“สมชาติ” วัดใจผู้บริหารมวยช่วยเหลือผู้ติดเชื้อโควิด 19

 

 จากกรณีที่บุคคลในวงการมวย ทั้ง เซียนมวย นักมวย สื่อมวลชน พิธีกรภาคสนาม แมทธิว ดีน – ลิเดีย ศรัณรัชต์ ภรรยา และ มิสเตอร์ ป๋อง รวมทั้ง พล.ต.ราชิต อรุณรังษี เจ้ากรมสวัสดิการทหารบก ในฐานะนายสนามมวยเวทีลุมพินี ติดเชื้อไวรัสโควิด 19 ร่วมกับผู้โชคร้ายอีก 100 กว่าคน ที่เข้าไปชมมวยรายการใหญ่ “ ลุมพินี แชมเปี้ยนเกียรติเพชร” เมื่อวันที่ 6 มีนาคม  2563 ทำให้เป็นที่มาของคำว่า “ลุมพินี เป็นจุดรวมพลวันเกิดเหตุ” ที่แพร่เชื้อโควิด 19 กระจายไปทั่ว สร้างความหวาดระแวงจนถึงทุกวันนี้ 

 

เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายวิบูณ จำปาเงิน ผู้อำนวยการ สำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย การกีฬาแห่งประเทศไทย ในฐานะนายทะเบียนมวย เปิดเผยว่า ต้องขอเรียนคนวงการมวยทุกท่านด้วยความเคารพว่า ส่วนตัวตนไม่เห็นด้วยกับข่าวที่ออกมาว่า สนามมวยลุมพินีเป็นแหล่งเพาะเชื้อ การจัดมวยของเวทีมวยลุมพินี ถือว่ามีมาตรฐานในการป้องกันอย่างเต็มที่ ตามกรอบมาตรฐานที่มีอยู่ทั้งหมด ไม่มีใครคาดคิดว่าทุกอย่างจะเกิดขึ้น แต่การแพร่เชื้อมันเป็นเหตุสุดวิสัย ที่มาจากคนที่ไปติดเชื้อที่อื่นมาก่อนที่จะมาชมมวยในวันดังกล่าว ที่สำคัญตัวเขาเองก็ไม่ทราบว่า ตัวเองได้ติดเชื้อมาแล้ว จึงไม่อยากให้สังคมเข้าใจว่า คนวงการมวยเป็นผู้สร้างความไม่ดีให้กับสังคม จนกระทั่งถูกตำหนิ และ ตกเป็นจำเลยสังคมในทุกวันนี้

 

ขณะเดียวกัน นายสมชาติ เจริญวัชรวิทย์ นายกสมาคมกีฬามวยอาชีพแห่งประเทศไทย ได้ออกมาแสดงความเห็นเช่นเดียวกันว่า ตนเองในปัจจุบันสวมหมวก 2 ใบ เป็นทั้งนายกสมาคมกีฬามวยอาชีพ และ บอร์ดกีฬามวย โดยมี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธาน ส่วนตัวอยากเรียกร้องให้ผู้เกี่ยวกับ ทั้ง โปรโมเตอร์, ผู้ใหญ่ของสนามมวยเวทีลุมพินี ได้แสดงสปิริต ออกมารับผิดชอบร่วมกัน ช่วยเหลือ เกื้อกูล ผู้ที่โชคร้ายในการติดเชื้อ ไวรัสโควิด 19 อยู่ในขณะนี้ และ รวมถึงผู้ที่หมอได้อนุญาตให้กลับไปเฝ้าอาการที่บ้านอีก 14 วัน อย่างน้อยเพื่อการแสดงความมีน้ำใจให้เพื่อนร่วมชะตากรรม ที่ไม่ได้เป็นความผิดของพวกเขา แต่ต้องมารับเคราะห์ในครั้งนี้ ส่วนตัวในฐานะนายกสมาคมกีฬามวยอาชีพ สามารถช่วยเหลือเกื้อกูลได้ในระดับหนึ่ง แต่บอร์ดบริหารกีฬามวย ถือว่าเป็นผู้ต้องดูแลโดยตรง ตอนนี้ผลรอเพียงให้ ผู้ใหญ่นัดประชุมบอร์ดจะได้มีการปรึกษาหารืออย่างชัดเจน ผมคงไม่สามารถทำอะไรข้ามขั้นตอนได้อย่างแน่นอน  แต่เป็นเรื่องที่น่าเสียดายอีกอย่างคือ ตอนนี้อยู่ในช่วง พระราชกำหนดฉุกเฉิน จึงไม่มีการประชุม ดังนั้นคงต้องรอจนกว่าทุกอย่างคลี่คลายในทางที่ดี จึงจะมีการเรียกประชุมอีกครั้ง ส่วนตัวจึงมองว่า อาจจะช้าเกินไปสำหรับการเยียวยาความรู้สึกของแฟนมวย ที่เปรียบเสมือนท่อน้ำเลี้ยงให้กับวงการมวยไทยด้วยดีตลอดมา