จากเหตุการณ์เด็กหญิงวัย 12 ปี ชาวเมียนมา ถูกนายซออู วัย 35 ปี ชาวเมียนมาเช่นกัน หลอกอ้างหางานทำ แต่กลับพาไปขังในบ้านและข่มขืนยับ ถึง 5 วัน นำตัวมาทิ้งไว้ที่สถานีรถไฟปากตะโก พ่อแม่และเพื่อนชาวเมียนมาตามหากันจ้าละหวั่น โร่ไปรับตัว ก่อนรู้ว่าลูกสาวเสียท่าแล้ว จึงได้ไปแจ้งความ ล่าสุด ครอบครัวของ เด็กหญิงวัย 12 ปี ได้หลบหนีออกจากพื้นที่ที่อาศัยเดิม มาขออยู่อาศัยในบ้านพักของเพื่อนชาวเมียนมาในสวนทุเรียนแห่งหนึ่ง(ขออนุญาตไม่เปิดเผยที่อยู่จริง) เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย ผู้สื่อข่าวพร้อมกับนายโจ ซึ่งอาสาเป็นล่าม จึงได้เดินทางไปพบ

 

วันที่ 28 พ.ค. ที่บ้านไม่มีเลขที่ ในสวนปาล์ม สวนทุเรียนแห่งหนึ่ง พบนายชัย อายุ 38 ปี และ นางชู อายุ 37 ปี และลูกสาววัย 12 ปี นั่งอยู่บริเวณเพิงพักหน้าบ้านปูนชั้นเดียว ซึ่งเป็นบ้านพักของเพื่อนแรงงานชาวเมียนมาด้วยกัน ที่นายจ้างได้ให้อาศัยอยู่ ซึ่งทั้งหมดอยู่ในสภาพอิดโรย และยังเสียขวัญกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นายชัยและนางชูเล่าให้กับผู้สื่อข่าวฟังว่า หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ตนเองได้นำลูกสาวไปแจ้งความกับทางตำรวจ และต่อมาก็มีข่าวว่านายซออู จะแก้แค้นครอบครัวตนที่นำเรื่องไปแจ้งความกับตำรวจ ทำให้ตนเองหวั่นกลัวเป็นอย่างมาก 

 

เนื่องจากทราบว่านายซออู มีอิทธิพลมากและคอยดูแลกลุ่มแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาที่เข้ามาทำงานใน จ.ชุมพร โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.หลังสวน และ อ.ทุ่งตะโก เมื่อเป็นเช่นนั้นจึงได้ขนสิ่งของที่จำเป็น มาขออาศัยเพื่อนชาวเมียนมา ที่มาจาก จ.ทวาย ประเทศเมียนมาร์ ด้วยกัน เพื่อหลบซ่อนตัวก่อน ตอนนี้ยอมรับว่าหวาดผวาอย่างมาก เกรงว่าจะไม่ปลอดภัย จึงอยากให้ทางตำรวจเร่งไล่ล่าเพื่อจับกุมตัวนายซออู มาดำเนินคดีโดยเร็ว