เมื่อวันที่ 16  มิถุนายน 2568  ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ กำลังพิจารณาห้ามพลเมืองจาก 36 ประเทศ เดินทางเข้าสหรัฐ โดยเอกสารภายในของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐที่ลงนามโดย นายมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ ระบุรายชื่อของประเทศดังกล่าว ได้แก่ แองโกลา, แอนติกาและบาร์บูดา, เบนิน, ภูฏาน, บูร์กินาฟาโซ, เคปเวิร์ด, กัมพูชา, แคเมอรูน, โกตดิวัวร์, สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก, จิบูตี, โดมินิกา, เอธิโอเปีย, อียิปต์, กาบอง, แกมเบีย, กานา, คีร์กีซสถาน, ไลบีเรีย, มาลาวี, มอริเตเนีย, ไนเจอร์, ไนจีเรีย, เซนต์คิตส์และเนวิส, เซนต์ลูเซีย, เซาตูเมและปรินซิปี, เซเนกัล, ซูดานใต้, ซีเรีย, แทนซาเนีย, ตองกา, ตูวาลู, ยูกันดา, วานูอาตู, แซมเบีย และ ซิมบับเว

เอกสารระบุว่า อาจจะมีการระงับการเข้าประเทศของพลเมืองของ 36 ประเทศหรือบางส่วน หากไม่สามารถปฏิบัติตามเกณฑ์และข้อกำหนดที่กำหนดไว้ภายใน 60 วัน ซึ่งรัฐบาลของประเทศนั้นๆ ไม่ให้ความร่วมมือกับรัฐบาลในการแสดงเอกสารที่น่าเชื่อถือ อีกทั้ง หนังสือเดินทางของประเทศดังกล่าวยังเป็นที่น่าสงสัยในเรื่องความปลอดภัยด้วย

เอกสารระบุอีกว่า รัฐบาลจากบางประเทศไม่ให้ความร่วมมือกับสหรัฐในการอำนวยความสะดวกเพื่อส่งตัวพลเมืองกลับประเทศต้นทาง พลเมืองของบางประเทศอยู่ในสหรัฐเกินเวลาได้รับอนุญาตในวีซ่า อีกทั้ง พลเมืองของประเทศนั้นๆ มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายในสหรัฐ การต่อต้านชาวยิว ไปจนถึงต่อต้านกิจการของสหรัฐด้วย

เจ้าหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ กล่าวว่า รัฐบาลกำลังปรับเปลี่ยนนโยบายเพื่อรับรองความปลอดภัยของชาวอเมริกันและการปฏิบัติตามกฎหมายของชาวต่างชาติ กระทรวงต่างประเทศมุ่งมั่นในการปกป้องชาติและพลเมืองด้วยการรักษามาตรฐานที่สูงที่สุดในเรื่องความมั่นคงและความปลอดภัยสาธารณะผ่านกระบวนการวีซ่า

ก่อนหน้านี้ ทรัมป์ได้มีคำสั่งห้ามพลเมือง 12 ประเทศเข้าสหรัฐ ได้แก่ อัฟกานิสถาน, เมียนมา, ชาด, สาธารณรัฐคองโก, อิเควทอเรียลกินี, เอริเทรีย, เฮติ, อิหร่าน, ลิเบีย, โซมาเลีย, ซูดาน และเยเมน พร้อมกับจำกัดการเดินทางบางส่วนของพลเมือง 7 ประเทศ ได้แก่ บุรุนดี, คิวบา, ลาว, เซียร์ราลีโอน, โตโก, เติร์กเมนิสถาน และเวเนซุเอลา โดยอ้างว่ามาตรการนี้มีความจำเป็นเพื่อปกป้องสหรัฐจากผู้ก่อการร้ายจากต่างประเทศ รวมถึงภัยคุกคามด้านความมั่นคงอื่นๆ