ภูมิภาค
เชียงใหม่ ผนึกกำลังแจงสถานการณ์โควิดเรือนจำ มั่นใจไม่ระบาดออกสู่ชุมชน
วันจันทร์ ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2564, 20.35 น.
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
วันที่ 17 พ.ค. 64 ที่หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จังหวัดเชียงใหม่ นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยพลตรี ถนัดพล โกศัยเสวี รองแม่ทัพภาคที่ 3 นายแพทย์จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ พลตรี วุฒิไชย อิศระ รองเจ้ากรมแพทย์ทหารบก นายสุรศักดิ์ เผื่อนคำ ผู้บัญชาการเรือนจำกลางเชียงใหม่ และนายอรรถวุฒิ พึ่งเนียม นายอำเภอแม่แตง ร่วมกันแถลงข่าวการดำเนินงานโรงพยาบาลสนาม ในเรือนจำกลางเชียงใหม่
นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า จังหวัดเชียงใหม่ได้มีการตรวจพบการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ภายในเรือนจำกลางเชียงใหม่ ในช่วงกลางเดือนเมษายน เนื่องจากมีผู้ต้องขังจำนวนมากและอยู่ในพื้นที่ปิด จึงได้มีการนำระบบ Bubble & Seal มาใช้บริหารจัดการในเรือนจำตั้งแต่วันที่ 26 เมษายน 64 ซึ่งมีกำหนดระยะเวลาการดำเนินการ 28 วัน การดูแลจะคล้ายการล็อคดาวน์ในทุกห้อง ทุกแดน และค้นหาผู้มีอาการเข้ารักษาที่โรงพยาบาลสนามเรือนจำกลางเชียงใหม่ พร้อมตรวจหาภูมิคุ้มกันโรคในทุก 14 วัน ทั้งนี้ คาดว่าในรอบสุดท้ายจะมีผู้ต้องขังที่ไม่มีภูมิคุ้มกันเพียง 10% และจะสามารถส่งคืนพื้นปลอดภัยให้แก่เรือนจำกลางได้ในวันที่ 28 พฤษภาคม 2564 ขณะนี้การดำเนินงานเป็นไปตามแผนและมีแนวโน้มที่ดีขึ้นตามลำดับ
สำหรับจำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อกว่า 3 พันคน ในเรือนจำกลางเชียงใหม่นั้น ทั้งหมดอยู่ภายใต้การดูแลรักษาและการควบคุมการแพร่ระบาด กรณีมีผู้ต้องขังพ้นโทษก็ยังคงต้องกักตัวเองอีก 14 วัน เพื่อความปลอดภัยของประชาชนภายนอก และเชื่อมั่นว่าจะไม่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดภายในเรือนจำกลางอย่างแน่นอน
ด้าน พลตรีถนัดพล โกศัยเสวี รองแม่ทัพภาคที่ 3 ในฐานะผู้แทนกองทัพบก กล่าววถึงความร่วมมือของกองทัพภาคที่ 3 ในช่วง 17 วัน ที่ผ่านมา ได้มีการหารือกันตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน ที่ผ่านมา และมีการประชุมกันอย่างต่อเนื่อง โดยทางกองทัพภาคที่ 3 ได้ให้การสนับสนุนจังหวัดเชียงใหม่ ทั้งด้านการดูแลและสนับสนุนกำลังพล ยุทโธปกรณ์ โดยกองทัพภาคที่ 3 ได้มอบหมายให้เจ้ากรมแพทย์ทหารบก จากโรงพยาบาลค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ดูแลภายในเรือนจำ และมีกองพลทหารราบที่ 7 ดูแลเรื่องความเป็นอยู่ภายนอกเรือนจำ ซึ่งทั้งหมดนี้ได้วางกระบวนการขั้นตอนไว้อย่างชัดเจน โดยนำตัวอย่างจากเรือนจำจังหวัดนราธิวาสมาเป็นต้นแบบ ในการบริหารจัดการภายในเรือนจำกลาง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ ทั้งนี้ขอยืนยันว่าหน่วยการแพทย์ที่อยู่ภายในเรือนจำยังคงเป็นพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงทั้งหมด ดังนั้นตามที่มีข่าวที่ออกไปนั้น ขอให้มั่นใจได้ว่าจังหวัดเชียงใหม่ กองทัพบก และกรมราชทัณฑ์ได้ระดมกำลังช่วยกันอย่างเต็มที่
