วันเสาร์ ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2567 05:07 น.

ประชาสัมพันธ์

'ธัญ’ แนะเทคนิคดูแลผิวกลับมาชุ่มชื้นสุขภาพดี

วันอาทิตย์ ที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2565, 17.50 น.
'ธัญ’ แนะเทคนิคดูแลผิวกลับมาชุ่มชื้นสุขภาพดี
 
'ธัญ’ (THANN) ร่วมกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและความงาม แนะนำวิธีสังเกตุอาการผิวแห้งขาดน้ำ ที่ส่งผลให้เกิดริ้วรอย พร้อมเทคนิคดูแลผิวให้กลับมาชุ่มชื้นสุขภาพดี
 
การมีผิวสวยสุขภาพดี ช่วยเสริมความมั่นใจได้เป็นอย่างดี แต่บ่อยครั้งที่เราต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ มลภาวะ การพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ รวมถึงการปรนนิบัติดูแลผิวแบบไม่ถูกวิธี ทำให้ประสบกับปัญหาผิวแห้งขาดน้ำ ผิวขาดความเรียบเนียน ลอกเป็นขุย รวมถึงปัญหาการเกิดริ้วรอย  แบรนด์ผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลสุขภาพผิวและความงาม
 
‘ธัญ’ (THANN) จึงได้เชิญแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและความงาม แพทย์หญิงอวิกา รงค์ทอง มาแนะ “วิธีสังเกตอาการผิวแห้งขาดน้ำที่ส่งผลให้เกิดปัญหาริ้วรอย พร้อมเทคนิคดูแลผิวให้กลับมาชุ่มชื้นมีสุขภาพดี” กับผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพผิวในกลุ่ม ‘ชิโซะ’ (Shiso Collection) อาทิ ไฮเดรติ้ง อิมัลชั่น (Hydrating Emulsion), ไรซ์ เอ็กซ์แทร็ก มอยซ์เจอร์ไรซิ่ง ครีม (Rice Extract Moisturizing Cream) และ เอจ อินเวอร์ชั่น เฟซ ครีม (Age Inversion Face Cream) โดยมีเซเลบริตี้สาวสวยร่วมเผยวิธีการดูแลสุขภาพผิวหน้าให้ชุ่มชื้นไร้ริ้วรอยตามแบบฉบับตนเอง อาทิ  ธัญวรรณ เทพหัสดิน ณ อยุธยา, รินทร์รตา อินทามระ และ โศภิดา จิระไตรธาร
 
แพทย์หญิงอวิกา รงค์ทอง แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและความงาม ได้แนะนำวิธีสังเกตุอาการผิวแห้งขาดน้ำที่ส่งผลให้เกิดริ้วรอยพร้อมเทคนิคดูแลผิวให้กลับมาชุ่มชื้นสุขภาพดีว่า “ผิวแห้ง (Dry skin) และผิวแห้งขาดน้ำ (Dehydrated skin) อาจทำให้หลายคนเกิดความสับสนว่าทั้งสองอย่างคือสิ่งเดียวกัน เพราะมีลักษณะอาการที่เหมือนกัน แต่หากหมั่นสังเกตอาการจะทราบถึงความต่างกัน ผิวแห้งขาดน้ำจะเป็นแค่อาการที่เกิดขึ้นเพียงชั่วคราวเท่านั้น ไม่ได้เป็นลักษณะผิวที่เป็นมาแต่กำเนิด
 
ผิวแห้งขาดน้ำ (Dehydrated skin) เป็นภาวะปัญหาที่ผิวขาดความชุ่มชื้น หรือขาดน้ำไปหล่อเลี้ยงเซลล์ผิวใต้ชั้นผิวหนังทำให้ผิวเกิดการแห้งกร้าน สามารถเกิดได้กับทุกสภาพผิว โดยผิวแห้งขาดน้ำมักจะมีผิวที่ทั้งแห้งและมันในเวลาเดียวกัน สามารถสังเกตลักษณะอาการได้ เช่น หลังล้างหน้าจะรู้สึกว่าผิวหน้าแห้งตึง หยาบกร้าน และแตกลอก แต่ในขณะเดียวกันระหว่างวันผิวจะมัน เป็นสิวง่าย แต่งหน้าไม่ติด ซึ่งเกิดจากการผลิตน้ำมันบนผิวมากเกินไปเพื่อชดเชยความชุ่มชื้นที่เสียไป ทำให้ดูผิวมัน รูขุมขนกว้าง หากปล่อยไว้นานอาจทำให้ผิวสูญเสียการทำงาน เกิดการแพ้ระคายเคือง ส่งผลให้เกิดริ้วรอยบนใบหน้า
 
