วันพุธ ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 02:03 น.

ภูมิภาค

นายอำเภอเมืองคอนสั่งล่าตัวพระภิกษุสงฆ์ทาสยานรก หลังคณะสงฆ์ปกป้องพาย้ายวัดหนี

วันเสาร์ ที่ 05 ตุลาคม พ.ศ. 2567, 16.15 น.

นายอำเภอเมืองคอนสั่งติดตามล่าตัวพระภิกษุสงฆ์ทาสยานรกตรวจฉี่ช้ำหลังยอมรับสารภาพเพิ่งยานรกยึดอุปกรณ์การสพ 1 ชุด แต่เจ้าอาวาสอ้างว่าอยู่ในพรรษาขอดำเนินการตามวินัยสงฆ์เอง แต่กลับปกป้องคนผิดไม่ดำเนินการตามวินัยสงฆ์โดยมีการพาหนีย้ายวัด

 
(5 ต.ค.) จากกรณีที่ชาวบ้านร้องเรียนนายจักรกฤษณ์ ฝั่งชลจิตร์ นายอำเภอเมืองนครศรีธรรมราชว่า มีกลุ่มพระสงฆ์มั่วสุม เสพยาเสพติดภายในวัดแห่งหนึ่งในอำเภอเมืองจังหวัดนครศรีธรรมราช จึงสั่งการให้นายอธิราช โรจน์ดวง ปลัดอำเภอฝ่ายป้องกันหัวหน้าชุดเฉพาะกิจฝ่ายปกครองอำเภอเมือง เดินทางเข้าไปพบเจ้าอาวาสและขออนุญาตตรวจปัสสาวะพระภิกษุสงฆ์ภายในวัดรวม 9 รูป โดย จำนวน 8 รูป อนุญาตให้เจ้าหน้าที่ ทำการตรวจปัสสาวะไม่พบสิ่งเสพติด แต่มีพระสงฆ์รูปหนึ่งไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่ตรวจปัสสาวะ แต่ยอมรับกับเจ้าอาวาสและคณะกรรมการวัดว่าตนเองเพิ่งเสพยาเสพติด เจ้าหน้าที่จึงขอเข้าทำการตรวจค้นภายในกุฏิของพระรูปดังกล่าว พบอุปกรณ์การสืบยาบ้า 1 ชุด แต่ไม่พบยาเสพติด

 
พระภิกษุสงฆ์รูปดังกล่าว ยืนยันว่าพร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่นำไปจี้จุดที่ซื้อยาบ้าบริเวณ ซอยต้นหว้า 3 ในขณะที่เจ้าอาวาสอ้างว่าอยู่ในพรรษาขอร้องไม่ให้เจ้าหน้าที่ ควบคุมตัว พระภิกษุสงฆ์รูปดังกล่าวไป ดำเนินคดีตามกฎหมายแต่จะขอดำเนินการกับพระภิกษุรูปดังกล่าวตามวินัยสงฆ์ด้วยตัวเอง และจะรายงานผลการดำเนินการให้เจ้าหน้าที่ชุดตรวจสอบจับกลุ่มทราบอย่างเป็นทางการ แต่ปรากฏว่าทางเจ้าอาวาสและคณะกรรมการวัด ไม่ได้ดำเนินการ ตามวินัยสงฆ์และมีการปกป้องให้พระสงฆ์รูปดังกล่าว โดยย้ายไปจำพรรษาที่วัดแห่งหนึ่งในตำบลท่าเรือ อำเภอเมืองจังหวัดนครศรีธรรมราช สร้างความไม่พอใจให้กับพระภิกษุและชาวบ้านที่ เห็นเหตุการณ์และทราบข่าว เป็นอย่างมาก เพราะถือว่าเป็นการเข้าเลื่อยช่วยเหลือปกป้องคุณผิดทำให้ศาสนาเสื่อมเสียมัวหมอง จึงรวมตัว ร้องเรียนสื่อมวลชนให้ติดตามความคืบหน้าในเรื่องนี้ ล่าสุดนายจักรกฤษณ์ ฝั่งชลจิตร์ ได้สั่งการให้นายอธิราช โรจน์ดวง หัวหน้าชุดตรวจสอบจับกุมฝ่ายปกครอง รายงานข้อเท็จจริง และกำชับให้ดำเนินการตามกฎหมาย

 
ในขณะที่นายอธิราช โรจน์ดวง กล่าวว่า ในวันดังกล่าว (27 ก.ย.) พระภิกษุทุกรูปให้ความร่วมมือยอมให้ตรวจปัสสาวะแต่พระภิกษุรูปดังกล่าวไม่ยอมให้ตรวจปัสสาวะแต่ยอมรับว่าได้เสพยาบ้าจริง จึงขอตรวจค้นภายในกุฏิไม่พบยาบ้าแต่พบอุปกรณ์การเสพยาบ้า 1 ชุด ทางเจ้าอาวาสอ้างว่าอยู่ในพรรษาขอดำเนินการตามวินัยสงฆ์เองและจะรายงานผลการดำเนินการตามวินัยสงฆ์ให้ตนทราบแต่จนถึงขณะนี้เรื่องก็เงียบหายไม่มีการรายงานการดำเนินการให้ทราบแต่อย่างใดจนกระทั่ง เรื่องถูกเปิดเผยทางโซเชี่ยลดังกล่าว ในเมื่อทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองให้เกียรติเจ้าอาวาส คณะสงฆ์ และคณะกรรมการวัดที่ยืนยันจะดำเนินการ ตามวินัยสงฆ์ ตามที่ท่านเจ้าอาวาสอ้างว่าอยู่ในพรรษา แต่กลับไม่ดำเนินการใด ๆ และยัง ปกป้องช่วยเหลือคนผิดแบบนี้ ทางนายอำเภอเมืองได้สั่งการให้ตนนำเจ้าหน้าที่ออกติดตามตัวพระภิกษุสงฆ์รูปดังกล่าว เพื่อดำเนินการบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด โดยจะติดตามตัวพระภิกษุสงฆ์ รูปดังกล่าวมาตรวจปัสสาวะซ้ำ พร้อมแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมายอย่างเด็ดขาดต่อไป

 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังความจริงถูกเปิดเผยทางเจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่ง ในตำบลท่าเรือ อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช ที่พระสงฆ์ทาสยาเสพติดรูปดังกล่าวย้ายไปจำพรรษาอยู่ได้ไล่พระภิกษุสงฆ์รูปดังกล่าวออกจากวัดทันที ก่อนที่นายอธิราช โรจน์ดวง จะนำกำลังเจ้าหน้าที่เดินทางไปถึงที่วัดดังกล่าว ซึ่งทราบว่ามีกลุ่มบุคคล นำพระรูปดังกล่าว เดินทางไปขอจำพรรษาที่วัดสากเหล็ก ต.อินคีรี อำเภอพรหมคีรี จังหวัดนครศรีธรรมราช นายอธิราช โรจน์ดวง ปลัดอำเภอหัวหน้าชุดเฉพาะกิจฝ่ายปกครองอำเภอเมือง ได้นำกำลังติดตามพระสงฆ์ทาสยาเสพติดรูปดังกล่าวรูปดังกล่าวไปยังวัดสากเหล็ก เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไปแล้ว.

หน้าแรก » ภูมิภาค