ด้านนายแพทย์จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ตามปกติการควบคุมโรคจะแบ่งออกเป็น 2 แบบ ด้วยกันก็คือ มาตรการควบคุมโรคในพื้นที่เปิด หรือพื้นที่ทางสังคม ซึ่งจะใช้มาตรการจากทางศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. เป็นหลัก ส่วนการควบคุมโรคในพื้นที่ปิด อาทิ เกาะขนาดเล็ก หรือโรงงานบางแห่งที่มีที่พักอยู่ภายใน รวมทั้งเรือนจำ ซึ่งมีกิจกรรมทางสังคมที่ไม่ซับซ้อน จำเป็นต้องใช้มาตรการควบคุมโรคอีกรูปแบบหนึ่ง หลังจากมีการตรวจพบว่ามีการระบาดในเรือนจำตั้งแต่ช่วงปลายเดือนเมษายน จึงได้มีมติร่วมกันให้ใช้มาตรการ bubble and seal ซึ่งเป็นมาตรการที่เคยใช้ควบคุมโรคในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครมาแล้ว โดยในวันที่ 26 เมษายนที่ผ่านมา ทางกระทรวงสาธารณสุขได้ส่งผู้เชี่ยวชาญเข้ามาช่วยวางระบบ นำโดยอธิบดีกรมควบคุมโรค
สำหรับมาตรการ Bubble and seal ที่นำมาใช้ในเรือนจำกลางเชียงใหม่นั้น จะต้องจำกัดขอบเขตในการควบคุมโรคไม่ให้มีการกระจายจากแดนสู่แดน หรือกระจายสู่พื้นที่ภายนอก โดยการ Seal หรือปิดพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดไว้ จำนวน 14 วัน 2 รอบ รวมเป็น 28 วัน และในระหว่างการควบคุมโรคจะต้องเร่งค้นหาผู้ที่มีอาการของโรค เพื่อนำเข้าสู่กระบวนการการรักษาให้รวดเร็วที่สุด นอกจากนี้ยังได้มีการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามภายในเรือนจำ เพื่อรักษาผู้ป่วยที่มีอาการเล็กน้อยถึงปานกลาง ส่วนผู้ต้องขังที่มีอาการหนักจะทำการส่งตัวออกมารักษาที่โรงพยาบาลภายนอก โดยจนถึงขณะนี้มีผู้ต้องขังที่ส่งตัวออกมารักษาภายนอกเพียงแค่ 6 ราย เท่านั้น
นอกจากนี้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ยังได้ชี้แจงว่า ขณะนี้ทางจังหวัดเชียงใหม่ได้ดำเนินมาตรการ Bubble and seal มาได้แล้ว 3 สัปดาห์ เหลือเวลาอีกเพียง 1 สัปดาห์ และหลังจากนั้นจะใช้เวลาอีก 5 วันในการตรวจหาภูมิคุ้มกันของผู้ต้องขังทั้งหมดอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งคาดว่าจะพบผู้ที่ไม่มีคุ้มกันเหลืออยู่เพียงร้อยละ 10 เท่านั้น และจะได้นำผู้ที่ไม่มีภูมิคุ้มกันนี้มาตรวจหาเชื้ออีกหนึ่งรอบ เพื่อคัดแยกออกจากกลุ่มผู้ต้องขังทั้งหมด หลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการคาดว่าจะสามารถคืนพื้นที่ปลอดภัยให้กับเรือนจำกลางเชียงใหม่ได้ภายในวันที่ 28 พฤษภาคม นี้
กรณีการแพร่ระบาดในเรือนจำกลางจังหวัดเชียงใหม่นั้น จะไม่ส่งผลกระทบต่อการรับการปรับลดระดับพื้นที่ควบคุมเข้มงวดสูงสุด (สีแดงเข้ม) มาเป็นพื้นที่ควบคุม (สีส้ม) จากศบค. แต่อย่างใด เนื่องจากเป็นพื้นที่ควบคุมคนละส่วนกัน
พลตรี วุฒิไชย อิศระ รองเจ้ากรมแพทย์ทหารบก รักษาราชการผู้อำนวยการโรงพยาบาลค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ผู้บัญชาการเหตุการณ์ด้านการแพทย์ภายในเรือนจำกลางเชียงใหม่ เปิดเผยว่า กรมแพทย์ทหารบก ได้จัดผู้เชี่ยวชาญพิเศษ ลงพื้นที่บริหารจัดการทำหน้าที่สนับสนุนหน่วยงานของสาธารณสุขทั้งการให้บริการในพื้นที่เรือนจำ ซึ่งถือว่าเป็นพื้นที่ขีดจำกัด อย่างไรก็ตามผู้ต้องขังทุกคนจะต้องได้รับสิทธิการดูแลรักษาเทียบเท่ากับประชาชนภายนอก ทั้งการตรวจหาเชื้อ และการดูแลรักษา เพื่อสกัดการระบาดไม่ให้ออกสู่ภายนอก
