วันพุธ ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 11:57 น.

ภูมิภาค

"นินิว" CEO น้ำปลาร้าแจง อดีตคนใกล้ชิดปลอมลายเซ็นกู้แบงค์ 80 ล้าน

วันพฤหัสบดี ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2567, 20.22 น.

วันที่ 24 ตุลาคม 2567 เวลา 11.00 น.ที่บริษัทอิ่มสุขฟู๊ดฯ เลขที่ 361  บ.ดงยอ ต.พังขว้าง อ.เมือง จ.สกลนคร น.ส.เฌอลินญ์ อภินาราเกษมสิทธิ์ อายุ 31 ปี หรือ นินิว เจ้าของบริษัทอิ่มสุขฟู๊ดฯ  พร้อมนายธีรศักดิ์ ทองทรวง ทนายความ แถลงต่อสื่อมวลชน ภายหลังนินิวถูกหนังสือทวงถามการผิดนัดชำระสินเชื่อกับธนาคารแห่งหนึ่งสาขาสกลนคร ในฐานะคนค้ำประกัน เมื่อต้นเดือนตุลาคม 67 ที่ผ่านมา จึงทำให้ถึงกับงงว่าตัวเองนั้นได้ไปค้ำประกันให้ใครตอนไหนอย่างไร จึงโร่ไปตรวจสอบกับธนาคารเบื้องต้นพบว่า ตัวเองนั้นถูกอดีตชายคนสนิทนำหลักฐานและลายมือชื่อของตนเองไปค้ำประกันวงเงินสินเชื่อกับธนาคารถึง 4 สัญญา เมื่อปี 2566 รวมกันแล้ว 80 ล้านบาท 

น.ส.เณอลินญ์ อภินาราเกษมสิทธิ์ หรือ นินิว กล่าวว่า จากกรณีตนได้รับใบแจ้งหนี้ผิดนัดชำระในฐานะคนค้ำประกัน จึงอยากยืนยันว่าตนเองนั้นไม่ได้เซ็นต์หรือมอบอำนาจให้ใครไปทำธุรกรรมสินเชื่อกับธนาคารและสามารถยืนยันได้ว่าเมื่อกลางเดือนพฤษภาคม 2566 ตอนเกิดสัญญาขึ้นกับทางธนาคาร ตนเองนั้นอยู่ที่ไหนอย่างไรและไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวกับทางธนาคาร ซึ่งมีหลักฐานและพยานยืนยันความบริสุทธิ์ได้ เรื่องนี้หลังทราบเรื่องตนเองนั้นเหมือนไม่ได้รับความเป็นธรรมมีอุปสรรคในเรื่องเอกสารกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงต้องพึ่งทนายความและศาล วันนี้ตอนเช้าที่ผ่านมาได้เดินทางไปศาลจังหวัดสกลนคร เพื่อฟ้องบุคคลที่เกี่ยวข้องในสัญญาทั้งทางแพ่งและทางอาญา ที่ทำให้ได้รับผลกระทบเสียโอกาสทางการเงินเกี่ยวกับธุรกิจ

นายธีรศักดิ์ ทองรวง ทนายความกล่าวว่า วันนี้ได้เดินทางไปยังศาลจังหวัดสกลนคร เพื่อฟ้อง 2 คดี ประกอบด้วยคดีแพ่งยื่นขอให้ศาลมีคำสั่งสัญญาค้ำประกัน  4 ฉบับ ให้เป็นโมฆะ เพราะว่าเจ้าตัวไม่ได้มีเจตนาไปค้ำประกันด้วยการลงลายมือชื่อเองหรือมอบหมายให้ผู้ใดทำแทน และต้องการเอกสารต้นฉบับของสัญญาทั้งหมดมาตรวจสอบความถูกต้องว่าเป็นลายมือชื่อของผู้ค้ำประกันจริงหรือไม่ และการยื่นฟ้องต่อแพ่งมีการเรียกร้องต่อจำเลยทั้งหมด 6 คน เป็นจำนวนเงิน 20 ล้านบาท ส่วนคดีอาญาได้ฟ้องจำเลยทั้งหมด 5 คนที่มีส่วนเกี่ยวข้องตามเอกสารที่ปรากฎ ทั้งผู้กู้กรรมการผู้กู้และจนท.ธนาคารที่รับรองว่าคุณนินิวไปลงลายมือชื่อความผิดฐานปลอมแปลงเอกสารและใช้เอกสารปลอม 

นายธีรศักดิ์ ทนายความ กล่าวอีกว่า การออกมาชี้แจงต่อสื่อมวลชนครั้งนี้เพราะเจ้าตัวตกเป็นผู้เสียหายและอยากตั้งข้อสังเกตุธนาคาร เหตุใดการทำสินเชื่อวงเงินสูงขนาดนี้ถึงปล่อยป่ะละเลยเรื่องเอกสารได้อย่างไรทั้งที่เจ้าตัวไม่รู้  ซึ่งวันทำธุรกรรมสินเชื่อดังกล่าวทางเราและเจ้าตัวมีพยานและหลักฐานพิสูจน์ได้ว่าวันทำธุรกรรมดังกล่าวนั้นคุณนินิวไม่ได้อยู่ในสถานที่ทำธุรกรรมหรือไปลงลายมือชื่อใดๆทั้งสิ้น และวันที่ถูกนำชื่อไปทำธุรกรรมคือวันเดียวกันช่วงเซ็นต์ใบหย่าเมื่อเดือนพฤษาคม 2566 จึงเป็นที่หน้าสังเกตุเป็นอย่างมาก ทั้งนี้คุณนินิวตกเป็นผู้ค้ำประกันโดยไม่มีเจตนาท่ากับว่ามีหนี้และภาระเพิ่มในระบบการเงินทำให้เสียโอกาสในการทำธุรกิจเป็นอย่างมาก สิ่งที่เกิดขึ้นต่อไปนี้อยากให้ธนาคารที่ทำเรื่องตรวจสอบข้อเท็จจริงตรงนี้ด้วย.

หน้าแรก » ภูมิภาค