เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม  2568  นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานประชุมหารือการปฏิบัติตามกฎกระทรวงกำหนดลักษณะอาคารประเภทอื่นที่ใช้ประกอบธุรกิจโรงแรม ฉบับที่ 4 พ.ศ. 2566 ร่วมกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ณ ห้องประชุมราชบพิธ ชั้น 5 อาคารดำรงราชานุสรณ์ กระทรวงมหาดไทย
 
สืบเนื่องจากสมาคมโฮสเทล (ประเทศไทย) ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อนายกรัฐมนตรีขอให้มีการต่ออายุกฎกระทรวงฯ ออกไป ซึ่งนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้สั่งการให้เร่งรัดดำเนินการในเรื่องดังกล่าว จึงได้มีการประชุมร่วมกันระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน ผู้ประกอบการ โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมการปกครอง และกรมโยธาธิการและผังเมือง ร่วมหารือในแนวทางการดำเนินการ รวมทั้งรับฟังความต้องการและอุปสรรคของภาคเอกชน เพื่อพิจารณาปรับปรุงให้เป็นธรรมและเหมาะสม อำนวยความสะดวกผู้ประกอบการโรงแรม
 
นายชนินทร์ กล่าวว่า ในการประชุมครั้งนี้ หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนได้ร่วมกันหารือถึงประเด็นเกี่ยวกับการขยายผลกฎกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจโรงแรม ฉบับที่ 4 โดยเฉพาะในกลุ่มโรงแรมขนาดเล็กและโฮสเทลทั่วประเทศ โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อแก้ปัญหาการเข้าสู่ระบบของผู้ประกอบการโรงแรมขนาดเล็กที่ส่วนใหญ่ใช้สิ่งปลูกสร้างเดิมดัดแปลงให้เป็นที่พักอาศัย เช่น อาคารพาณิชย์ อาคารเก่า หรือบ้านพักอาศัย ซึ่งหลายแห่งไม่สามารถปฏิบัติตามกฎหมายอาคารในปัจจุบันได้อย่างครบถ้วน โดยจากการสะท้อนความคิดเห็นของสมาคมผู้ประกอบการถึงกฎหมายปัจจุบันยังไม่ตอบโจทย์ต่อธรรมชาติของธุรกิจโรงแรมขนาดเล็ก ทั้งในด้านต้นทุน การเข้าถึงข้อมูลกฎหมาย และกระบวนการอนุญาตที่ยังไม่ชัดเจน นอกจากนี้ ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังไม่มีความเข้าใจในขั้นตอนการขอใบอนุญาต และหากจะดำเนินการให้ถูกต้อง จำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงในด้านการปรับปรุงอาคารและการจ้างที่ปรึกษากฎหมาย ซึ่งหลายรายไม่สามารถแบกรับภาระได้ ดังนั้น เพื่อให้ผู้ประกอบการโรงแรมขนาดเล็กสามารถเข้าสู่ระบบได้มากขึ้น โดยไม่กระทบต่อคุณภาพ ความปลอดภัย และโอกาสในการประกอบธุรกิจ เพื่อรักษาความหลากหลายของที่พักในภาคการท่องเที่ยวของไทยในระยะยาวต่อไป
 
ที่ประชุมมีข้อสรุปให้กรมโยธาธิการและผังเมือง ดำเนินการใน 3 ข้อ ได้แก่
 
1. ปรับปรุงกฎกระทรวง กำหนดการออกแบบโครงสร้างอาคาร และลักษณะและคุณสมบัติของวัสดุที่ใช้ในงานโครงสร้างอาคาร พ.ศ. 2566 เพื่อให้สอดคล้องกับการดำเนินการของธุรกิจขนาดเล็ก 
 
2. ให้มีการต่ออายุกฎกระทรวง กำหนดลักษณะอาคารประเภทอื่นที่ใช้ประกอบธุรกิจโรงแรม ฉบับที่ 4/66 ออกไปก่อนในระหว่างการปรับปรุงกฎกระทรวงตามข้อที่ 1 ยังไม่แล้วเสร็จ
 
3. ให้กรมโยธาธิการและผังเมืองจัดเวิร์คช็อป โดยเชิญกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น กรมการปกครอง พร้อมทั้งภาคเอกชน เข้าร่วม เพื่อจัดทำหลักปฏิบัติต่อกฎหมายให้ตรงกัน และแจ้งเวียนแก่หน่วยงานในท้องถิ่นทราบ เพื่อให้เกิดการบังคับใช้กฎหมายให้ถูกต้อง 
 
นายชนินทร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การประชุมหารือในวันนี้ จะทำให้เกิดการแก้ไขปัญหาจากการบังคับใช้กฎหมายที่ยังคงมีช่องว่าง อันจะเป็นการเปิดทางสู่การอำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการที่จำเป็นต้องนำอาคารดัดแปลงเพื่อประกอบธุรกิจโรงแรมสามารถดำเนินการขออนุญาตได้ตามกฎหมาย ตอบสนองนโยบายของรัฐบาลในการขยายโอกาสให้ภาคธุรกิจรายย่อย สามารถประกอบธุรกิจได้ถูกต้องต่อไป