“เพชร เมืองปทุม” จาก salesman สู่ “เซียนพระเครื่อง”

♦♦♦ “ภลลภ ประชากูล” ชื่อในวงการพระเครื่อง “เพชร เมืองปทุม” เป็นคนลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี เกิดจากครอบครัวไม่ใช่คนร่ำรวย คุณพ่อขับรถวินมอเตอร์ไซค์ คุณแม่ค้าขาย ได้ช่วยคุณแม่ขายของมาตั้งแต่อายุ 12 ปี เรียนจบมัธยมปลายแล้วไปสมัครทำงานเป็นเด็กเสริฟอยู่ร้านหมูกระทะ เพื่อช่วยหาเงินมาจุนเจือครอบครัว ที่บ้านไม่มีใครสะสมพระเครื่องหรือเครื่องรางของขลังจากวัดดังๆในจังหวัดปทุมธานีเลยทั้งที่จังหวัดปทุมธานีมีพระเกจิคณาจารย์รุ่นเก่าที่โด่งดังและมีพระเครื่องหลายวัดเป็นที่แสวงหาเช่าบูชาราคาสูงในปัจจุบัน
   

 

♦♦♦ “เพชร เมืองปทุม” คนหนุ่มที่ใช้ความอดทนขยันและซื่อสัตย์ไม่หลอกลวง สู้ชีวิตอย่างไม่ย่อท้อแม้จะต้องทำงานไร้เกียรติเพียงขอให้มีรายได้และได้เงินมาดูแลช่วยเหลือครอบครัวก็พอใจและมีความสุขแล้ว บอกให้นักข่าวฟังว่า ผมทำงานเป็นเด็กเสริฟ ร้านหมูกระทะอยู่นาน 2 ปี ได้สังเกตเห็นการบริหารจัดการด้านการค้าการขาย ในร้านหมูกระทะตลอดมาและด้วยนิสัยวัยเด็กเคยช่วยคุณแม่ขายของจึงมีความชอบงานด้านการค้าขายอยู่บ้างจึงลาออกไปสมัครงานเป็น salesman หรือพนักงานขายอาหารสัตว์ มีรายได้เป็นเงินเดือนและมีรายได้จากค่า Commission ที่มากกว่าเงินเดือน ทำอยู่ 2-3 ปีได้เงินเดือน 40,000 บาท ทำยอดขายให้บริษัท 6 เดือนแรกจาก 3-4 ล้านบาทเป็น 6-7 ล้านได้ค่าคอมมากว่า 70,000 บาทต่อปี และในปี พ.ศ.2560  บริษัทเพิ่มเป้าการขายสูงเกินกว่าความเป็นจริงที่ตลาดจะรับได้ เพชร เมืองปทุมจึงตัดสินใจลาออก
   

 

♦♦♦ ในปี พ.ศ.2560 “เพชร เมืองปทุม” ใช้เงินที่เก็บสะสมไว้นำมาลงทุน ดาวน์รถปิคอัพและเปิดร้านขายอาหารสัตว์ของตัวเองทั้งขายปลีกและขายส่ง ให้กับลูกค้าที่คุ้นเคยสมัยเป็นเซลล์ โดยมีชื่อร้านว่า   “SP Petmart” อยู่ในตัวเมือง จังหวัดปทุมธานี จนกระทั่ง ปี 2563-2564 เจอวิกฤติหนักของโรคระบาดโควิด แต่อาหารสัตว์ยังพอขายได้อยู่บ้าง แต่ก็เริ่มจะไม่เพียงพอ
   

 

