ฆ่านศ.ปวช.ปี1ทิ้งร่องน้ำ
ตร.ตั้งปมอาจรู้เรื่องการค้ายาเสพติดของใคร?

จากกรณีเมื่อเวลา 20.00 น.ของคืนวันที่ 20 ม.ค.นายไกรสร  หรือน้องกล้า สุทธานี  อายุ 16 ปี อยู่บ้านเลขที่ 40/1 หมู่ 7 ต.ทุ่งตะไคร อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร เป็นนักศึกษาอยู่วิทยาลัยการอาชีพหลังสวน ปวช.ปี 1 สาขาช่างยนต์ ถูกคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนยิงเสียชีวิตทิ้งศพลอยอยู่ในร่องน้ำกลางสวนปาล์มน้ำมัน ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านพักเพียง 1 กม. โดยก่อนหน้านั้น 3 วันญาติได้เดินทางไปแจ้งความคนหายที่สภ.ทุ่งตะโก เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งไว้ 2 ประเด็นคือชู้สาวและมีความขัดแย้งเรื่องส่วนตัวกับเพื่อนคนใดคนหนึ่งตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้ว

ล่าสุดเมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 21 ม.ค. พ.ต.ท.อิศเรศ  ไทยเจริญ รอง ผกก.(สืบสวน) พ.ต.ท.พิสิทธิ์  อักษรทิพย์  รอง ผกก.(ป) สภ.ทุ่งตะโก  พ.ต.ต.ชิษณุพงษ์  ทองเกื้อ  รอง สว.สส.สภ.ทุ่งตะโก และ เจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษ(นปพ)ภ.จว.ชุมพร  เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบหาหลักฐานในที่เกิดเหตุพร้อมนำกำลังเดินทางไปต่อยังบ้านเลขที่ 40/1 หมู่ 7 ต.ทุ่งตะไคร อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร ซึ่งเป็นบ้านของนายสุคล   และนางมุกดา  สุทธานี อายุ 51 ปี  พ่อแม่นายไกรสร หรือน้องกล้า ผู้เสียชีวิต  เพื่อสอบปากคำเพื่อน พี่ชาย และพ่อแม่ หาพยานบุคคลเร่งคลี่คลายคดีดังกล่าวให้เร็วที่สุดเพราะเป็นคดีที่สร้างความสะเทือนขวัญแก่ประชาชนคนร้ายไม่คิดเกรงกลัวกฎหมายอีกทั้งผู้เสียชีวิตเป็นเยาวชนอายุเพียง 16 ปี และกำลังศึกษาอยู่ในระดับปวช.1

พบว่าที่บ้านหลังดังกล่าวมีเพื่อนบ้านและเพื่อนนักศึกษาจำนวนมากกำลังจัดเตรียมกางเตนท์  โต๊ะเก้าอี้ เพื่อตั้งสวดอภิธรรมศพตามประเพณีหลังหน่วยกู้ภัยฯนำร่างกลับจากการชันสูตรที่นิติเวชโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานีเย็นวันนี้

ขณะเดียวกันนายสุคล  พ่อน้องกล้าได้เปิดเผยว่า ลูกชายเป็นคนดี ช่วยเหลือกิจกรรมของโรงเรียนเป็นอย่างดีโดยเฉพาะโครงการทูบีนัมเบอร์วัน  ส่วนกับเพื่อนก็ไม่มีปัญหาอะไร  ด้านนางมุกดา ผู้เป็นแม่ได้นำรูปน้องกล้าสมัยเรียนชั้นประถมศึกษามาให้ดูพร้อมทั้งเล่าว่า  ลูกชายเป็นนักเรียนที่มีเกรด 3 มาตลอด และยังเป็นนักเรียนเข้าโครงการทูบีนัมเบอร์วันเต้นต่อต้านยาเสพติดและเข้าแข่งขันชนะเลิศในระดับจังหวัดและชนะเลิศในลำดับที่ 3 ของประเทศมาแล้ว  นอกจากนั้นหลังเลิกเรียนก็จะช่วยงานบ้านมาโดยรับจ้างใส่ปุ๋ยต้นปาล์มน้ำมัน ยางพารา เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระทางครอบครัว ใช้เงินก็ประหยัดให้ไปโรงเรียน 100 บาทเหลือกลับมาบ้าน 70 บาท อุปนิสัยส่วนตัวเป็นคนร่าเริง และไม่เคยมีเรื่องกับใคร ไม่เคยเกเรจนกระทั่งมารู้ว่าลูกชายหายไปพบอีกทีว่าถูกยิงเสียชีวิตตนไม่อยากจะเชื่อจะเกิดขึ้นกับลูกชาย คนร้ายทำโหดร้ายเกินไป

        ส่วนนายไอซ์ อายุ 16 ปี นักเรียน กศน.อำเภอทุ่งตะโก  เล่าว่า ตนกับกล้าเป็นเพื่อนกันตั้งแต่สมัยเรียนเรียนอนุบาลด้วยกัน ไม่เกเรไม่เคยหาเรื่องใคร และเป็นคนที่มีปัญหาไม่เคยบอกให้เพื่อนฟังโดยจะเก็บไว้คนเดียว ตนวันเกิดเหตุตนนอนป่วยอยู่กับบ้านมารู้ว่ากล้าหายไปเมื่อเช้าวันเสาร์ที่ 19 ม.ค.และช่วยกันตามหาตามสถานที่ต่างๆโดยเฉพาะบริเวณวัดถ้ำเขาปีบจุดสุดท้ายที่หายไป  ถามว่าอาจจะไปรู้เห็นเรื่องกลุ่มแก็งยาเสพติดหรือไม่นั้นอาจจะเป็นไปได้และไม่ทราบรายละเอียดอะไรให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ การกระทำของคนร้ายนั้นนายไอซ์กล่าวว่าเป็นการกระทำที่โหดเหี้ยมเกินมนุษย์ตนรับไม่ได้

ด้านแนวทางการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นมุ่งปมประเด็นไปที่ปัญหาเรื่องยาเสพติดสันนิษฐานว่านายกล้าผู้เสียชีวิตอาจจะไปรู้หรือเห็นเพื่อนคนใดคนหนึ่งมีความเกี่ยวข้องกับยาเสพติดโดยที่นายกล้าเข้าไปห้ามปรามไม่ให้เพื่อนคนดังกล่าวนั้นออกห่างจากแก๊งค้ายาจึงทำให้เกิดความไม่ไว้ใจหรือกลัวว่านายกล้าจะเอาเรื่องกล่าวไปบอกต่อจึงเรียกนายกล้ามาเพื่อพุดคุยตกลงกันแต่นายกล้าไม่ยอมจึงเกิดการต่อสู้กันนายกล้าพลาดท่าจึงถูกยิงเสียชีวิตแล้วนำศพไปทิ้งน้ำอำพลางคดี

อย่างไรก็ตามจุดสุดท้ายที่นายกล้าหายไปและขาดการติดต่อกับญาติก็คือริมถนนสายสี่แยกเขาปีบ-ปากน้ำตะโกบริเวณหน้าวัดถ้ำเขาปีบซึ่งห่างจากจุดพบศพประมาณ 3 กม.คาดว่าคนร้ายได้นัดนายกล้ามาเจอกันและรับขึ้นรถไปโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังระดมกำลังความหากลุ่มคนที่มารับน้องกล้าไปจากหน้าวัดว่าเป็นใครซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัยฆ่านายกล้า มาสอบสวนว่าส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่