45 ปี กลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตให้อะไรกับประชาชน

มูลเหตุของความยากจนที่พบเห็นในหมู่บ้านชุมชนทั่วไป เริ่มตั้งแต่ผลผลิตต่ำ รายได้น้อยการออมน้อยและเงินทุนน้อย ซึ่งสาเหตุดังกล่าวจะหมุนเวียนกันเป็นวงจร เรียกว่า “วงจรแห่งความยากจน” การที่จะทำให้ชาวบ้านหลุดพ้นจากวงจรแห่งความยากจน การแก้ไขมูลเหตุด้านทุน เป็นวิธีการที่ทำได้ไม่ยากนัก กรมการพัฒนาชุมชนจึงได้ส่งเสริมและสนับสนุนให้ประชาชนจัดตั้งกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต ซึ่งเป็นการรวมตัวกันของประชาชนเพื่อช่วยเหลือตัวเอง และช่วยเหลือซึ่งกันและกัน โดยการประหยัดเงินแล้วนำเงินมาสะสมกันเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอทุกเดือน เรียกว่า “เงินสัจจะสะสมทรัพย์” เพื่อใช้เป็นทุนให้สมาชิกได้กู้ยืมไปประกอบอาชีพ หรือเพื่อเป็นสวัสดิการของตนเองและครอบครัว โดยเริ่มจัดตั้งครั้งแรกเมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2517 ที่ตำบลขัวมุง อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ และที่ตำบลละงู อำเภอละงู จังหวัดสตูล ดังนั้น ในวันที่ 6 มีนาคม 2562 นี้ จึงเป็นวันครบรอบ 45 ปีของการก่อตั้งกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต

ปัจจุบันกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต ซึ่งบริหารจัดการโดยคณะกรรมการกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต ซึ่งเป็นประชาชนในหมู่บ้านชุมชนเอง มีจำนวนทั้งหมดถึง 23,212 กลุ่ม มีสมาชิกมากกว่า 3.4 ล้านคน มีเงินสัจจะสะสม 29,827 ล้านบาท และยังมีกิจกรรมที่กลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตได้ดำเนินการทั้งในเชิงธุรกิจ และการให้การสงเคราะห์ เช่น ศูนย์สาธิตการตลาด 750 แห่ง ธนาคารข้าว 1,024 แห่ง และโรงสีชุมชน 327 แห่ง เป็นต้น ทั้งนี้ในส่วนของกรมการพัฒนาชุมชนได้ให้ความรู้เพื่อพัฒนาขีดความสามารถของคณะกรรมการกลุ่มออมทรัพย์ เพื่อการผลิตในด้านการบริหารจัดการ การบัญชี และการบริหารจัดการเครือข่าย เพื่อให้กลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตมีความเข้มแข็งและมีธรรมาภิบาลด้วยการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดำเนินชีวิต และการส่งเสริมการออมอย่างทั่วถึงในทุกช่วงอายุคนให้เกิดเป็นรูปธรรม

การดำเนินงานที่ผ่านมาถึง 45 ปี กลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตสามารถเป็นแหล่งเงินกู้ สนับสนุนเงินกู้ให้กับประชาชน เพื่อไปประกอบอาชีพมากกว่า 21,063 ล้านบาท ทำให้เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพ และสร้างรายได้จำนวนมาก ประชาชนได้รับประโยชน์จากการกู้เงินและการให้การสงเคราะห์ช่วยเหลือมากกว่า 1.5 ล้านคน นอกจากนี้กลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตยังเป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมความเป็นผู้นำ และความเป็นประชาธิปไตยในชุมชน มีการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหาร 4 คณะ ประกอบด้วย คณะกรรมการอำนวยการ คณะกรรมการเงินกู้ คณะกรรมการส่งเสริม และคณะกรรมการตรวจสอบทำหน้าที่บริหารจัดการ โดยร่วมกันกำหนดระเบียบ/กฎเกณฑ์และร่วมกันปฏิบัติ การมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ ตลอดจนกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตยังสอนให้คนรู้จักประหยัดอดออมและใช้จ่ายอย่างเหมาะสม ตระหนักถึงความสำคัญของการบริหารการเงิน ทำให้มีเงินใช้จ่าย ในยามจำเป็น ฉุกเฉิน ประชาชนรู้จักรวมเงินเพื่อช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ลดการเป็นหนี้นอกระบบ มีเงินทุนต่อยอดธุรกิจชุมชน ก่อให้เกิดความและความสามัคคีในหมู่บ้าน ชุมชน ประการสำคัญกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตเป็นการพัฒนาคนให้มีคุณธรรม 5 ประการ คือความซื่อสัตย์ เสียสละ รับผิดชอบ เห็นอกเห็นใจ และไว้วางใจซึ่งกันและกัน ทำให้คนมีคุณธรรม มีการช่วยเหลือเกื้อกูล เอื้ออาทร แบ่งปันซึ่งกันและกัน เกิดกระบวนการเรียนรู้การทำงานร่วมกัน มีการแบ่งปันผลประโยชน์และจัดสวัสดิการให้กับสมาชิก เป็นต้น