วันศุกร์ ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2567 10:54 น.

ภูมิภาค

มอบตัวแล้ว! มือยิง 11 นัด ดับคาลานจอดรถที่กาญจน์

วันอังคาร ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564, 18.54 น.

กาญจนบุรี  คดียิง 11 นัดหนุ่มเพชรบูรณ์ เสียชีวิตคาลานจอดรถที่กาญจน์ ผบช.ภ.7 สั่งตำรวจ 3 กองสืบบูรณาการกดดันจนคนร้ายยอมมอบตัวพร้อมอาวุธปืนและรถ จยย.ที่ใช้ก่อเหตุ

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีนายอำพล บุ้งทอง อายุ 37 ปี หนุ่มใหญ่เมืองมะขามหวานถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม.จ่อยิง 11 นัด จนเสียชีวิตคาลานจอดรถในห้างวังสารภีพลาซ่า หมู่ 9 ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 29 พ.ย.64 ที่ผ่านมา

 


     

ความคืบหน้าของคดี หลังเกิดเหตุ พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรวค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ลงพื้นที่สั่งการให้ พล.ต.ต.ประสพชัย มัตสยะวนิชกูล ผบก.สส. ภ.7 พ.ต.อ.ชิตภพ โตเหมือน รอง ผบก.สส. ภ.7 พ.ต.อ.ณัฐพิสิษฐ์ รัตนอุดมพล ผกก.สส.1 บก.สส.ภ.7 นำกำลังตำรวจชุด กก.สส.ภ.7 ลงพื้นที่ประสานกำลังร่วมกับ
     

พล.ต.ต.ไพโรจน์ คุ้มภัย ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.ภาคิน แสงพุฒิ ผกก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี และ พ.ต.อ.สมเกียรติ โฉมฉาย ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี เพื่อสนธิกำลังร่วมกัน ลงพื้นที่สืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเร่งด่วนตามคำสั่ง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. โดยสั่งการให้พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี เร่งสอบสวนปากคำพยานทุกปากที่เห็นเหตุการณ์ในวันเกิดเหตุรวมทั้งติดตามตรวจสอบภาพเหตุการณ์จากกล้องวงจรปิดบริเวณหน้าร้านภายในลานจอดรถจนกระทั่งทราบว่า คนร้ายที่ก่อเหตุคือนายสิทธิชัย หรือแม็ก มั่นคง อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 111/2 หมู่ 2 ต.วังเย็น อ.เมือง จ.กาญจนบุรี

 


   

จึงรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อออกหมายจับเลขที่ มจ.409 /2564  ลงวันที่ 29 พฤศจิกายน 2564 จากนั้นจึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ 3 กองสืบสวนฯ เข้าทำการปิดล้อมบ้านหลังดังกล่าว และเจรจากดดันให้นายสิทธิชัย หรือแม็ก มั่นคง เข้ามอบตัวกับตำรวจ
     

จนกระทั่งเวลา 16.30 น.ของวันเดียวกัน บรรดาญาติๆ ของนายสิทธิชัย มั่นคง ได้พาตัวนายสิทธิชัย เข้ามอบตัวกับ พล.ต.ต.ไพโรจน์ คุ้มภัย ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำการตรวจยึดของกลางที่ใช้ในการก่อเหตุ ไม่ว่าจะเป็นอาวุธปืนสั้นกึ่งอัตโนมัติ ขนาด 9 มม.ยี่ห้อ Steyr สีดำ หมายเลขปืน กท.4937678 จำนวน 1 กระบอก เครื่องกระสุนปืนขนาด 9 มม.จำนวน 2 นัด ซองบรรจุกระสุนปืน 1 ซอง ซองพกหนังสีน้ำตาล 1 ซอง กระเป๋าสะพายข้างสีดำ-แดง 1 ใบ หมวกกันน็อคสีดำแถบสีขาว 1 ใบ เสื้อแขนยาวลายสก็อต 1 ตัว เสื้อแจ็คเก็ตสีเขียวเข้ม 1 ตัว กางเกงยีนส์ขายาว 1 ตัว รองเท้าผ้าใบสีขาว 1 คู่ และรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ 125 สีดำ หมายเลขทะเบียน 1 กข 6873 กาญจนบุรี 1 คัน

 


     

ซึ่งเมื่อเวลา 14.00 น.ของวันที่ 30 พ.ย.64 พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 พร้อมคณะนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ได้เดินทางมาร่วมสอบสวนปากคำนายสิทธิชัย หรือแม็ก มั่นคง ผู้ต้องหารายนี้ ที่ห้องประชุม บก.ตร.จว.กาญจนบุรี และแถลงข่าวผลการจับกุม
     