กรมแพทย์ทหารบกทำหน้าที่เชื่อมต่อการดูแลรักษาพยาบาลระหว่างเจ้าหน้าที่ภายในเรือนจำ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ และโรงพยาบาลในพื้นที่ เพื่อลดภารงานและลดข้อจำกัดในการดำเนินงาน และเพื่อเป็นการลดการส่งออกผู้ป่วยที่มีอาการสีเหลือง สีเขียวเข้ม หรือพ้นขีดความสามารถของบุคลากรในเรือนจำ จึงได้มีการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามในเรือนจำกลางเชียงใหม่ โดยใช้ทรัพยากรที่มีขีดจำกัด มาพัฒนา ปรับปรุง และได้มีการจัดตั้ง Mini ICU ในเรือนจำ เพื่อช่วยชีวิตผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง นอกจากนี้กรมแพทย์ทหารบก ยังได้มีการเสริมความมั่นคงด้านการแพทย์ในเรือนจำ และวางมาตรการเชิงรุกร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อให้เรือนจำปลอดโรคในเร็ววันนี้
สำหรับตัวเลขล่าสุดในขณะนี้ เรือนจำกลางเชียงใหม่มีผู้ต้องขัง จำนวน 6,311 คน ติดเชื้อโควิด-19 แล้วจำนวน 3,793 คน หรือคิดเป็น 60% ของผู้ต้องขังทั้งหมด เป็นผู้มีภูมิคุ้มกันในตนเองแล้วจำนวน 1,532 คิดเป็น 1 ใน 4 หรือ 24.27% ของผู้ต้องขังทั้งหมด และมีผู้ติดเชื้อที่กำลังจะพ้นระยะการกักตัวใน 1-2 วันนี้ อีกกว่า 1,600 คน หรือคิดเป็น 44% ของผู้ต้องขังทั้งหมด อย่างไรก็ตามยังคงเหลือผู้ต้องขังที่ไม่ติดเชื้อโควิด-19 อีก 923 คน ทั้งนี้ข้อมูลทั้งหมดได้เกิดขึ้นจากกระบวนการตรวจวิเคราะห์อย่างมีระบบและมีมาตรฐาน ผ่านการตรวจหาเชื้อจำนวน 2 ครั้ง และการตรวจหาภูมิคุ้มกัน เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้อง
พลตรี วุฒิไชย อิศระ รองเจ้ากรมแพทย์ทหารบก เปิดเผยถึงเบื้องหลังความสำเร็จในการดำเนินงานโรงพยาบาลสนามได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ได้พระราชทานสิ่งของด้านการแพทย์หลายอย่าง ผ่านโครงการราชทัณฑ์ปันสุข เพื่อนำมาใช้ในเรือนจำกลาง ซึ่งเป็นการเอื้อประโยชน์ต่อฝ่ายแพทย์เป็นอย่างมาก
นายสุรศักดิ์ เผื่อนคำ ผู้บัญชาการเรือนจำกลางเชียงใหม่ กล่าวถึง สถานการณ์การดูแลผู้ต้องขังในเรือนจำกลางเชียงใหม่ ว่า ต้องขอบคุณในการบูรณาการช่วยเหลือจากทุกภาคส่วน ที่ได้ดูแลและช่วยเหลืออย่างเต็มที่ โดยขณะนี้ยืนยันว่ายังสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ในเรือนจำกลางเชียงใหมีทั้งหมด 10 แดน สำหรับแดนที่เกิดเหตุ เป็นแดนที่ 4 ซึ่งเป็นแดนแรกรับที่มีการรับผู้ต้องขังใหม่เข้ามาภายในเรือนจำ โดยเรือนจำมีกระบวนการการแยกขังผู้ต้องขังอย่างน้อย 15 วัน โดยมีมาตรฐานการดูแลตามที่กรมราชทัณฑ์กำหนด แต่เนื่องจากการระบาดในระลอกนี้มีความรุนแรงมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา จึงได้ขอรับการช่วยเหลือและสนับสนุนอย่างดีจากทางจังหวัดเชียงใหม่ ทหาร ตำรวจ และทุกภาคส่วนรวมถึงพี่น้องประชาชน ให้เข้ามาช่วยเหลือ
