วันอาทิตย์ ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 10:38 น.

กีฬา

ดราม่าเลือกตั้ง "ประมุขบ้านอัมพวัน" โอลิมปิกไทย! IOC จี้สอบความโปร่งใส อาจเป็นโมฆะ!

วันเสาร์ ที่ 05 เมษายน พ.ศ. 2568, 11.20 น.

เลือกตั้งประธานโอลิมปิกไทยสะเทือนวงการกีฬา หลัง IOC สอบถามกระบวนการเลือกตั้ง มีข้อสงสัยถึงความโปร่งใส พร้อมขอพิสูจน์ความถูกต้อง กระทบเชื่อมั่นไทยในเวทีโลก ด้าน เสธ.น้อย ยอมรับการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่โปร่งใส หลังผู้ที่ทำหน้าที่ประธานวางตัวไม่เป็นกลาง ได้สร้างผลกระทบต่อวงการกีฬาไทย ความเชื่อมั่นในระดับนานาชาติ

การเลือกตั้งประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา เริ่มต้นท่ามกลางความขัดแย้งและข้อสงสัยจากหลายฝ่าย โดยเฉพาะการทำหน้าที่ของ ศ.เจริญ วรรธนะสิน ในฐานะประธานการเลือกตั้งชั่วคราวที่ถูกตั้งคำถามถึงความเป็นกลางในการดำเนินการ ซึ่งส่งผลให้เกิดการวอล์คเอาท์จากหลายสมาคมกีฬา รวมถึงนายสุชัย พรชัยศักดิ์อุดม นายกสมาคมกีฬาลอนเทนนิสฯ ที่ได้เดินออกจากการประชุม ท่ามกลางข้อกล่าวหาต่างๆ เกี่ยวกับกระบวนการเลือกตั้ง

ล่าสุด พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา อดีตเลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิกฯ และบุคคลที่มีบทบาทสำคัญในวงการกีฬาไทย ได้ออกมาเปิดเผยว่า คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) ได้ติดต่อสอบถามเกี่ยวกับกระบวนการเลือกตั้งครั้งนี้ หลังจากได้รับข้อมูลที่ชี้ให้เห็นถึงความไม่โปร่งใส โดยเฉพาะการทำหน้าที่ของ ศ.เจริญ วรรธนะสิน ในฐานะประธานการเลือกตั้งชั่วคราวที่มีการตั้งคำถามเกี่ยวกับความเป็นกลางและการดำเนินการที่อาจไม่เป็นไปตามระเบียบที่กำหนด

หลังจากที่ พล.อ.วิชญ์ ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับกระบวนการเลือกตั้งที่น่าสงสัย จึงได้ตัดสินใจส่งจดหมายถึง IOC โดยร้องเรียนถึงความไม่โปร่งใสในการเลือกตั้งครั้งนี้ และขอให้ IOC ตรวจสอบเพื่อให้มั่นใจว่าผลการเลือกตั้งจะไม่ส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของวงการกีฬาไทยในเวทีโลก

“การเลือกตั้งครั้งนี้มีคู่แข่งเพียงสองคน คือ ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย และนายสุชัย พรชัยศักดิ์อุดม นายกสมาคมกีฬาลอนเทนนิสฯ แม้จะมีการชิงตำแหน่งกันอย่างดุเดือด แต่กระบวนการเลือกตั้งกลับเต็มไปด้วยความขัดแย้งและการเมืองในวงการกีฬาไทย ซึ่งสะท้อนออกมาในการเดินออกจากการประชุมของสมาคมกีฬา 37 แห่งที่ได้แสดงความไม่พอใจต่อกระบวนการดังกล่าว

ในส่วนของประเด็นที่ถูกสอบถามจาก IOC ได้แก่
 
1.การตัดสิทธิ์นักกีฬาโอลิมปิกจากการลงคะแนน : กระบวนการเลือกตั้งครั้งนี้ได้ตัดสิทธิ์นักกีฬาโอลิมปิกที่เคยเข้าร่วมการแข่งขัน แม้ว่าในระเบียบของคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยจะยังคงระบุให้นักกีฬาที่ดำรงตำแหน่งในสมาคมสามารถลงคะแนนได้

2.การเพิกเฉยต่อการคัดค้านจากสมาคมกีฬา : สมาคมกีฬาหลายแห่งได้คัดค้านกระบวนการเลือกตั้ง โดยเฉพาะในเรื่องของความโปร่งใส แต่ประธานการเลือกตั้งกลับไม่ให้ความสำคัญกับการคัดค้านเหล่านั้น

3.การไม่ยอมรับการเดินออกจากการประชุม : หลายสมาคมกีฬาได้เดินออกจากการประชุมเพื่อต่อต้านกระบวนการเลือกตั้ง แต่ประธานการเลือกตั้งไม่ยอมรับว่าการเดินออกนั้นเป็นการประท้วงหรือการไม่เห็นด้วยกับกระบวนการ

4.การปฏิเสธคำขอให้ระงับการเลือกตั้ง : หลายสมาคมได้เรียกร้องให้ระงับการเลือกตั้งเพื่อหาทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น แต่คำขอดังกล่าวไม่ได้รับการพิจารณาอย่างจริงจัง

พล.อ.วิชญ์ กล่าวว่า หากการสอบสวนของ IOC พบว่า กระบวนการเลือกตั้งนี้ไม่เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด ก็อาจส่งผลให้ผลการเลือกตั้งไม่เป็นที่ยอมรับหรือถือเป็นโมฆะได้ ซึ่งจะสร้างผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อวงการกีฬาไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อความเชื่อมั่นในระดับนานาชาติ

การเคลื่อนไหวนี้ได้รับความสนใจจากทั้งในและต่างประเทศ เนื่องจากศักดิ์ศรีของการเป็น "ประมุขบ้านอัมพวัน" ที่มีบทบาทสำคัญในวงการกีฬาไทย รวมถึงอิทธิพลที่อาจจะส่งผลต่อการพัฒนากีฬาในระดับสากลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นอกจากนี้ ยังมีคำถามสำคัญว่า ความขัดแย้งภายในคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยจะส่งผลต่อความร่วมมือกับองค์กรกีฬาโลกหรือไม่

ความเคลื่อนไหวในครั้งนี้จึงไม่เพียงแต่เป็นเรื่องของการเลือกตั้งประธาน แต่ยังเป็นการทดสอบความโปร่งใสและความยุติธรรมในกระบวนการบริหารจัดการกีฬาไทย ซึ่งต้องติดตามกันต่อไปว่า IOC จะดำเนินการอย่างไรในเรื่องนี้ และกระบวนการเลือกตั้งจะเป็นไปในทิศทางใด

หน้าแรก » กีฬา