"แพทองธาร" ขอบคุณทุกฝ่ายร่วมพิจารณางบฯ 3.7 ล้านล้านบาท รับปากเร่งขับเคลื่อนนโยบาย สร้างโอกาสให้ประชาชน มั่นใจความร่วมมือจะพาประเทศฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจไปด้วยกัน

เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2568 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยวิสามัญ(พิเศษ) ที่มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 เป็นประธานการประชุม ได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 เป็นวันสุดท้าย ต่อมาเวลา 16.00 น.ที่ประชุมลงมติรับหลัการวาระหนึ่ง ด้วยคะแนน 322 ต่อ 158 เสียง ไม่ลง 2 เสียง ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ 73 คน

ต่อมาเวลา 16.10 น.จากนั้นน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ได้กล่าวว่า ขอขอบคุณที่ได้ร่วมพิจารณางบประมาณปี 69 ที่รัฐบาลนำเสนอด้วยความตั้งใจ รัฐบาลตระหนักดีว่าการจัดทำงบประมาณในครั้งนี้เป็นการดำเนินการภายใต้ข้อจำกัดของวงเงินงบประมาณ รายจ่ายมาตรการกีดกันทางการค้าของประเทศเศรษฐกิจหลัก ความขัดแย้งทางภูมิศาสตร์ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมถึงสภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีปัจจัยรอบด้านที่ส่งผลกระทบ ความไม่แน่นอนของสภาวะเศรษฐกิจในประเทศอย่างไรก็ดีมีผลกระทบมากมายทุกวันนี้ เราก็จะสามารถขับเคลื่อนประเทศให้ไปต่อได้ ก็โดยนโยบายต่างๆที่รัฐบาล ได้เสนอต่อสภาฯ เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่างบประมาณที่ได้เสนอไปจะสามารถยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องคนไทยทุกคนได้ รัฐบาลมุ่งมั่นและตั้งใจใช้งบประมาณ เป็นเครื่องมือที่สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจตามที่แถลงนโยบายไว้ต่อรัฐสภาโดยคำนึงถึงการจัดลำดับความสำคัญของงบประมาณ เพื่อรองรับปัญหาเร่งด่วนเสริมสร้างเต็มศักยภาพของทุนมนุษย์ และพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน สนับสนุนการขับเคลื่อนพัฒนาแนวทางยุทธศาสตร์ของชาติอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้การจัดทำร่างงบประมาณปี 69 มุ่งเน้นการฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน ลดความเหลื่อมล้ำในทุกมิติและสร้างโอกาสให้ประชาชนทุกกลุ่มให้เข้าถึงทรัพยากร อย่างทั่วถึงและเป็นธรรม รวมทั้งมุ่งเน้นการรักษาวินัยการเงินการคลังของประเทศตามกรอบของกฎหมายกำหนดไว้

นายกฯ กล่าวว่า สำหรับข้อคิดเห็นและข้อสังเกตข้อเสนอแนะต่างๆขอฝากกรรมาธิการวิสามัญที่จะตั้งขึ้นโดยสภาแห่งนี้นำไปประกอบการพิจารณาอย่างละเอียดและครบถ้วนต่อไป ท่ามกลางสถานการณ์ที่เปลี่ยนเป็นไป ทั้งเรื่องการเมือง สภาวะทางเศรษฐกิจโลกที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไม่ใช่กระทบต่อประเทศของเรา แต่ส่งผลกระทบต่อทั่วโลก ดินฉันได้เดินทางไปต่างประเทศได้คุยกับผู้นำหลายประเทศมากมาย มีหลายด้าน หลายมุมที่เจอแตกต่างกัน แต่ทุกประเทศถ้าร่วมมือช่วยกันได้ก็ช่วยกันอย่างเต็มที่

"การเปลี่ยนแปลงทุกวันนี้เป็นเรื่องที่ท้าทายในการที่จะกำหนดทิศทางหรือหาข้อสรุปอย่างใดอย่างหนึ่งให้เป็นคำตอบที่ชัดเจนได้ในวันนี้เลย แต่สิ่งหนึ่งที่ดีฉันมั่นใจคือรัฐบาลชุดนี้จะทุ่มเทแรงกายแรงใจในการทำนโยบายหลายๆนโยบายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้สำเร็จเป็นรูปธรรม เราจะลดรายจ่ายของพี่น้องประชาชน เพิ่มรายได้ และขยายโอกาส และจะใช้เม็ดเงินจากพระราชบัญญัติงบประมาณชุดนี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อพี่น้องประชาชน"นายกฯ กล่าว และว่า 

ดิฉันทราบดีเหมือนที่ทุกท่านทราบว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย และทราบดีว่าพี่น้องประชาชนก็ไม่ได้ส่งเรามาทำเรื่องง่ายๆ รัฐบาลทำหน้าที่ในการบริหาร ฝ่ายค้านเป็นผู้ตรวจสอบ ถ้าเราทั้งสองมุ่งเน้นผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชนเป็นหลัก เป็นใจความสำคัญ ดิฉันมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าเราจะสามารถทำให้ประเทศผ่านวิกฤตไปได้ และสามารถทำให้เห็นผลสำเร็จร่วมกันได้แน่นอน