วันที่ 15 มกราคม 63 ที่สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครปฐม ได้มีการแถลงข่าวของชุดปฏิบัติการพิเศษ ฝ่ายปกครอง จังหวัดนครปฐม หลังจากที่นายธนกฤต สุขประเสริฐ อายุ 58 ปี บิดาของนายไพโรจน์ สุขประเสริฐ หรือเบียร์ ได้ร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรม และสื่อมวลชน ว่าบุตรชายถูกเจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวรุมทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ เพื่อให้สารภาพว่ายาเสพติดในสถานที่จับกุมปาร์ตี้ยาเสพติดเป็นของตนเองในฐานเจ้าบ้าน เลขที่97/1 และเลขที่ 95/17 ถนนราชดำเนิน ตำบลพระปฐมเจดีย์ อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม เหตุเกิดเมื่อวันที่ 14 พ.ย.62 เวลาประมาณ 24.00 น. ที่ผ่านมา

 

โดย นายพิรุณโรจน์ นาคดนตรี ป้องกันจังหวัดนครปฐม เผยว่า สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว เจ้าหน้าที่ปกครองจังหวัดนครปฐม (กลุ่มงานความมั่นคง) ได้รับการร้องเรียน ว่าสถานที่ดังกล่าวได้มีการลักลอบในการมั่วสุมและจำหน่ายยาเสพติด กินเหล้าเปิดเพลงเสียงดัง โดยระบุว่านายไพโรจน์ หรือเบียร์ นั้นมีพฤติกรรมเป็นผู้ลักลอบจำหน่ายยาเสพติดและพาพวกมามั่วสุมเป็นประจำ

 

ป้องกันจังหวัดนครปฐม กล่าวว่า เมื่อถึงเวลานัดหมายเจ้าหน้าที่ได้ส่งสายลับเข้าไปตรวจสอบ พบว่า เวลา 22.30 น. ได้มีการรวมตัวจัดปาร์ตี้ยาเสพติด และมีชายหญิงอยู่ในห้อง 4-5 คน โดยมีนายไพโรจน์ หรือเบียร์ อยู่ในห้องนั้นด้วย เจ้าหน้าที่จึงได้บุกเข้าแสดงตัวพร้อมจับกุม ซึ่งต้องใช้ความระมัดระวังเนื่องจากทราบมาว่า นายไพโรจน์ หรือเบียร์ นั้นชอบพกปืน และช่วงที่พบตัวก็พบว่าเมายาเสพติด มีการขัดขืนการจับกุมจึงต้องมีการเข้าช่วยกันล็อคตัว ทำให้นายไพโรจน์ หรือเบียร์ ลื่นล้มได้รับบาดเจ็บ จากการตรวจสอบ พบของกลางยาอี 25 เม็ด ไอซ์ 0.30 กรัม ยาเค จำนวน 3.60 กรัม กัญชา จำนวน 2 กรัม ถุงซิปล๊อค สำหรับแบ่งจำหน่ายจำนวนหนึ่ง นายไพโรจน์ หรือเบียร์ ได้สารภาพว่ายาเสพติดทั้งหมดเป็นของตนเอง และได้ส่งตัวไปตรวจสอบพบมีปัสสาวะสีม่วง และไม่มีการทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด

 

จ.อ.ภูวิส ภิรมย์เบี้ยว ผู้ช่วยป้องกันจังหวัดนครปฐม กล่าวว่า สำหรับประเด็น ในเรื่องของการที่มีพยานนั้นได้ออกมาให้ข้อมูลว่า เจ้าหน้าที่มีการถอดกล้องวงจรปิดที่หน้าห้องดังกล่าวออกไป เรื่องนี้ไม่เป็นความจริงเพราะเจ้าหน้าที่ได้เข้าจับกุมตามปกติโดยไม่ได้มีการถอดกล้องออกไปแต่อย่างใด

ขณะเดียวกัน นายธนกฤต บิดา และนางวรรณี เหลืองทอง อายุ 62 ปี พยาน ได้มาร่วมนั่งฟังการแถลงข่าว ได้บอกว่า เรื่องของการแถลงข่าวในประเด็นยาเสพติดนั้นก็ให้เป็นเรื่องกระบวนการของในชั้นศาล แต่เรื่องของการทำร้ายร่างกาย ตนเองมีพยาน บอกชัดเจนว่า นายไพโรจน์ หรือเบียร์ นั้นขี่รถจักรยานยนต์มาจากด้านนอก และถูกทำร้ายร่างกายจริง ซึ่งตนเองจะขอเอาเรื่องให้ถึงที่สุดสำหรับการทำร้ายร่างกาย และไม่ขอถอนแจ้งความรวมถึงจะเดินหน้าร้องเรียนให้ถึงที่สุด

 

ซึ่งที่รอมาตัดสินใจเข้าร้องเรียนหลังเรื่องผ่านมานานเพราะลูกชายขอไว้และพยายามจะแจ้งความมาตลอด กระทั่งมีนางวรรณี ที่กล้ามาเป็นพยานและเข้าไปสอบถามลูกชายจนแน่ชัดจึงได้กล้ามาร้องสื่อและร้องศูนย์ดำรงธรรมและแจ้งความเรื่องการทำร้ายร่างกายไว้แล้วที่ สภ.เมืองนครปฐม

ขณะที่นางวรรณี พยาน ได้เข้ามาให้ข้อมูลยืนยันว่า มีเจ้าหน้าที่ 4 คน เข้ามาชกและรุมทำร้ายร่างกาย นายไพโรจน์ หรือเบียร์จริง ตามที่เคยให้ข้อมูลกับสื่อไปแล้ว และแอบดูอยู่ในห้องฝั่งตรงข้ามช่วงที่มีการบุกมาจับกุมแต่ไม่ได้ออกมาแสดงตัวเพราะเจ้าหน้าที่มากันเยอะกลัวว่าจะไปเกี่ยวข้องด้วย