วันพุธ ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2568 21:21 น.

การเมือง

รองโฆษกรัฐแจงปม! เพียงไทยในอาเซียน ตกขบวนวัคซีนโคแวกซ์

วันศุกร์ ที่ 05 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564, 22.43 น.

วันที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2564 นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงผ่านทวิตเตอร์ กรณีเกิดกระแสวิจารณ์เหตุใดประเทศไทยจึงไม่ได้รับวัคซีนโคแวกซ์ (Covax) ประเทศเดียวในอาเซียน ซึ่งเป็นโครงการความร่วมมือด้านวัคซีนนานาชาติ ที่มีองค์การอนามัยโลก (WHO) เป็นเจ้าภาพ  โดยข้อความในทวิตเตอร์ ระบุว่า  ทำความเข้าใจเงื่อนไขการจองวัคซีนผ่านโครงการ Covax  ไทยไม่ได้อยู่ในกลุ่มที่จะได้ฟรี ดังนั้นการซื้อจากผู้ผลิตโดยตรงมีความยืดหยุ่นมากกว่า

ประเทศไทยถูกจัดให้เป็นประเทศที่มีฐานะปานกลางค่อนข้างสูง หากเราจะร่วมกับโคแวกซ์ เราต้องซื้อราคาแพงกว่า และไม่สามารถเลือกวัคซีนจากผู้ผลิตรายใดได้ มีความไม่แน่นอนทั้ง ชนิด จำนวน และราคา รวมทั้งต้องจ่ายเงินล่วงหน้า ซึ่งไม่รู้ว่าจะได้วัคซีนเมื่อไร การที่เราจัดหาเอง และได้วัคซีนที่เหมาะสมกับการใช้ มีเงื่อนไขด้านราคาและเวลาที่ชัดเจนกว่า จะเป็นประโยชน์กับประเทศไทยมากกว่า

การซื้อวัคซีนผ่าน Covax Facility มีค่าธรรมเนียมในการดำเนินการ โดยการจองแบบเลือกผู้ผลิตไม่ได้จะเสียค่าธรรมเนียม 1.6 USD / โดส แต่การจองแบบเลือกผู้ผลิตได้จะเสียค่าจองทั้งหมด 3.5 USD / โดส

การซื้อวัคซีนผ่าน Covax แม้จะเลือกทำสัญญาจองซื้อแบบเลือกผู้ผลิตได้ แต่ไม่มีอิสระในการเลือกอย่างแท้จริง โดยการจองแบบเลือกผู้ผลิตได้เปิดโอกาสให้ตัดสินใจ 2 รอบ

กรณีที่ประเทศไทยไม่ร่วมโครงการวัคซีนของโคแวกซ์นั้น ได้เจรจากับโคแวกซ์มาตลอด แต่ไม่อยู่ในเกณฑ์ที่จะให้ฟรี โคแวกซ์ให้สิทธิแก่ประเทศยากจนที่ WHO และ GAVI ให้การสนับสนุนจำนวน 92 ประเทศ ส่วน 9 ชาติอาเซียนที่จะได้วัคซีนจากโคแวกซ์นั้น 6 ชาติเข้าตามเงื่อนไข (AMC) ส่วน 3 ชาติ (บรูไน มาเลเซีย และสิงคโปร์) สั่งซื้อตามเงื่อนไขที่ต้องจำยอม

รอบที่ 1 Covax ประกาศรายการตัวเลือกผู้ผลิต ให้ผู้ซื้อเลือกผู้ผลิตที่สนใจ โดยยังไม่มีการทำสัญญาซื้อกับผู้ผลิต

ข้อดี คือ หากเลือกผู้ผลิตในรายการที่เสนอ Covax จะจองวัคซีนกับผู้ผลิต โดยนำเงินที่ผู้ซื้อจ่ายไปจองล่วงหน้าให้ก่อน จากนั้น ผู้ซื้อจึงมีสิทธิ์ตัดสินใจรอบที่ 2

ข้อเสียคือ หากไม่สนใจผู้ผลิตในรายการที่นำเสนอ ผู้ซื้อจะต้องรอประกาศในตัวเลือกถัดไป ทำให้ได้วัคซีนช้าลง

รอบที่ 2 เปิดโอกาสให้ตัดสินใจว่าจะทำสัญญาซื้อกับผู้ผลิตที่ได้ทำการจองไว้หรือไม่

ข้อดีคือ หากเลือกทำสัญญา ผู้ซื้อจะต้องจ่ายค่าวัคซีนเพิ่มตามราคาจริงและได้ค่าประกันความเสี่ยงคืน

