วันศุกร์ ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2567 15:49 น.

อาชญากรรม

ตร.ขอนแก่น จับขบวนการค้ายารายใหญ่ ยึด 22,000 เม็ด ค่ากว่า 2 ล้าน

วันพุธ ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2563, 14.27 น.
ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดขอนแก่น รายงานว่าเมื่อวันที่ 15 ม.ค. ภายใต้การอำนวยการของตำรวจภูธรภาค 4 นำโดย พล.ต.ท.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ ผบช.ภ.4, พล.ต.ต.สมชาย นุ่มโต รอง ผบช.ภ.4, พล.ต.ต.พรหมณัฎฐเขต ฮามคำไพ รอง ผบช.ภ.4 ,พล.ต.ต.ยรรยง เวชโอสถ รอง ผบช.ภ.4 ตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น นำโดย พล.ต.ต.พุฒิพงศ์ มุสิกูล ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น, พ.ต.อ.โผนชัย ครองยุทธ รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น พ.ต.อ.นพเกล้า โสมนัส รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น ,พ.ต.อ.เด่นพงษ์ วรรณพงษ์ รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น สถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น นำโดย พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น พ.ต.ท.พีระฉัตร สาขา รอง ผกก.ป.สภ.เมืองขอนแก่น บูรณาการกับฝ่ายปกครองและฝ่ายทหาร อาทิดร.สมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น,นายวินัย มีแก้วผอ.ศปส.ฯ ,พล.ต.ปราโมทย์ นาคจันทึก ผบ.มทบ.23 ,พ.อ.คณธัช ชนะกาญจน์ รอง ผอ.รมน.จังหวัดขอนแก่น สั่งการให้ พ.ต.ต.เมธี ศรีวันนา สวป.ฯ และ ร.ต.อ.สุระศักดิ์ สุขเสริม สว.สส.ปรก.สวปฯ พร้อมชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติด สภ.เมืองขอนแก่น ดำเนินการจับกุม นายคาวี หรือเซียงหรือวี โยริพันธ์ อายุ 36 ปี ที่อยู่บ้านเลขที่ 43 หมู่ 8 บ.แจ้งนาคำ ต.กุดเชียงหมี อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร พร้อมตรวจยึดของกลาง 1.ยาบ้า จำนวน 22,200 เม็ด มูลค่าประมาณ 2,220,000 บาท 2.อาวุธปืนแบบประดิษฐ์ทำขึ้นมาเองไม่ทราบขนาด จำนวน 1 กระบอก มูลค่า 5,000 บาท 3.โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ วีไว้(VIVO) สีเลือดหมู พร้อมหมายเลขซิมการ์ด 062-9923106 จำนวน 1 เครือง มูลค่า 15,000 บาทตรวจยึดทรัพย์สินตาม พ.ร.บ.มาตรการในการปราบปรามยาเสพติดฯ 1.รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ ไม่ติดแผ่นป้านทะเบียน จำนวน 1 ค้น มูลค่า 40,000 บาทรวมยึดทรัพย์สิน มูลค่า 60,000 บาทข้อหา 1.มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ( ยาบ้า ) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย 2.เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ( ยาบ้า ) โดยผิดกฎหมาย3. เป็นผู้ขับขี่ยานพาหนะขณะมีสารเสพติดในร่างกาย 4. มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต 
 
พฤติการณ์ในการจับกุม ก่อนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด สภ.เมืองขอนแก่น ได้ร่วมกันจับกุมตัวนายอนุศักดิ์ หรือตั้ม โคตตะ พร้อมกับยาบ้าของกลางจำนวน 30 เม็ด โดยจากการสอบถามขยายผลเกี่ยวกับของกลางที่ตรวจยึดได้ นายอนุศักดิ์ หรือตั้มฯ ได้ให้ข้อมูลว่ายาบ้าดังกล่าวตนเองได้ซื้อมาจากนายวี(ขณะนั้นยังไม่ทราบชื่อ-สกุลจริง) ในราคาเม็ดละ 50 บาท และยังให้ข้อมูลต่อไปอีกว่านายวีฯ เป็นพนักงานทำงานอยู่ที่โรงน้ำแข็งธาราทิพย์ ที่เกิดเหตุ จากนั้นจึงได้รายงานให้ พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น และ พ.ต.ท.พีระฉัตร สาขา รอง ผกก.ป.สภ.เมืองขอนแก่น ได้รับทราบ
 
