สองหนุ่มใหญ่ชาว อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ออกไปหาปลาในแม่น้ำมูล ขากลับซื้อเหล้าขาวมานั่งชิวๆริมแม่น้ำ กลางดึกมีช้างมาสะกิด คนหนึ่งตั้งสติวิ่งลงน้ำ อีกคนหนีไม่ทันร้องขอชีวิตกับช้าง แต่ไม่เป็นผล ถูกจับถอดเสื้อผ้าแล้วลากไปกระทืบกลางถนนดับคาที่ เจ้าของช้างระบุผูกช้างไว้ไกลบ้านคน แต่เป็นช่วงกำลังตกมัน ตำรวจแจ้งข้อหาแล้ว

วันที่ 26 ม.ค.63 ร.ต.อ.ธนดร ภักษารัมย์ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.สตึก อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ รับแจ้งมีเหตุช้างทำร้ายชาวบ้านเสียชีวิต ริมแม่น้ำมูล บนถนนสายเลี่ยงเมือง สตึก-ชุมพลบุรี จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมกู้ภัยวังกรูดสตึก

 
ที่เกิดเหตุบริเวณ บ้านโรงเลื่อย หมู่ 9 ต.นิคม ซึ่งกำลังก่อสร้าง กลางถนนพบเศษมันสมองมนุษย์กระจายเกลื่อนทั่วบริเวณ ใกล้กันพบศพนายนพดล ชูแสง อายุ 48 ปี ชาวอ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ในสภาพเปลือยกายเหลือแต่กางเกงในตัวเดียว บริเวณกระโหลกศีรษะแหลก ส่วนเสื้อและกางเกงยีนส์ ของผู้ตายตกอยู่ ริมถนนข้างทาง และพบรอยเท้าช้างอยู่ทั่วบริเวณ

 
จากการสอบถามนายอ๊อด อิ่มสำราญ อายุ 41 ปี เพื่อนผู้ตายที่ไปด้วยกันเล่าว่า ช่วงหัวค่ำตนเองกับผู้ตายได้ไปหาปลามาด้วยกัน จึงชวนกันทำก้อยปลาและซื้อเหล้าขาวซ้อนรถจักรยานยนต์ไปนั่งดื่มกินที่ริมแม่น้ำมูลเนื่องจากบรรยากาศดี

ช่วงที่กำลังนอนคุยกัน ตนเองรู้สึกว่ามีอะไรมาสะกิดที่ลำตัว เมื่อลุกเงยหน้าขึ้นพบว่าช้างกำลังเอาขามาสะกิดตนเองและใช้งวงเหมือนจะรัดเข้ามารัด ตนจึงลุกขึ้นวิ่งหนีแบบไม่คิดชีวิตลงไปแม่น้ำมูล

 
เมื่อคิดว่าพ้นรัศมีของช้างแล้ว ได้ยินเสียงนายนพดล พูดคุยกับช้างว่า ลูกหลานมา ขออยู่อาศัย ไม่ได้มารบกวน จากนั้นได้ยินเสียงเหมือนช้างลากสิ่งของอะไรบ้างอย่าง ก่อนจะวิ่งเลาะริมแม่น้ำมูล ไปแจ้งให้ผู้ใหญ่บ้านทราบ แต่ไม่มีใครกล้าออกมา จนช่วงเช้ามาดูพบนายนพดล กลายศพดังกล่าว

นางสาวเอื้อมพร ชูแสง อายุ 33 ปี ลูกสาวผู้ตาย(เสื้อสีส้ม)เล่าว่า ตนออกไปทำงานกลับมาเวลาประมาณ เที่ยงคืน แต่ไม่เห็นพ่ออยู่บ้าน จนกระทั่งเวลาตี 3 ได้มีคนมาแจ้งว่าพ่อโดนช้างไล่ แต่ไม่รู้ชะตากรรม ชาวบ้านได้พยายามตามหาแต่ก็กลัวช้างทำร้าย ต้องรอจนถึงเช้าจนทราบข่าวว่าพ่อเสียชีวิตแล้ว

ด้านนายบุดดา ศาลางาม อายุ 61 ปี ชาวอ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ เจ้าของช้าง เล่าว่า ปกติจะเอาช้างไปเลี้ยงบริเวณนี้เป็นประจำ เพราะอยู่ห่างจากบ้านคน แต่ช่วงนี้เป็นช่วงที่เจ้าคำมูล กำลังตกมัน จึงเอาไปล่ามไว้ แต่โซ่ที่ล่ามหลุดออก ไม่คิดว่าจะไปทำร้ายคนได้ เพราะบริเวณดังกล่าวไม่มีใครเข้ามาใกล้

อย่างไรก็ตามเบื้องต้น ตำรวจตั้งข้อหากระทำการประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และข้อหาผู้ใดควบคุมสัตว์ดุร้ายปล่อยปละละเลย ได้นำสัตว์นั้นเที่ยวไปโดยลำพัง ในประการที่อาจทำอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์