วันที่ 7 สิงหาคม 2565 เวลา 11.00 น. ร.ต.อ.สัตยา คำวงษา รองสารวัตรสอบสวน สภ.นาหว้า จ.นคพรนม รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ทับเด็กเสียชีวิต ข้างบ้านในพื้นที่ ต.บ้านเสียว จึงรายงานไปยัง พ.ต.อ.ชัยทัศรัศมิ์ พรหมศิริ ผกก.สภ.นาหว้า พร้อมประสานเจ้าหน้าที่เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และแพทย์เวรโรงพยาบาลอำเภอนาหว้า ร่วมตรวจสอบชันสูตรศพเก็บหลักฐาน

ในที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะเชฟโรเลตสีแดง 4 ประตู ทะเบียน กน 7738 สกลนคร จอดอยู่หน้าบ้านที่เปิดเป็นร้านค้า ส่วนเด็กญาติรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลอำเภอนาหว้า โดยมีบาดแผลถูกล้อรถทับที่ศีรษะ สมองกระจาย ทราบชื่อภายหลัง คือ เด็กหญิง ชัญญนุช (สงวนนามสกุล) หรือน้องเติมตัง อายุ 1 ปี 8 เดือน

ส่วนคนขับรถกระบะคันเกิดเหตุ คือ นายเอนก โพธิ์สุ อายุ 53 ปี อาชีพนักการภารโรงโรงเรียนแห่งหนึ่ง มีศักดิ์เป็นปู่ของน้องเติมตัง โดยก่อนเกิดเหตุนายเอนกพร้อมภรรยา ได้ถอยรถออกจากบ้านซึ่งปลูกอยู่ด้านในสุดของที่ดินแปลงเกิดเหตุ ขณะถอยหลังรถออกมาได้เหยียบทับร่างหลาน ที่นั่งเล่นกองทรายอยู่ข้างบ้านเลขที่ดังกล่าว เนื่องจากไม่ทันสังเกต สุดท้ายเกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้น

ขณะญาติกำลังวุ่นกับร่างโชกเลือดของน้องเติมตัง ทางปู่คือนายเอนกเกิดสติแตกและเสียใจสุดขีด ร้องโวยวายทำร้ายตัวเอง ด้วยการคว้าขวดเหล้าทุบศีรษะจนเลือดไหล แล้ววิ่งเข้าบ้านไปหยิบเชือกไนล่อนแขวนคอตายในห้องนอน ซึ่งในช่วงเกิดเหตุไม่มีคนพบเห็น เพราะมัวแต่ชุลมุนกับการนำร่างน้องเติมตังส่งโรงพยาบาล กระทั่งเหตุการณ์สงบจึงตามหาตัวนายอเนก มาพบว่าผูกคอตายเสียชีวิตตามหลานสาวไปแล้ว จึงแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบชันสูตรศพ
 

ด้าน นางประไพ (สงวนนามสกุล) อายุ 54 ปี ย่าน้องเติมตังที่เสียชีวิต เล่าด้วยน้ำตานองหน้าว่า ครอบครัวตนเดิมเป็นชาวบ้าน ต.ท่าบ่อสงคราม อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม ภายหลังย้ายมาปลูกบ้านอยู่ในพื้นที่ ต.บ้านเสียว อ.นาหว้า เพราะมีพื้นที่ตำบลใกล้เคียงกัน จากนั้นลูกหลานก็ย้ายครอบครัวมาอยู่ตาม รวมถึงครอบครัวของน้องเติมตัง รวมที่ดินแปลงนี้มีบ้านอยู่ 3 หลัง แต่ใช้บ้านเลขที่เดียวกัน

ก่อนเกิดเหตุสลดตนได้นั่งรถกับสามี โดยได้ถอยหลังออกมาเพื่อกลับรถบนถนนคอนกรีต เพื่อจะมุ่งหน้าไปทำธุระยังตัวอำเภอ แต่ไม่ได้สังเกตว่ามีหลานเล่นอยู่ข้างบ้านอีกหลังที่ติดถนน จนกระทั่งเกิดอุบัติเหตุล้อหลังซ้ายทับหลาน พอได้ยินเสียงรู้สึกตกใจ  ปู่จึงจอดรถวิ่งลงมาดู พบหลานในสภาพบาดเจ็บที่ศีรษะ และญาติช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลอำเภอนาหว้า และเสียชีวิตภายหลัง ต่อมาไม่คาดคิดว่าสามีจะคิดสั้น เพราะทุกคนกำลังวุ่นกับหลานสาวที่เสียชีวิต โดยสามีร้องไห้โวยวายสติแตก ไม่คิดว่าจะทำร้ายตัวเอง ก่อนนำขวดเหล้าตีที่ศีรษะตัวเองจนแตกแล้ววิ่งเข้าไปในบ้าน แต่ทางญาติไม่มีคนสนใจ เพราะยังตกใจกับเหตุการณ์ที่หลานสาวเสียชีวิต สักพักไปพบว่าสามีใช้เชือกผูกคอตายกับหน้าต่างห้องนอนในบ้าน เหมือนซ้ำเติมความเสียใจ

ส่วน พ.ต.อ.ชัยทัศรัศมิ์ พรหมศิริ ผกก.สภ.นาหว้า เปิดเผยว่า คดีดังกล่าวหลังเกิดเหตุได้ตรวจสอบ เก็บหลักฐานร่วมกับเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน พบว่าไม่มีความซับซ้อน เป็นอุบัติเหตุที่ปู่ขับรถประมาททับหลานเสียชีวิต จนเสียใจและทำร้ายตัวเองด้วยการผูกคอตาย ซึ่งทางญาติไม่ติดใจเกี่ยวกับคดี พร้อมดำเนินคดีตามกฎหมาย และให้ญาตินำศพไปบำเพ็ญกุศล ตามประเพณี โดยตั้งศพปู่กับหลานเคียงข้างกันในบ้านหลังในสุด