ประชาสัมพันธ์
"วราวุธ" เปิดเวที CAL Forum รุ่นแรก ดึงผู้นำภาครัฐ ธุรกิจเอกชน นักวิชาการ สื่อมวลชน ร่วมคิดสู่เป้าหมาย Net-zero
วันเสาร์ ที่ 04 ธันวาคม พ.ศ. 2564, 12.51 น.
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
"วราวุธ" เปิดเวที CAL Forum รุ่นแรก ดึงผู้นำภาครัฐ ธุรกิจเอกชน นักวิชาการ สื่อมวลชน ร่วมคิดสู่เป้าหมาย Net-zero
นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรั พยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) เป็นประธานเปิดโครงการ Climate Action Leaders Forum (รุ่นที่ 1) โดยมี นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม (ปกท.ทส.) ร่วมด้วย นายเกียรติชาย ไมตรีวงษ์ ผู้อำนวยการองค์การบริหารจั ดการก๊าซเรือนกระจก (TGO ) และผู้นำองค์กร ทั้งจากภาครัฐ ภาคเอกชน ภาควิชาการ องค์กรระหว่างประเทศ สื่อมวลชน ตลอดจนองค์กรอิสระ จำนวน 49 คน เข้าร่วมงาน ณ ห้อง META สโมสรราชพฤกษ์ โครงการ North Park กรุงเทพฯ
นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทส. กล่าวว่า นโยบายด้านสิ่งแวดล้อมที่ถูกต้ องนั้น จะต้องเป็นนโยบายที่ซึมแทรกอยู่ ในทุกมิติของการพัฒนาประเทศ เพราะทุกกิจกรรมที่เราทำล้วนก่ อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิ อากาศ ซึ่งรัฐบาลไทยมีแนวทางในการแก้ ไขปัญหา ทั้งการกำหนดนโยบาย ตลอดจนการออกกฎหมาย การส่งเสริมการมีส่วนร่วมจากทุ กภาคส่วน การยกระดับเทคโนโลยีและนวั ตกรรมและการจัดสรรทรั พยากรทางการเงินสำหรับการดำเนิ นงานด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิ อากาศ ผลักดันการลงทุน กระตุ้นการเติบโตของตลาด การสร้างงาน และการพัฒนาทางเศรษฐกิจที่เป็ นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยได้มอบหมายให้ TGO เป็นหน่วยงานที่ให้บริการ รับรองปริมาณคาร์บอนเครดิต หรือก๊าซเรือนกระจกที่ลดได้ ในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งจากโครงการด้านพลังงาน ขนส่ง อุตสาหกรรม การจัดการของเสีย การเกษตร และป่าไม้ ซึ่งสามารถนำไปสู่การชดเชยคาร์ บอนเครดิต ตลอดจน ซื้อขายแลกเปลี่ยนคาร์บอนเครดิ ตได้ต่อไป เป็นการเปลี่ยนผ่านจาก Black Gold ไปสู่ Green Gold
อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญ คือ ต้องให้ความรู้กับพี่น้ องประชาชนซึ่งจะช่วยให้เกิ ดการรักษาป่าไม้ขึ้นได้ เนื่องจากจะเป็นแหล่งสร้ างรายได้ให้กับพวกเขา สอดคล้องกับ 3 ปัจจัยหลักในการปรับเปลี่ยนพฤติ กรรม ได้แก่ 1) ปัจจัยทางการเงิน อาทิ ทำแล้วจะโดนปรับ ทำแล้วจะได้เงิน 2) การออกกฎหมายและมาตรการลงโทษ และ 3) ความตาย ที่ถ้าไม่ทำแล้วจะถึงแก่ชีวิต ซึ่งปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภู มิอากาศไม่ได้ทำให้เสียชีวิ ตในทันทีแต่กว่าจะรู้ตัวก็ อาจเกินเยียวยาแล้ว ทั้งนี้ หากประชาชนสามารถตระหนั กในประเด็นนี้ได้ พื้นที่สีเขียวในประเทศไทยก็ จะเพิ่มขึ้น และบรรลุเป้าหมายตามยุทธศาสตร์ ชาติ 20 ปี ที่ได้ตั้งเป้าการมีพื้นที่สี เขียว ให้ได้ 55% โดยในจำนวนนี้ ต้องเป็นป่า 40%
รมว.ทส. ยังได้ย้ำว่า มนุษย์ต้องปรับตัวให้เข้ากั บธรรมชาติ ไม่ใช่ให้ธรรมชาติปรับตัวเข้ าหาเรา โดยคาดหวังให้ CAL Forum เกิดการขยายผลไปยังเครือข่าย ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นของสิ่งดี ๆ ที่จะทำให้ประเทศไทยเป็นตัวอย่ างที่ดีให้กับประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกได้ โดยจำเป็นต้องบูรณาการความร่ วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน ส่วนวิชาการ องค์กรอิสระ ตลอดจนสื่อสารมวลชน และภาคประชาสังคมในการร่วมกันขั บเคลื่อน เพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่ งยืน และก่อให้เกิดการลดการปล่อยก๊ าซเรือนกระจก มุ่งสู่การบรรลุเป้าหมาย Carbon Neutrality และ Net-Zero Emissions