จากนั้น  พ.ต.อ.ปรีชาฯ ได้สั่งการพร้อมกับมีการวางแผนให้ชุดจับกุมนำกำลังเพื่อไปขยายผลติดตามจับกุมนายวีฯ โดยให้ใช้ความระมัดระวังและให้รายงานผลการปฏิบัติให้ทราบเป็นระยะ จากนั้นชุดจับกุมจึงได้เดินทางไปยังโรงงานน้ำแข็งที่เกิดเหตุฯ โดยได้ซุ่มรอดูอยู่ประมาณ 20 นาที จากนั้นได้พบว่ามีชายคนหนึ่งได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีดำ-น้ำเงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เข้ามาจอดบริเวณด้านหน้าห้องพักพนักงานภายในโรงงานน้ำแข็งฯ จากนั้นเจ้าหน้าที่ฯ ได้ให้นายอนุศักดิ์ หรือตั้มฯ ตรวจสอบดูว่าคือนายวีฯ หรือไม่ โดยนายอนุศักดิ์ หรือตั้มฯ ได้ให้การยืนยันว่าคือ นายคาวี หรือเซียงหรือวี โยริพันธ์ (ทราบชื่อ-สกุลจริงภายหลัง) จริง โดยเป็นบุคคลที่ขายยาบ้าให้กับนายอนุศักดิ์ หรือตั้มฯ จริง จากนั้นเจ้าหน้าที่ฯ จึงได้รายงานให้ พ.ต.อ.ปรีชาฯ ได้รับทราบ    โดย พ.ต.อ.ปรีชาฯ ได้สั่งการให้เข้าไปทำการตรวจค้นจับกุมได้ทันทีพร้อมกับได้เดินทางมาสมทบเพื่อทำการสอบสวนและตรวจค้นห้องพักร่วมกับเจ้าหน้าที่ฯ ชุดจับกุมด้วยตัวเอง ผลการตรวจค้นตัวนายคาวีฯ ปรากฏว่าพบ ยาบ้า จำนวน 1 ถุง มียาบ้า 200 เม็ด ซุกซ้อนอยู่ในกระเป๋ากางเกงด้านหน้าทางขวามือตัวที่ผู้ถูกจับสวมใสในขณะตรวจค้นจับกุม 
 
ซึ่งจากการเข้าไปตรวจค้นห้องพักของนายคาวีฯ ปรากฏว่าพบกระสอบปุ๋ยสีเขียววางซุกซ้อนอยู่บริเวณกองเสื้อผ้า จากการเปิดกระสอบปุ๋ยเพื่อตรวจสอบปรากฏว่าพบยาบ้ามีการห่อไว้จำนวน 4 ห่อ โดยมียาบ้าอยู่ภายในจำนวน 22,000 เม็ด และพบอาวุธปืนแบบประดิษฐ์ทำขึ้นมาเองไม่ทราบขนาด จำนวน 1 กระบอก วางอยู่บนที่นอนภายในห้องที่เกิดเหตุ 
 
จากการสอบถามทราบว่ายาบ้าทั้งหมดเมื่อวันที่ 13 มกราคม 2563 ที่ผ่านมาได้มีนายเต๋า จากการสืบสวนและได้ตรวจสอบทางทะเบียนราษฏร์ปรากฏว่า คือ นายสิงห์ขร ศรีใส เพื่อนรุ่นน้องที่เคยทำงานอยู่ด้วยกันที่โรงน้ำแข็งที่เกิดเหตฯ เป็นผู้โทรศัพท์ติดต่อพูดคุยว่าจ้างให้ตนเองไปเก็บรับยาบ้าที่จะมีผู้มาวางไว้ให้อยู่บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 9 ถนนสายขอนแก่น-เชียงยืน (ขาเข้าตัวเมืองขอนแก่น) จำนวน 1 กระสอบ มี 21 มัด แต่ละมัดมียาบ้า 2,000 เม็ด รวมยาบ้าทั้งหมด 42,000 เม็ด โดยได้ค่าจ้างในการไปเก็บรับยาบ้าในราคา 30,000 บาท จากนายสิงห์ขรฯ 
 
ต่อจากนั้นเมื่อรับมาแล้วได้นำยาบ้ามาเก็บมาไว้ที่ห้องพักของตนจำนวน 11 มัด (มียาบ้า 22,000 เม็ด) และอีก 11 มัด(มียาบ้า 22,000 เม็ด) ได้นำไปให้กับนายสิงห์ขรฯ ที่บ้านพักของนายสิงห์ขรฯ ซึ่งตั่งอยู่ภายในหมู่บ้านทองหลาง ต.บ้านหว้า อ.เมือง จ.ขอนแก่น โดยนอกจากการไปเก็บรับยาบ้ามาในครั้งนี้ผู้ต้องหายังมีหน้าที่กระจายยาบ้าส่งขายให้ลูกค้าในเขตพื้นที่ อ.เมือง (เน้นพื้นที่โซน ต.บ้านเป็ด) อ.น้ำพอง อ.กระนวน และยาบ้าอีกส่วนหนึ่งที่อยู่กับนายสิงห์ขรฯ 
 
โดยนายสิงห์ขรฯ มีหน้าที่กระจายยาบ้าส่งขายให้ลูกค้าในเขตพื้นที่ อ.มัญจาคีรี อ.พระยืน อ.พล โดยเป็นการแบ่งโซนในการกระจ่ายยาบ้าเพื่อขายให้กับลูกค้า จากนั้นตามวันเวลาที่เกิดเหตุ ขณะที่ผู้ต้องหาขับขี่รถจักรยานยนต์เพื่อเข้ามาทำงานภายในโรงงานฯ จึงมาถูกเจ้าหน้าที่ฯ ตรวจค้นจับกุมได้พร้อมของกลาง ดังกล่าว จากนั้นเมื่อทำการขยายผลเครือข่ายยาเสพติดจนเสร็จสิ้น ได้ถ่ายภาพ ทำประวัติ และทำบันทึกจับกุม และได้ควบคุมตัวพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป วันเดือนปีที่จับกุม 14 เดือน มกราคม 2563 เวลาประมาณ 14.10 น.สถานที่เกิดเหตุ บริเวณหน้าห้องพักพนักงาน ต่อเนื่อง ภายในห้องพักพนักงานหมายเลข 18 ที่ตั้งอยู่ภายในโรงงานน้ำแข็งธาราทิพย์ เลขที่ 57 ถ.บ้านกุดกว้าง ไป บ้านสะอาด หมู่ 3 ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.ขอนแก่น.

หน้าแรก » อาชญากรรม