวันที่ 3 ธ.ค. 2563
 
ล่าสุดวันที่ 30 พ.ย.63 น้ำได้ทะลักจากเขตรอยต่อจังหวัดนครศรีธรรมราชเข้าท่วมในที่ลุ่มของ จังหวัดสุราษฎร์ธานีแล้วโดยเฉพาะ ต.คลองสระ อ.กาญจนดิษฐ์ และพื้นที่ ม.6 ต.ชลคราม อ.ดอนสัก  มีน้ำท่วมสูง ระดับน้ำสูงประมาณ 20-30 ซม. มีราษฎรได้รับผลกระทบประมาณ 20 ครัวเรือน โดยนายวิชวุทย์ จินโต  ผวจ.สุราษฎร์ธานีพร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่พบปะชาวบ้านให้กำลังใจและมอบถุงยังชีพ พร้อมกำชับผู้นำชุมชน ผู้นำท้องถิ่นและเจ้าหน้าที่ในพื้นที่เฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง
 
 
ขณะเดียวกัน ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้ออกประกาศจังหวัดแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ราบลุ่ม ที่ลาดเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหลผ่านให้ระมัดระวังอุทกภัยจากปริมาณฝนที่เพิ่มมากขึ้น และอาจมีปริมาณน้ำสะสมทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินถล่ม น้ำล้นตลิ่ง และคลื่นลมแรง พร้อมกำชับให้เจ้าท่าภูมิภาคทุกสาขาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ควบคุมการเดินเรืออย่างใกล้ชิด ผู้โดยสารเรือทุกคนจะต้องสวมเสื้อชูชีพ เรือสปีดโบ๊ท เรือประมง เรือโดยสาร และเรือเฟอร์รี่ ควรพิจารณาเดินเรือด้วยความระมัดระวัง เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง
 
 
ส่วนสภาพอากาศในจังหวัดสุราษฎร์ธานีมีฝนตกหนักในหลายพื้นที่ทำให้พื้นที่เสี่ยงในอำเภอดอนสัก อำเภอกาญจนดิษฐ์ อำเภอบ้านนาสาร และอำเภอเวียงสระ ที่เป็นรอยต่อกับจังหวัดนครศรีธรรมราชเริ่มมีปริมาณน้ำในลำคลองต่างๆเพิ่มสูงขึ้น และในช่วงเช้าที่ผ่านมาได้เกิดเรือประมงพื้นบ้านขนาดเล็กล่มในพื้นตำบลท่าเคย อำเภอท่าฉาง ขณะที่มี 2 พ่อลูกชาวประมงพื้นบ้านนำเรือไฟเบอร์ขนาดเล็กออกไปทำการกู้อวนที่วางจับสัตว์น้ำในทะเลห่างจากชายฝั่งไปประมาณ 1 ไมล์ทะเล ท่ามกลางคลื่นลมแรง แต่โชคดีถูกชาวประมงช่วยเหลือนำกลับเข้าฝั่งได้อย่างปลอดภัย
 
สำหรับพื้นที่เสี่ยงที่จะต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดประกอบด้วย  อ.พระแสง/ อ.เวียงสระ อ.พนม อ.บ้านนาสาร อ.กาญจนดิษฐ์ อ.ดอนสัก อ.ไชยา อ.ท่าชนะ และ อ.วิภาวดี ส่วนที่ราบลุ่มเชิงเขาโดยเฉพาะ ต.ปากหมาก อ.ไชยา ทางจังหวัดได้เตรียมพร้อมหากมีฝนตกหนักติดต่อกันหลายๆชั่วโมงหรือเป็นวันจะต้องอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ไปอยู่ในที่ปลอดภัยทันที.
 

หน้าแรก » ภูมิภาค