สาเหตุของการเกิดผิวแห้งขาดน้ำนั้นเกิดได้ทั้งจากปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอก โดยปัจจัยภายใน ได้แก่ โรคทางพันธุกรรม เช่น โรคผิวหนังอักเสบภูมิแพ้ ที่ทำให้รักษาน้ำไว้ที่ผิวหนังไม่ได้ และอายุของเรา โดยอายุที่มากขึ้นนั้นจะส่งผลให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันน้อยลง ไขมันระหว่างเซลล์ก็ลดลง ทำให้ผิวหนังสูญเสียน้ำได้ง่าย
 
ปัจจัยภายนอก ได้แก่ สารเคมีหรือสารทำความสะอาดชนิดรุนแรงที่ไปชะล้างน้ำมันเคลือบผิวมากเกินไป ทำให้ผิวหนังสูญเสียน้ำง่ายขึ้น การลอกผิวหรือผลัดเปลี่ยนผิวชั้นหนังกำพร้าเร็วกว่าปกติ จนไม่สามารถสร้างชั้นไขมันได้ทัน ส่วนใหญ่จะพบในผู้ที่มีประวัติการใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดผิวที่มีความเข้มข้นสูง และใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศร้อนและเย็น ทำให้ผิวสูญเสียน้ำง่ายและมากขึ้น ผิวก็จะแห้งและเกิดการอักเสบ นอกจากนี้ยังมีพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันที่เคยชินแบบผิดๆ เช่น การดื่มน้ำสะอาดน้อย การตากแดดโดยไม่ทาครีมกันแดด รวมถึงการนอนหลับพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ
 
ส่วนวิธีการดูแลผิวแห้งขาดน้ำให้กลับมาชุ่มชื้นอย่างสุขภาพดี จำเป็นต้องเร่งฟื้นฟูบำรุงและเติมน้ำให้แก่ผิวอยู่เสมอด้วยการเลือกผลิตภัณฑ์ที่มอบความชุ่มชื้นกับผิวได้อย่างยาวนาน โดยไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง หรือรบกวนชั้นผิวที่บอบบาง อย่างผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารสกัดจากใบชิโซะ (Shiso) ที่มีความโดดเด่นในด้านการให้ความชุ่มชื้น ช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิวจากความแห้งกร้านและการเสื่อมสภาพของผิว อีกทั้งยังช่วยยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ไทโรซิเนส (Tyrosinase Inhibitor) ในกระบวนการสร้างเม็ดสีเมลานิน (Melanin) หรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมน้ำมันธรรมชาติ เช่น น้ำมันรำข้าว น้ำมันโจโจ้บา น้ำมันอิฟนิ่งพริมโรส และงดกิจกรรมที่ส่งผลรบกวนผิวอย่างเช่น การสครับหน้า การลอกหน้า การใช้แปรงนวดหน้าที่มีขนหยาบเกินไป ไม่ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีความเป็นกรดสูง หลีกเลี่ยงการใช้น้ำอุ่นล้างหน้า ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ เพื่อทดแทนน้ำที่ร่างกายสูญเสียไป สามารถคำนวณได้จากน้ำหนักตัว (ก.ก.) x 33 =… ซีซี (1,000 ซีซี = 1 ลิตร, 1 ลิตร = 4 แก้ว) รับประทานอาหารที่มีโอเมก้า 3, วิตามิน เอ ซี อี เพื่อลดการอักเสบของผิวหนัง และอีกสิ่งที่สำคัญ คือ ควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ”
 
