เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2568 ณ จังหวัดบึงกาฬ  นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ร่วมกับท่านสะเหลิมไซ กมมะสิด รองนายกรัฐมนตรีแห่ง สปป.ลาว และนางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีเทคอนกรีตเชื่อมต่อสะพาน และลงนามความตกลงว่าด้วยกรรมสิทธิ์ การใช้ การบริหาร และการบำรุงรักษา “สะพานมิตรภาพไทย–ลาว แห่งที่ 5” เชื่อมจังหวัดบึงกาฬของไทยกับแขวงบอลิคำไซของลาว

โครงการสะพานฯ มีความคืบหน้ากว่า 98% โดยโครงสร้างหลักได้ก่อสร้างเสร็จเรียบร้อย เหลืองานเก็บรายละเอียด คาดว่าจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ในช่วงเดือนตุลาคม–พฤศจิกายน 2568 ก่อนเปิดให้บริการเต็มรูปแบบในวันที่ 19 ธันวาคม 2568 ซึ่งตรงกับโอกาสครบรอบ 75 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับลาว

กระทรวงคมนาคมเชื่อมั่นว่า สะพานแห่งนี้จะเป็นแรงผลักดันให้มูลค่าการค้าชายแดนไทย–ลาว ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่กว่า 28,000 ล้านบาท เติบโตอย่างต่อเนื่อง พร้อมเป็นโครงข่ายเชื่อมโยงสู่เส้นทางโลจิสติกส์สำคัญและท่าเรือน้ำลึกของเวียดนาม เสริมศักยภาพเศรษฐกิจของภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง

ที่ผ่านมา ไทยและลาวมีการเชื่อมโยงผ่านสะพานมิตรภาพแล้ว 4 แห่ง ได้แก่

หนองคาย – เวียงจันทน์ (2537)

มุกดาหาร – สะหวันนะเขต

นครพนม – คำม่วน

เชียงของ – ห้วยทราย (เชียงราย – บ่อแก้ว)
โดยสะพานแห่งที่ 5 ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของความร่วมมือระหว่างสองประเทศ

แผนพัฒนา “สะพานมิตรภาพไทย–ลาว แห่งที่ 6” เชื่อมอุบลราชธานีกับสาละวัน

นอกจากนี้ ยังมีแผนโครงการ “สะพานมิตรภาพไทย–ลาว แห่งที่ 6” ซึ่งจะเชื่อมจังหวัดอุบลราชธานีกับแขวงสาละวัน โดยตัวสะพานมีรูปแบบเป็นสะพานโค้ง ความยาวรวม 1,607 เมตร แบ่งเป็นช่วงข้ามแม่น้ำโขง 1,020 เมตร ฝั่งไทย 517 เมตร และฝั่งลาว 70 เมตร พร้อมถนนเชื่อมต่อรวมกว่า 21 กิโลเมตร และอาคารด่านพรมแดนทั้งสองฝั่ง

มูลค่าการก่อสร้างรวมทั้งสิ้นประมาณ 4,910 ล้านบาท แบ่งเป็นฝั่งไทย 2,557 ล้านบาท และฝั่ง สปป.ลาว 2,353 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ฝ่ายลาวอยู่ระหว่างพิจารณาปรับรูปแบบถนนและจุดตัดทางแยก ซึ่งอาจทำให้วงเงินฝั่งลาวเพิ่มขึ้นราว 310 ล้านบาท

นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวง ระบุว่า สะพานมิตรภาพแห่งที่ 5 เริ่มก่อสร้างตั้งแต่ปี 2563 และจะเชื่อมต่อถนนทางหลวงหมายเลข 222 ของไทยกับถนนสาย 13 (R13) ของลาว โดยกรมทางหลวงเตรียมประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อรองรับการผ่านแดนหลังการเปิดใช้งาน