ข้อเสียคือ หากไม่เลือกทำสัญญา จะเสียค่าใช้จ่ายล่วงหน้าทั้งหมด

ค่าใช้จ่ายในการซื้อวัคซีนจาก Covax อาจจะมากกว่าตามที่ระบุในเบื้องต้น เนื่องจากผู้ซื้อต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าขนส่งวัคซีน , ค่าใช้จ่ายในการขึ้นทะเบียนวัคซีนในประเทศ และ ภาษี

การทำความตกลงซื้อวัคซีนจากผู้ผลิตโดยตรงจึงทำให้มีความยืดหยุ่นมากกว่า เพราะสามารถกำหนดจำนวนวัคซีนที่จะซื้อได้ (ตามตกลง) สามารถต่อรองราคาได้ซึ่งวัคซีนต่อโดสอาจจะมีราคาถูกลงหากซื้อในปริมาณมากขึ้น และสามารถต่อรองเงื่อนไขอื่นๆได้ตามสมควร

กรณีไทยไม่เข้าเกณฑ์รับฟรี จึงเน้นเลือกซื้อโดยตรงจากผู้ผลิตและรู้กำหนดเวลา ดังนั้นไทยเจรจาทุกทาง และไม่ตกขบวนวัคซีน ย้ำว่าไทยก็จะฉีดวัคซีนเดือน มิ.ย. เท่ากับประเทศที่ได้วัคซีน COVAX ดังนั้นไทยไม่ตกขบวน

"เสี่ยเม้ง"แจงซ้ำยันรับเงื่อนไขไม่ได้ 

ขณะที่นายวัชรพงศ์ คูวิจิตรสุวรรณ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ประเด็นแรกคือ หลายคนเชื่อว่าทุกชาติในอาเซียนยกเว้นไทย ได้รับวัคซีนจากโครงการนี้ไปแล้ว แต่ข้อมูลที่เผยแพร่ออกมานั้น ระบุเพียงแผนว่าจะให้ในเดือนมิถุนายน 2564 แต่ไม่ได้บอกว่า ทุกชาติได้ไปแล้ว ตรงนี้ต้องเข้าใจร่วมกันก่อน เป็นประเด็นแรก และที่สำคัญไทยไม่ได้ตกขบวน แต่ไทยเลือกลงมาจากขบวนเอง เพราะการซื้อวัคซีนจากโครงการข้างต้น มีบางเรื่องที่ทำให้ไทยตัดสินใจลำบาก 

อย่างแรก ตัดเรื่องไทย จะได้ฟรีออกไปก่อน เพราะรายได้ของไทย อยู่ในระดับปานกลาง ไม่เข้าข่ายการรับความช่วยเหลือ การเข้าร่วม Covax ไทยต้องใช้เงินแน่นอน กรณีจองวัคซีน ที่ไม่รู้แหล่งที่มา ต้องเสียค่าธรรมเนียม 1.6 Usd/Dose แต่ถ้าจะจองแบบ เลือกผู้ผลิต ก็ต้องเสียค่าจอง 3.5 USD/Dose ประเด็นคือ ราคานี้ จะสูงขึ้นได้อีก ขึ้นอยู่กับอุปสงค์ อุปทาน ณ ขณะนั้น 

ต่อมา หากตัดสินใจ ทำสัญญาจองแบบเลือกผู้ผลิต เราก็ต้องเลือกในสิ่งที่ Covax เลือกมาให้ก่อน เท่ากับเราไม่มีอิสระในการตัดสินใจมากนัก

ข้อมูลทั้งหมดสถาบันวัคซีนเคยอธิบายแล้ว และเท่านี้ ก็รู้แล้วว่า ไทยควรจะไปหารือโดยตรงกับทีมผู้ผลิตมากกว่า ที่จะต้องมาจัดหาผ่านคนกลาง และที่สุด ด้วยการหารือโดยตรง ไทยก็กำลังจะได้เป็นฐานการผลิตวัคซีนโควิด-19 เริ่มดำเนินการได้ภายในกลางปี 2564 แบบนี้ ดีกว่ามิใช่หรือ 

ขอย้ำว่าเรื่องวัคซีนโควิด-19 ถึงตลาด จะยังเป็นของผู้ขาย เพราะอุปทานมีน้อยกว่าอุปสงค์มหาศาล แต่ไทย ประเทศที่มีหมอเก่งที่สุด มีระบบสาธารณสุข ที่ดีที่สุด ก็เป็นผู้ซิ้อที่ฉลาดพอ ในการเลือก สิ่งที่ดีที่สุด เหมาะสมที่สุดให้คนไทย ขอให้ประชาชนมั่นใจ

"ทั้งนี้ ไทยไม่ปฏิเสธเข้าร่วมโครงการ Covax แต่ขณะนี้อยู่ในระหว่างการหารือ เพื่อให้ได้เงื่อนไขการจัดหาวัคซีนที่เหมาะสม"

หน้าแรก » การเมือง