ธัญ’ (THANN) ผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลสุขภาพผิวและเส้นผม ผสานคุณค่าแห่งพืชพรรณจากแหล่งธรรมชาติชั้นดีทั่วโลกและเทคโนโลยีอันทันสมัย ตลอดระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมา THANN มุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ธรรมชาติผสานเทคโนโลยีชั้นนำ ผ่านการทดสอบจากสถาบันวิจัยที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลอย่าง Spincontrol Asia Co.,Ltd. (France), Skinnova Lab Co.,Ltd. และ Dermscan Asia อาทิ Dermatological test, Irritation test และ Efficacy test เพื่อยืนยันในคุณภาพและประสิทธิภาพเพื่อการดูแลสุขภาพผิวและเส้นผม โดยปัจจุบันมีกว่า 90 สาขา รวมถึงสปาอีก 15 แห่งใน 3 ทวีป ได้แก่ เอเชีย อเมริกา และยุโรป ขอแนะนำกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ออกมาเพื่อฟื้นฟูสภาพผิวโดยเฉพาะ อุดมด้วยคุณประโยชน์ของสารสกัดธรรมชาติจาก “น้ำมันรำข้าว” (Rice Bran Oil) และ “ชิโซะ” (Shiso) ที่มีจำหน่ายในร้านและเคาน์เตอร์ ‘ธัญ’ (THANN) กว่า 100 สาขาในทวีปเอเชีย อเมริกา และยุโรป
 
ถัดมาที่สาวหวาน รินทร์รตา อินทามระ เล่าว่า “เบลเป็นคนที่ผิวค่อนข้างบอบบางและแพ้ง่าย ถึงกับเคยไปพบแพทย์ทำการทดสอบภูมิแพ้ทางผิวหนังเพื่อให้ทราบว่าผิวของเราแพ้อะไรบ้าง เพื่อจะได้เลือกผลิตภัณฑ์ดูแลผิวได้อย่างถูกวิธีและเกิดประสิทธิภาพมากที่สุด ผิวที่บอบบ้างแพ้ง่ายก็ย่อมเจอกับปัญหาระคายเคือง ลอก เป็นขุย ยิ่งเวลาที่ต้องเจอแสงแดดแรงๆ ผิวก็จะแห้งกร้านเกิดริ้วรอยได้ง่าย เวลาเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวก็จะพิจารณาจากส่วนผสมที่เป็นสารสกัดธรรมชาติที่มีคุณสมบัติในการมอบความชุ่มชื้นสู่ผิวโดยไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้หรือระคายเคือง อย่าง เอจ อินเวอร์ชั่น เฟซ ครีม นอกจากจะช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นให้กับผิวแล้ว ยังสามารถช่วยเรื่องลดเลือนริ้วรอยได้อีกด้วย นอกจากการใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวแล้ว เบลก็ยังต้องดูแลตัวเองด้วยการดื่มน้ำสะอาดวันละ 2 – 3 ลิตร เพื่อชดเชยเหงื่อที่เสียไป และไม่ทำให้ร่างกายขาดน้ำ รวมถึงนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ทำจิตใจให้ผ่อนคลาย หากเราเครียดผิวก็จะเครียดตามและทำให้เกิดอาการผิวแห้งขาดน้ำด้วย”
 
ดูแลสุขภาพผิวให้ชุ่มชื้นอย่างสุขภาพดี กับผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม ‘ชิโซะ’ (Shiso Collection) อาทิ ไฮเดรติ้ง อิมัลชั่น (Hydrating Emulsion), ไรซ์ เอ็กซ์แทร็ก มอยซ์เจอร์ไรซิ่ง ครีม (Rice Extract Moisturizing Cream) และ เอจ อินเวอร์ ชั่น เฟซ ครีม (Age inversion face cream)  ได้แล้ววันนี้ที่ออนไลน์สโตร์  www.thann.co.th (ส่งฟรีทั่วประเทศ) และร้าน ‘ธัญ’ (THANN) ทั้ง 12 สาขาทั่วประเทศ อาทิ สาขาสุขุมวิท 47, ชั้น 2 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์, ชั้น 3 ศูนย์การค้าเกษร, ชั้น 5 ศูนย์การค้าดิเอ็มโพเรียม, ชั้น 1 และชั้น 4 ศูนย์การค้าสยามพารากอน, ชั้น 1 ศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์, ชั้น 4 ไอคอน สยาม, ร้านวูว์ ถนนเจริญราษฎร์ และสาขาถนนพระปกเกล้า (ตรงข้ามวัดเจดีย์หลวง) จังหวัดเชียงใหม่, สาขาป่าตอง (หน้าโรงแรม La Flora ป่าตอง) จังหวัดภูเก็ต และ ธัญ เวลเนส เดสทิเนชั่น  จ.พระนครศรีอยุธยา

หน้าแรก » ประชาสัมพันธ์