โดย พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 กล่าวว่า "คดีมือปืนก่อเหตุยิงนายอำพล บุ้งทอง อายุ 27 ปี เสียชีวิตคาลานจอดรถภายในศูนย์การค้าวังสารภีพลาซ่า ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 29 พฤศจิกายน 2564 ซึ่งหลังจากเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานจนสามารถขอศาลอนุมัติออกหมายจับ นายสิทธิชัย หรือ แม็ก มั่นคง อายุ 29 ปี หนุ่มพนักงานกองช่าง ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุ

 


     

หลังศาลอนุมัติออกหมายจับ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกติดตามจับกุมพร้อมกดดันจนกระทั่ง นายแม็ก ตัดสินใจขอเข้ามอบตัว พร้อมรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุใช้อาวุธปืนสังหารนายอำพลจริง
     

ซึ่งหลังกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนคลี่คลายคดีได้ระดมกำลัง สอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานจนกระทั่งขอศาลอนุมัติออกหมายจับ และเฝ้าติดตามกดดันจนทำให้คนร้ายเข้ามามอบตัว จนสามารถปิดคดีได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งคดีนี้ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจค้นบ้านของผู้ต้องหา จนพบอาวุธปืน automatic ขนาด 9 มม. ที่ใช้ในการก่อเหตุ รวมถึงรถจักรยานยนต์และเสื้อผ้าที่ผู้ก่อเหตุใช้ในวันก่อเหตุ ในส่วนของมูลเหตุการลงมือสังหารโหดนั้น
     

 

เบื้องต้นผู้ก่อเหตุให้การว่า เกิดจากความไม่พอใจที่ผู้เสียชีวิต มามีความสัมพันธ์ลึกซึ้งและติดพันแม่ของนายสิทธิชัย ที่ผ่านมา ผู้ก่อเหตุพยายามพูดคุยเพื่อขอให้ยุติความสัมพันธ์ลง แต่ผู้เสียชีวิตไม่ยินยอม โดยในวันเกิดเหตุนั้น ผู้ก่อเหตุทราบข่าวว่า แม่ของตนเองและผู้เสียชีวิตจะเดินทางไปฉีดวัคซีน ที่โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา จึงได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกมาเพื่อหวังจะพบและพูดคุยกับผู้เป็นแม่ แต่เมื่อขับรถมาจนพบ รถยนต์กระบะของผู้เป็นแม่แล้ว กลับมีปากเสียงกับผู้เป็นแม่อย่างรุนแรงอีกทั้งยังถูกผู้ตายด่าทอเหยียดหยามถึงบุพการี ทำให้เกิดอารมณ์โมโหหนัก จนถึงขั้นใช้อาวุธปืนของผู้เป็นพ่อที่พกติดตัวมา กระหน่ำยิง นายอำพลจนเสียชีวิตคาที่ดังกล่าว
     

ในส่วนของการแจ้งข้อหาและการสอบสวนเอาผิดกับผู้ก่อเหตุนั้น ทางผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทั้งผู้เสียชีวิตและญาติของผู้ก่อเหตุอย่างเต็มที่ โดยจะดูจากพยานหลักฐาน วัตถุพยาน ต่างๆอย่างรอบด้าน เพื่อ ทำคดี ให้เกิดความยุติธรรมและตรงไปตรงมาที่สุด ทั้งนี้

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างการแถลงข่าว มีบรรดาญาติของผู้ก่อเหตุเดินทางมาเฝ้ารอดูการแถลงข่าวกันเป็นจำนวนมาก แต่ก็ไม่มีเหตุการณ์วุ่นวายใดๆ เกิดขึ้น หลังแถลงข่าวเสร็จเรียบร้อย ไม่ได้มีการนำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพแต่อย่างใด โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เหตุผลว่า เป็นความต้องการของผู้ก่อเหตุ และญาติของผู้ก่อเหตุที่ไม่ต้องการไปทำแผนยังจุดเกิดเหตุ ซึ่งก็สามารถทำได้ตามกฎหมาย แต่ก็ไม่ได้มีผลใดๆ ในเรื่องของการดำเนินคดีเอาผิดกับผู้ก่อเหตุ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจมีพยานหลักฐานครบถ้วน ทั้งกล้องวงจรปิด อาวุธปืน ยานพาหนะ และเสื้อผ้าที่ผู้ก่อเหตุสมใส่ไปในวันก่อเหตุ

หน้าแรก » ภูมิภาค