แกรนด์สปอร์ต​ใกล้​ 60​ ปีขอยืนหยัดคู่นักกีฬาไทย

นายชัย​ นิมากร​ ประธานกิตติมศักดิ์​รุ่นเอราวัณ​ 4​ ได้พาคณะผู้บริหารสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย​ และสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดเดินทางศึกษาดูงานการอบรมเพิ่มศักยภาพในการบริหารจัดการกีฬา ภายใต้ชื่อ"หลัก​สูตร​การเสริมสร้างธรรมาภิบาลสู่ความเป็นเลิศ" สถาบันพระปกเกล้า​ร่วมกับการกีฬาแห่งประเทศ​ไทย​ ประจำปีงบประ​มาณ พ.ศ.2563​ ชมบริษัทแกรนด์สปอร์ต​ กรุ๊ป​ จำกัด​ ที่เปิดมาอยู่คู่กับคนไทยมาอย่างยาวนาน​กว่า​ 59 ปี​ โดยมี​ นายพจน์​ วงศ์พัฒนศิลป์​ ผู้อำนวยฝ่ายดูแลสถาบันการกีฬาของบริษัทแกรนด์​ สปอร์ต​ มากล่าวต้อนรับ

ในส่วนประวัติความเป็นมาของบริษัทแกรนด์​สปอร์ต​ กรุ๊ป​ จำกัด​ เริ่มก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2504 โดยนายกิจ พฤกษ์ชะอุ่ม อดีตนักบาสเกตบอล ก่อตั้งกิจการห้องแถวเล็กๆ ในย่านวงเวียน 22 กรกฎาคม จำหน่ายเสื้อผ้ากีฬาและอุปกรณ์กีฬา ต่อมาปี พ.ศ. 2512 แกรนด์สปอร์ตได้เป็นบริษัทเครื่องกีฬาไทยบริษัทแรกที่ติดตรา "Made in Thailand" บนเสื้อผ้ากีฬา เพื่อให้ชื่อเสียงของสินค้าเป็นที่รู้จัก ปี พ.ศ. 2514 แกรนด์สปอร์ต ได้รับเลือกให้เป็นชุดกีฬาใน การแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 6 ที่ประเทศไทย เป็นเจ้าภาพ และในปี พ.ศ. 2522 ได้ขยายการส่งออกสู่ ประเทศฮ่องกงและประเทศบาห์เรน และได้ก่อตั้งแผนกวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ขึ้นภายในองค์กร เป็นบริษัทแรกในอุตสาหกรรมเครื่องกีฬาของคนไทย

เมื่อถึงปี พ.ศ. 2525 ได้ก่อตั้งบริษัท แกรนด์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ขึ้นมาเป็นบริษัทในเครือ เพื่อทำการตลาดอุปกรณ์กีฬาในประเทศ และเมื่อปี พ.ศ. 2527 ได้รับรางวัลสินค้าไทยดีเด่นจากสมาคมนิยมไทย รับพระราชทานโล่จากสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี​ ในเมื่อสมัยพระยศในช่วงเวลานั้น ซึ่งอีกปีถัดมา แกรนด์สปอร์ตก็ได้ขยายการส่งออกไปสู่ประเทศตะวันออกกลาง คือ ประเทศกาตาร์ ประเทศโอมาน ประเทศคูเวต และ ประเทศคีร์กีซสถาน​ จนปัจจุบันแกรนด์วปอร์ตเริ่มขยายแบรนด์ไปสู่การตลาดในระดับอาเซี่ยนโดยเฉพาะเวียดนาม​ ชุดทีมชาติเวียดนามที่สร้างการตลาดให้กับบริษัทเป็นอย่างมาก​ แต่ถึงอย่างไรก็ตาม​ แกรนด์สปอร์ต​ก็ยังยึดหลัก​ ชุดกีฬา​เพื่อชาติไทยและคนไทยทั้งประเทศ

หลังจากร่วมฟังบรรยายความเป็นมาของบริษัทแกรนด์สปอร์ต​ กรุ๊ป​ จำกัดเป็นที้เรียบร้อย​ ทางคณะผู้เข้าร่วมอบรมได้เดินชมงานผลิตภัณฑ์​เสื้อผ้าแกรนด์สปอร์ตในช็อปเพื่อดูแบบเสื้อผ้าฟุตบอล​ และเสื้อแข่งขันหลากหลายชนิดและชื่นชมการดีไซน์เนอร์ของแกรนด์สปอร์ตที่มองแนวทางความคิดที่สวยงามดูแล้วสะดุดตา​ สิ่งสำคัญราคาไม่แพงและคนกีฬาเข้าถึงได้จับต้องได้

ขณะที่นายวิทยา​ สะคำบัน​ เลขาธิการสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดลำพูน​ กล่าวว่า​  การได้มาดูงานของแกรนด์สปอร์ต​ กรุ๊ป​ ครั้งนี้​ ต้องยอมรับการสานงานรุ่นต่อรุ่นจนทำให้เสื้อผ้าแกรนด์สปอร์ตเป็นที่ยอมรับของคนไทยและคนต่างประเทศ​ ซึ่งเชื่อว่าผลิตภัณฑ์​ขิงแกรนด์จะยื่นหยัดคู่กับคนไทยไปตลอดกาลโดยเฉพาะตอนนี้ก้าวย่างเข้าสู่ปีที่​ 59​ โดยในปี​ 2564​ ก็จะมีอายุครบ​ 60  ปีแล้ว น่าจะเป็นปีที่ยิ่งใหญ่ของแกรนด์สปอร์ต​ต่อไป