สำหรับเหตุการณ์การระบาดในเรือนจำเกิดจากมีผู้ต้องขังจากแดน 4 ไปเรียนหนังสือที่แดน 6 จากแดน 6 ไปสู่ผู้ต้องขังที่แดน 5 ซึ่งเป็นผู้ต้องขังจากโทษคดีทั่วไป และขยายไปถึงแดน 7 ซึ่งมาเรียนหนังสือร่วมกัน ทำให้เกิดการติดเชื้อกันอย่างรวดเร็ว ที่ถือเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ของกรมราชทัณฑ์ ซึ่งหลังจากเกิดเหตุแล้ว อาจจะต้องพิ่มจำนวนวันในการกักตัวเป็น 21 วัน หรือ 30 วัน และมีการ Swap ทุกวัน ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของทางกรมราชทัณฑ์ที่จะต้องปรับปรุงและตั้งรับการพัฒนาของโรคต่อไป
ทางเรือนจำกลางเชียงใหม่ได้รับความร่วมมืออย่างดี จากรองเจ้ากรมแพทย์ทหารบก ที่นำคณะแพทย์ พยาบาลเข้ามาดูแล ตลอดจนทีมสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ และ อำเภอแม่แตง ที่ได้เข้ามาดูแลอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ด้วยสภาวการณ์นี้ ทางเรือนจำได้ให้ความรู้ในการอบรม ชี้แจง เพื่อให้ผู้ต้องขังอยู่กันอย่างสงบ และให้ความร่วมมืออย่างดี โดยมีการให้กำลังใจซึ่งกันและกันภายในเรือนจำ และคาดว่าสถานการณ์จะกลับมาสู่ปกติได้โดยเร็ว
ด้านนายอรรถวุฒิ พึ่งเนียม นายอำเภอแม่แตง กล่าวว่า ทางอำเภอแม่แตงได้จัดตั้ง Local Quarantine จำนวน 4 ศูนย์ เพื่อรองรับผู้ที่ได้รับการปล่อยตัวออกมาจากเรือนจำกลางเชียงใหม่ ทั้งผู้ที่พ้นโทษและผู้ประกันตัวในชั้นศาล เนื่องจากเข้าไปอยู่ในพื้นที่เสี่ยงสูงมาก เพื่อติดตามและสังเกตุอาการ โดยมีเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลแม่แตง และสาธารณสุขอำเภอแม่แตงเข้ามาดูแลและรักษาพยาบาล พร้อมทั้งมีการจัดตั้งเวรยามควบคุมตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งผลการดำเนินงานที่ผ่านมามีผู้ที่กักตัวอยู่ใน Local Quarantine ของอำเภอแม่แตง ทั้งหมด 57 คน มีผลเป็นบวก 30 คน ซึ่งได้นำส่งเข้ารับการรักษาต่อที่โรงพยาบาลสนามจังหวัดเชียงใหม่ คงเหลือผู้กักตัวอยู่ในการดูแลอีก 23 คน และอีก 4 คนได้ตรวจหาเชื้อซ้ำ 2 รอบพบว่าไม่มีเชื้อและพ้นระยะการเฝ้าระวัง จึงได้อนุญาตให้กลับบ้านได้ ทั้งนี้ขอให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นว่าผู้ที่ถูกปล่อยตัวมาจะไม่มีการแพร่กระจายเชื้อไปสู่ชุมชน
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
หน้าแรก » ภูมิภาค
Top 5 ข่าวภูมิภาค
- โอ้ป๊าด! นร.ม.6 ร.ร.ขอนแก่นวิทยายน สอบติด 10 สถาบัน นอก-ใน ปท. 19 เม.ย. 2567
- ไทม์ไลน์ ครม.อนุมัติเงินช่วยเหลือ ปรับปรุงเส้นทาง R12 ถนนสายเศรษฐกิจสำคัญ 19 เม.ย. 2567
- "หลวงพี่น้ำฝน" รับญาติโยมส่งข้อมูลวัดพุทธาราม เตรียมขายให้ทราบแล้ว ชี้อยู่ที่สำนึกของแต่ละบุคคล 19 เม.ย. 2567
- กำนันดังเขียนจม.สั่งเสีย ก่อนจบชีวิตพร้อมเพื่อนชาย 19 เม.ย. 2567
- รถตู้วัดปากน้ำชนกระบะ เจ้าอาวาสวัดติดภายใน 19 เม.ย. 2567
ข่าวในหมวดภูมิภาค
- กาฬสินธุ์เริ่มแล้ว! สงกรานต์ถนนข้าวก่ำ มรดกภูมิปัญญาทรงคุณค่าคู่โลก 21:09 น.
- ระทึก! หม้อแปลงระเบิดไหม้เสาไฟ ชาวบ้านในห้างโกลาหล 20:58 น.
- อุบลฯ วัดปากน้ำ จัดงานเทศกาลสงกรานต์ นมัสการ ปิดทอง สรงน้ำ หลวงพ่อเงิน 700 ปี 20:38 น.
- รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ประกอบพิธีเททองหล่อพระพุทธสิหิงค์ 20:26 น.
- ผู้สูงอายุร่วมแต่งชุดไทยย้อนยุค ชิงตำแหน่งเทพีสงกรานต์ คึกคัก 20:21 น.