ในโอกาสนี้ ยังได้รับเกียรติจาก ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา ที่ได้ให้มุมมองต่อการดำเนิ นการด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิ อากาศและการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยขอให้เดินตามรอยพระบาทสมเด็ จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 น้อมนำตัวอย่ างและแนวทางตามแนวพระราชดำรั สมาปฏิบัติอย่างจริงจัง เพื่อความอยู่รอดและความยั่งยื นอย่างแท้จริง ซึ่งขอให้ยึดแนวคิดเศรษฐกิ จพอเพียง ที่เป็นเสมือน New Normal ในระดับความคิด มีการประมาณตน อย่าทำอะไรเกินตัว เนื่องจากต้นทุนดินน้ำ ลมไฟของแต่ละประเทศแตกต่างกัน ดังนั้น จึงต้องปรับพฤติกรรมให้สอดคล้ องกับต้นทุนที่เรามีอยู่ และใช้ให้เกิดประโยชน์คุ้มค่าสู งสุด ทั้งนี้ ต้องเข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา ซึ่งเมื่อเข้าใจว่าภัยอั นตรายอยู่ตรงไหน เข้าใจว่าสิ่งที่ควรทำคื ออะไรแล้ว เราต้องเข้าถึงการกระทำด้วย เพื่อนำไปสู่การพัฒนาและพั ฒนาไปสู่ความยั่งยืน ไม่ใช่พัฒนาเพื่อความร่ำรวยมั่ งคั่ง โดยคาดหวังว่าการระดมความคิดจาก CAL Forum ในครั้งนี้ ทุกคนจะร่วมกันสืบสานและดำเนิ นงานไปในทิศทางเดียวกันเพื่ อนำไปสู่ความยั่งยืน และความอยู่รอดของคนในยุคเรา และโดยเฉพาะกับคนยุคหน้าต่ อไปอย่างไม่รู้จบ ตลอดจนขอให้ทุกคนมีกำลั งใจในการทำงาน มีความรับผิดชอบต่อชีวิตตัวเอง ชีวิตคนรุ่นหน้า และ รับผิดชอบต่อแผ่นดิน
ทั้งนี้ โครงการ CAL Forum จัดขึ้น ในบรรยากาศของการแลกเปลี่ ยนความคิดและมุมมองที่ หลากหลายจากประสบการณ์ของผู้ นำวงการต่าง ๆ เสมือนการย่อ World Economic Forum ลงมาสู่เรื่อง Climate Action ต่อสู้กับ Climate Crisis เพื่อให้ได้ข้อเสนอและข้อตกลงร่ วมกัน ในการนำพาประเทศไทยบรรลุเป้ าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี ค.ศ. 2050 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิ เป็นศูนย์ ภายในปี ค.ศ. 2065 ด้วยความเชื่อที่ว่า “ผู้นำ” คือ ผู้ที่มีความสำคัญสูงสุด ในการกำหนดทิศทาง และนโยบายขององค์กร ในประเด็นการมีส่วนร่วมในการบริ หารจัดการองค์กร ลดความเสี่ยงจากภัยอันเนื่ องมาจาก Climate Change หรือ Climate Action ให้เกิดผลลัพธ์ที่เป็นรู ปธรรมได้ โดยจัดในรูปแบบ Series of Conferences สร้างเวทีการมีส่วนร่วมระดับผู้ นำ จำนวน 5 ครั้ง ในช่วงบ่ายตั้งแต่ 15.00 น. ของวันศุกร์ ยกเว้นวันศุกร์ที่ 10 ธันวาคม และจะสิ้นสุด ในวันศุกร์ที่ 14 มกราคม 2565 ซึ่งในครั้งที่ 5 จะเป็นการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ถึงผลลัพธ์ที่ได้จากการหารือ
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
หน้าแรก » ประชาสัมพันธ์
ข่าวในหมวดประชาสัมพันธ์
- ศิลปินนักร้องชื่อดัง ปุ๊อัญชลี พร้อมกรรมการเลขาฯ และอาสาศิลปินฯ คลายร้อนประชาชนและใส่ใจผู้สูงวัยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 08:06 น.
- มาสด้าเปิดโอกาสนักกอล์ฟเยาวชนไทยไปอเมริกาก้าวแรกสู่การเป็นโปรกอล์ฟ 20:52 น.
- “เหว่ยฉาย” โชว์ศักยภาพชุดเครื่องกำเนิดไฟฟ้า 3 เมกกะวัตต์ 13:26 น.
- PHG ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 ผถห.อนุมัติปันผล 0.52 บาทต่อหุ้น 14:10 น.
- JPARK ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 ผถห. อนุมัติปันผล 0.0375 บาทต่อหุ้น 12:53 น.