เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2568  นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้รับรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาคุณภาพน้ำในแม่น้ำกก จากนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งพบว่าสถานการณ์ภาพรวมดีขึ้นต่อเนื่อง แม้ยังมีบางจุดที่พบสารปนเปื้อนเกินมาตรฐาน ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและวิถีชีวิตของชุมชน

รัฐบาลจึงได้เดินหน้าแผนงานทุกมิติ ทั้งการควบคุมแหล่งกำเนิดมลพิษ การฟื้นฟูคุณภาพน้ำ และการเฝ้าระวังสุขภาพประชาชนอย่างรอบด้าน โดยในด้านความร่วมมือระหว่างประเทศ ได้มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้ประสานงานกับทางการสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา เพื่อหารือ แลกเปลี่ยนข้อมูล และวางแนวทางแก้ไขปัญหาแบบข้ามพรมแดนอย่างยั่งยืน ซึ่งถือเป็นความร่วมมือสำคัญเพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรร่วมกัน

ในส่วนของการปฏิบัติการในพื้นที่ หน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อม ได้แก่ กรมควบคุมมลพิษ กรมทรัพยากรน้ำ และศูนย์เทคโนโลยีดิจิทัลและอากาศยาน ได้ร่วมกันสำรวจพื้นที่โดยใช้เทคโนโลยีถ่ายภาพทางอากาศ ครอบคลุมจุดสร้างฝ่ายดักตะกอน 10 จุด และพื้นที่แก้มลิง 14 จุด ในจังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย ซึ่งได้ดำเนินการแล้วระหว่างวันที่ 5–13 พฤษภาคมที่ผ่านมา

ด้านการติดตามคุณภาพสิ่งแวดล้อมและประเมินผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน กรมควบคุมมลพิษได้เก็บตัวอย่างน้ำและตะกอนดินจากแม่น้ำกกและลำน้ำสาขาในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย รวม 24 จุด ระหว่างวันที่ 26–30 พฤษภาคม 2568 และเตรียมขยายการตรวจสอบเพิ่มเติมไปยังแม่น้ำรวกเพื่อความครอบคลุม

นอกจากนี้ รัฐบาลอยู่ระหว่างการจัดทำคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานเฉพาะด้านเพื่อประสานงานกับต่างประเทศ และติดตามสถานการณ์สิ่งแวดล้อมและผลกระทบด้านสุขภาพในพื้นที่ลุ่มน้ำกกและแม่น้ำสาย โดยจะเสนอรายชื่อคณะทำงานเพื่อพิจารณาในวันที่ 4 มิถุนายนนี้ ควบคู่กับแผนการจัดตั้ง “ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาคุณภาพน้ำ (ส่วนหน้า)” และกลุ่มประสานงานเฉพาะกิจในพื้นที่ เพื่อยกระดับประสิทธิภาพการทำงานอย่างเป็นรูปธรรม

“รัฐบาลขอให้ความมั่นใจกับประชาชนว่า ปัญหาคุณภาพน้ำในแม่น้ำกกและแม่น้ำสายกำลังได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดและรอบคอบจากทุกหน่วยงาน เพื่อฟื้นฟูความสมดุลของธรรมชาติและสร้างความมั่นคงยั่งยืนด้านคุณภาพชีวิตให้กับประชาชนในพื้นที่ต่อไป” นางสาวศศิกานต์ กล่าวทิ้งท้าย