เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2568   นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นำคณะเอกอัครราชทูตจาก 4 ประเทศ ได้แก่ นายเปาโล ดีโอนีซี (H.E. Mr. Paolo Dionisi) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอิตาลี นายปาร์ค ยง-มิน (H.E. Mr. Park Yong-min) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลี นางสาวแคทเทอรีน หว่อง (H.E. Ms. Catherine Wong) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐสิงคโปร์ นายมาซาโตะ โอตากะ (H.E. Mr. Masato Otaka) เอกอัครราชทูตญี่ปุ่น เยี่ยมชม สถาบันพัฒนาทรัพยากรมนุษย์สำหรับอุตสาหกรรมบริการสุขภาพ จังหวัดเชียงใหม่ และ โครงการหลวงศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรชนกาธิเบศรดำริ เพื่อศึกษาศักยภาพแรงงานด้านบริการสุขภาพแบบองค์รวม อาทิ การนวดไทย สปา และการใช้สมุนไพรไทย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการผลักดัน “Soft Power” ของไทยสู่ตลาดโลก โดยมี นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นายสมาสภ์ ปัทมะสุคนธ์ รองปลัดกระทรวงแรงงาน นายเดชา พฤกษ์พัฒนรักษ์ อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ผู้บริหารกระทรวงแรงงาน เข้าร่วม

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า กระทรวงแรงงานมีแผนยุทธศาสตร์ระยะยาวในการพัฒนาทักษะแรงงานบริการสุขภาพให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดโลก โดยเฉพาะด้าน Wellness เช่น นวดไทยและสปา ซึ่งได้รับความนิยมในหลายประเทศ พร้อมสร้างหลักสูตรมาตรฐานร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข โดยมีศูนย์ฝึกอบรมทั่วประเทศ และสามารถส่งออกแรงงานฝีมือได้ถูกต้องตามกฎหมาย โดยวันนี้ผมอยากให้ท่านทูตทั้ง 4 ประเทศเป็นทั้งแขกและผู้ประเมินคุณภาพ ที่จะได้เห็นด้วยตนเองว่า ไทยมีศักยภาพมากเพียงใดในการผลิตแรงงานที่มีฝีมือ จิตบริการ และวัฒนธรรมที่โดดเด่น

ด้าน นายเดชา พฤกษ์พัฒนรักษ์ อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กล่าวรายงานว่า หลักสูตรของสถาบันฯ มีถึง 30 หลักสูตร ครอบคลุมตั้งแต่ทักษะการนวด ฐานความรู้ทางสุขภาพ ไปจนถึงการสื่อสารระหว่างวัฒนธรรม เพื่อพัฒนาแรงงานสุขภาพสู่ตลาดสากล ทั้งนี้ยังเปิดรับประชาชนทั่วประเทศให้เข้าฝึกอบรมฟรี เพื่อรองรับความต้องการแรงงานในอุตสาหกรรม Wellness ที่ขาดแคลนกว่า 80,000 ตำแหน่งทั่วประเทศ

ภายหลังเยี่ยมชมการฝึกอบรมและได้ทดลองทักษะผู้ผ่านการฝึก เอกอัครราชทูตทั้ง 4 ประเทศ ต่างแสดงความชื่นชมในคุณภาพของหลักสูตร การจัดการฝึกอบรมที่มีความเข้มข้น และศักยภาพของแรงงานไทย โดยเห็นพ้องกันว่าสามารถเชื่อมโยงการจ้างงานแรงงานสุขภาพจากไทยในประเทศของตนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ในวันเดียวกัน นายพิพัฒน์ รมว.แรงงาน และคณะทูตได้เดินทางไปเยี่ยมชม โครงการหลวงศูนย์วิจัยฯ ชนกาธิเบศรดำริ และหอศิลปหัตถกรรมพื้นที่สูง โดยได้ชมการผลิตชาอินทรีย์สายพันธุ์พิเศษ “กตัญญู–อายุยืน” ที่รัชกาลที่ 9 พระราชทานชื่อ ซึ่งผลิตตามมาตรฐานอินทรีย์ 100 % ทั้งจากพื้นที่ปลูก แหล่งน้ำ และวิธีการแปรรูป
พร้อมกันนี้ คณะทูตยังได้สัมผัสผลงานหัตถกรรมชาวเขา ที่ถักทอจากวัตถุดิบธรรมชาติ ผสานภูมิปัญญาท้องถิ่นไทย โดยต่างกล่าวชื่นชมถึงความงดงาม ความประณีต และแนวคิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนของโครงการหลวง

“โครงการหลวงแห่งนี้เป็นตัวแทนของวัฒนธรรมและคุณภาพชีวิตไทยอย่างแท้จริง เป็นเกียรติที่ได้มาเยือนพร้อมกันทั้ง 4 ประเทศ” คำกล่าวของคณะทูต ระหว่างรับประทานอาหารจากวัตถุดิบโครงการหลวง