♦♦♦ เพชร เมืองปทุม บอกกับนักข่าวว่า ในปี พ.ศ. 2564 ได้มาถึงจุดเปลี่ยนอีกจุดหนึ่ง คือ ได้รับคำชี้นำจากญาติที่นับถือเปรียบเสมือนพี่ชายคนหนึ่ง เกี่ยวกับพระเครื่องหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ผมได้ไปเห็นพระสมเด็จปรกโพธิ์  หลวงปู่โต๊ะปี 2518 เคยได้ยินได้ฟังมาว่าพระรุ่นนี้มีมวลสารศักดิ์สิทธิ์จากวัดบางขุนพรหม วัดพลับ ที่หลวงปู่โต๊ะเมตตาปลุกเสกถึง 5 ไตรมาส ทำให้ผมเริ่มมีความสนใจจะศึกษาหาความรู้และสะสมพระเครื่อง “นี่คือจุดเริ่มต้นชีวิตเซียนพระของเพชร เมืองปทุม”
   

 

♦♦♦ “จุดเริ่มต้นการเป็นเซียนพระของเพชร เมืองปทุม”  เพชร เมืองปทุม ได้ขอยืมพระหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี จากญาติที่นับถือเหมือนพี่ชาย(เอก เมืองนนท์) มาศึกษาหาความรู้ที่บ้าน โดยที่เค้าคอยช่วยเหลือแนะนำช่วยดูพระให้ตลอดมา จนกระทั่งเพชร เมืองปทุมสามารถดูพระเครื่องหลวงปู่โต๊ะได้เอง จึงเริ่มสะสมและโพสต์ขายและไลฟ์สดในโซเชียล  มีผู้ชมทักทายมาขอแบ่งปันบูชา จึงมองเห็นว่า “พระเครื่องเป็นอาชีพที่สามารถเลี้ยงชีพได้” วันหนึ่งได้ไปกราบรูปเหมือนหลวงปู่โต๊ะที่วัดประดู่ฉิมพลีและได้อธิษฐานให้สัจจะวาจากับหลวงปู่โต๊ะว่า “จะเล่นหาพระดีๆไม่หลอกขายพระที่ไม่ดีไม่แท้ให้ลูกค้า” และ บอกด้วยว่าสมัยนี้การซื้อขายพระเครื่องนิยมใช้ “การประกันราคาออโต้”  ผมซื้อพระแพงนอกจากจะได้พระสวยพระแท้แล้ว ยังได้มีพระมาศึกษาทำให้เราเก่งขึ้นด้วย พระแท้สามารถขายได้ตลอดอยู่แล้วครับ
   

 

♦♦♦ “จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในชีวิต” คือ ปี พ.ศ. 2566 เพชร เมืองปทุม ได้พบกับผู้ใหญ่ท่านหนึ่งที่เห็นถึงความตั้งใจ ความขยัน และที่สำคัญคือความซื่อสัตย์ จึงได้ชักชวนและนำพาเข้าสู่กลุ่ม “นะสุตรีพุทธะ พระเครื่อง” ที่กำลังมีชื่อเสียงจากการประกวดพระเครื่องตามงานประกวดต่างๆ โดยในกลุ่มนี้ประกอบด้วย นักสะสมจำนวน 3 ท่านได้ให้โอกาสผมได้เข้ามาเป็น 1 ในสมาชิกของกลุ่ม นะสุตรีพุทธะ พระเครื่อง อีกทั้งยังสนับสนุนในด้านของเงินทุนและพระที่สะสมของพวกท่านเหล่านั้น ทำให้หน้าพระได้รับความนิยมมากขึ้น จากคนเล่นพระหลักพันหลักหมื่นกลายเป็นหลักแสนหลักล้าน ในระยะเวลาเพียงแค่ 1 ปี ทำให้ผมเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในวงการพระเครื่อง  เรียกว่านี่คือ การก้าวกระโดดครั้งสำคัญในชีวิตของผม

 

 

♦♦♦ เพชร เมืองปทุมมีจุดยืนที่ชัดเจน “เล่นหาพระแท้ พระดี ซื่อสัตย์ ไม่หลอกลวง” ยินดีให้คำปรึกษา ซื้อ-ขายแลกเปลี่ยนในราคายุติธรรม หน้าร้านอยู่ที่ห้างพันธุ์ทิพย์งามวงศ์วานชั้น 2 โทร.098-6514474, Facebook: เพชรเมืองปทุม , Facebook Fanpage : นะสุตรีพุทธะ พระเครื่อง