ตำรวจ สภ.นางรอง เร่งติดตามกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุทะเลาะวิวาทในโรงพยาบาลมาสอบสวน รู้ตัวเพียงคนเดียวคือคนเข้าไปรักษา ขณะหน่วยกู้ภัยที่ไปช่วยเจรจาเผยทั้งกลัวทั้งกล้าเพราะไม่มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงใช้คำว่า”กู้ภัยขอได้ไหม” โชคดีวัยรุ่นเข้าใจ

วันที่ 22 ก.พ.63 กรณีวัยรุ่นใน อ.นางรอง กว่า 30 คน ทะเลาะวิวาทกันบริเวณหน้าร้านอาหารแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่บริเวณโซนสถานที่ท่องเที่ยวกลางคืน ของชาว อ.นางรอง แล้วถูกนำตัวมารักษาที่โรงพยาบาลนางรอง เพราะได้รับบาดเจ็บหลายราย

 
จากข้อมูลล่าสุดทราบว่า หลังจากวัยรุ่นทะเลาะวิวาทกันแล้ว กลุ่มหนึ่งได้พาเพื่อนมาโรงพยาบาลนางรองก่อน 1 คน ในห้องฉุกเฉิน หลังจากนั้นหน่วยกู้ภัยก็นำผู้บาดเจ็บเข้ามารักษาอีก ทั้งสองฝ่ายมาเจอกันในห้องฉุกเฉิน ทำให้วัยรุ่นที่หัวแตกที่มารักษาภายหลัง ไม่ยอมให้หมอทำแผลให้เพราะไม่อยากเจอหน้า

ก่อนจะเดินออกมาหน้าห้องฉุกเฉิน ก่อนจะมาเจอวัยรุ่นอีกกลุ่มซึ่งเป็นคู่อริ รออยู่หน้าห้องฉุกเฉินกว่า 20 คน จนทั้งสองฝ่ายซึ่งมีไม่น้อยกว่า 30 คน เกิดการโต้เถียง และพยายามเข้ามาทำร้ายกัน จนกระทั่งหน่วยกู้ภัยเข้ามาเจรจาเพื่อไม่ให้เกิดการทะเลาะวิวาทกัน

ล่าสุด ร.ต.อ ณภัทร สุทธิธนากูล รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.นางรอง กำลังเร่งติดตามกลุ่มวัยรุ่นมาสอบสวน แต่ยังไม่รู้ว่าเป็นกลุ่มไหน รู้ชื่อเพียงคนเดียวเป็นวัยรุ่นชายอายุ 20 ปี คือคนที่เข้าไปรักษาคนแรก นอกนั้นแยกย้ายกันกลับบ้าน หลังกู้ภัยเข้าไปเจรจา

 
ด้านนายบดินทร์ รุ่งโรจน์ชัยกุล ผู้จัดการฝ่ายอาสาสมัครประจำจังหวัดบุรีรัมย์ หน่วยกู้ภัยสยามร่วมใจปู่อินทร์ อ.นางรอง กล่าวว่า หลังได้รับแจ้งทีมงานกว่า 10 คน ก็ออกไปที่เกิดเหตุ แล้วรับผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล ตามขั้นตอน

ตอนแรกคิดว่าเสร็จภารกิจ ของหน่วยกู้ภัย แต่ปรากฏว่า ได้ยินเสียวัยรุ่นส่งเสียงดังอยู่หน้าตึกฉุกเฉิน จึงเข้าไปดูพบว่ามีวัยรุ่นสองฝั่งกำลังจะก่อเหตุทะเลาะวิวาทกัน ตนจึงให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยทุกคน ทั้งชายและหญิงเข้าไปร่วมเจรจาโดยใช้คำว่า “กู้ภัยขอได้ไหม ที่นี่เป็นห้องฉุกเฉิน” ยอมรับว่าตอนนั้นทั้งกลัวทั้งกล้า เพราะไม่ใช่หน้าที่ของหน่วยกู้ภัยโดยตรง แต่โชคดีที่วัยรุ่นใจเย็นลงและยอมแยกย้ายกันกลับบ้านไป