กสทช.ลงพื้นที่ตรวจสอบเสาสัญญาณโทรศัพท์ในพื้นที่ชายแดนแม่สาย–เชียงแสน หลังพบคลื่นไทยล้ำเข้าเพื่อนบ้านกระทบความมั่นคงโทรคมนาคม 

( 14 พย.2568 )นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการ กสทช. รักษาการเลขาธิการ กสทช. นำเจ้าหน้าที่จากสำนักงาน กสทช. ร่วมกับสำนักงานตำรวจสอบสวนกลาง และกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 5 ลงพื้นที่ตรวจสอบเสาสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ตามแนวชายแดนจังหวัดเชียงราย หลังได้รับแจ้งว่ามีคลื่นสัญญาณจากเครือข่ายโทรศัพท์มือถือของไทยล้ำเข้าไปในประเทศเพื่อนบ้าน โดยมีการร้องเรียนว่าประชาชนได้รับความเสียหายจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งตั้งฐานหลอกลวงในประเทศลาวและเมียนมาในพื้นที่ติดชายแดนจังหวัดเชียงราย และอาจมีการใช้สัญญาณอินเทอร์เน็ตของไทยเป็นช่องทางก่อเหตุ

ช่วงเช้าคณะได้ลงพื้นที่บริเวณชายแดน อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ตรงข้ามเมืองท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา พบว่าสัญญาณโทรศัพท์จากเครือข่ายไทยยังสามารถใช้งานได้ในฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งพบการวางจำหน่ายซิมการ์ดของไทยในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งเข้าข่ายเป็นปัญหาด้านความมั่นคงทางโทรคมนาคม ต่อมาในช่วงบ่าย คณะได้ลงพื้นที่เพิ่มเติมในอำเภอเชียงแสนตามแนวแม่น้ำโขง โดยใช้โดรนบินสำรวจเพื่อทดสอบสัญญาณ พบว่าเสาสัญญาณบางแห่งของประเทศเพื่อนบ้านมีทิศทางหันหน้าเข้ามาทางฝั่งไทย และมีคลื่นสัญญาณแผ่เข้ามาในเขตประเทศไทยลึกประมาณ 2 กิโลเมตร ถือเป็นประเด็นที่ต้องเร่งตรวจสอบและแก้ไขร่วมกันอย่างเร่งด่วน

นายไตรรัตน์กล่าวว่า ขณะนี้ต้องให้ความสำคัญด้านความมั่นคงเป็นหลัก แม้อาจทำให้ประชาชนในบางพื้นที่ชายแดนใช้งานโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตได้ยากขึ้นในช่วงแรก เนื่องจากจำเป็นต้องรื้อถอนเสาสัญญาณบางส่วนที่อยู่ติดแนวชายแดน เพื่อป้องกันปัญหาคลื่นสัญญาณล้ำข้ามพรมแดน ทั้งนี้ กสทช. เตรียมดำเนินการตรวจสอบและรื้อถอนเสาสัญญาณทั้งเทียร์ 1 และเทียร์ 2 ในพื้นที่ 9 จังหวัดที่มีพรมแดนติดประเทศเพื่อนบ้าน พร้อมพิจารณาติดตั้ง “สมอลเซลล์” เพื่อรองรับการใช้งานของประชาชนในพื้นที่แทน

รักษาการเลขาธิการ กสทช. กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือเพื่อตรวจสอบสาเหตุทางเทคนิค รวมถึงพิจารณาว่ามีการฝ่าฝืนมาตรการควบคุมสัญญาณหรือไม่ หากพบการละเมิดอาจมีการใช้มาตรการทางกฎหมาย เช่น การปรับหรือระงับใบอนุญาต โดยย้ำว่าจำเป็นต้องเพิ่มความเข้มงวดเพื่อป้องกันไม่ให้เครือข่ายโทรคมนาคมของไทยถูกนำไปใช้ในกิจกรรมผิดกฎหมาย เช่น การโทรหลอกลวงหรือสแกมเมอร์ ซึ่งเป็นภัยต่อความมั่นคงในปัจจุบัน