ตำรวจรวบทันควัน หนุ่มระยอง แอบมาฉกเงินในตู้บริจาคในวัดดัง อ.บ้านด่าน พร้อมของกลางเงินสดกว่า 12,000 เผยเคล็ดลับวิธีขโมยเงินในตู้แบบไม่ต้องงัด ดึงเงินขึ้นมาเหมือนตกเบ็ด จะได้เงินรวดเร็วกว่า สารภาพตกงานมาอาศัยอยู่บุรีรัมย์ พบเคยต้องโทษลักทรัพย์มาแล้วที่ระยอง

วันที่ 29 พ.ค.63 พ.ต.อ.พงศธร โสกูล ผกก.สภ.บ้านด่าน อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งจากนายสมชาย เยินรัมย์ ผู้ใหญ่บ้านระหาร ต.บ้านด่าน ว่ามีคนร้ายเข้ามาขโมยเงินในตู้บริจาคภายในวัดระหาร และกำลังถ่วงเวลาผู้ต้องสงสัย ผกก.จึงประสานตำรวจที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุอย่างเร่งด่วน

จากนั้นตำรวจจราจร ที่กำลังตั้งด่านอยู่บนถนนสายบุรีรัมย์-สตึก ซึ่งอยู่ใกล้กับวัดระหาร จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบ และเข้าค้นตัวนายเวสสะ ทองนาค อายุ 39 ปี อยู่เลขที่ 299/2 ต.เพ อ.เมือง จ.ระยอง ขณะกำลังเดินพูดคุยกับผู้ใหญ่บ้านภายในวัด

ตรวจสอบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า สกุ๊ปปี้ไอ สีฟ้า-ขาว ทะเบียน 1 กข-8310 บุรีรัมย์ ใต้เบาะพบธนบัตรฉบับละ 1,000,500,100 ,50 และ20 รวมเป็นเงินกว่า 12,000 บาท โดยนายเวสสะ รับสารภาพว่าเงินดังกล่าวเอามาจากในตู้รับบริจาคของวัดจำนวน 2 ตู้ จริง

นายเวสสะ ยังโชว์วิธีการขโมยเงินในตู้ฯแบบไม่ต้องงัด พร้อมให้การกับตำรวจว่า ก่อนหน้านี้อาศัยที่จังหวัดระยอง หลังพ้นคดีลักทรัพย์ แล้วตกงานก็เดินทางมาหารับจ้างทั่วไปที่จังหวัดบุรีรัมย์ เมื่อเกือบ 1 ปีที่ผ่านมา

 
แต่หลังมีการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ไม่มีใครจ้างงาน จึงยืมรถของคนข้างห้องขับเล่นมาเรื่อยๆ เมื่อมาเห็นวัดระหาร ซึ่งเป็นวัดใหญ่ จึงแวะเข้าไปเพื่อต้องการขโมยเงินในตู้บริจาค

 
ส่วนวิธีการขโมยเงินในตู้บริจาคแบบไม่ต้องงัด ดูวิธีขโมยในยูทูป โดยการเอาอุปกรณ์พิเศษ เป็นกาว ผูกเชือกเอาหย่อนลงไปในตู้ฯแล้วเงินก็จะติดกับกาวมาเป็นสาย เหมือนการตกเบ็ด และเพิ่งทำเป็นครั้งแรก

 
แต่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อ คาดว่าจะทำมาแล้วหลายครั้ง เพราะมีความเชี่ยวชาญ และรู้ว่าจุดไหนมีกล้องวงจรปิด อีกทั้งจากสอบประวัติแล้วเคยต้องโทษคดีลักทรัพย์ที่จังหวัดระยอง มาแล้ว

หลังสอบปากคำ ชุดจับกุมนำตัวส่ง พ.ต.ต.สุรเดช ประสงได สารวัตร(สอบสวน)สภ.บ้านด่าน เพื่อดำเนินคดีต่อไป เบื้องต้นแจ้งข้อลักทรัพย์

ด้านนายสมชาย เยินรัมย์ ผู้ใหญ่บ้านระหาร กล่าวว่า ที่ผ่านมาวัดจะโดนขโมยเงินในตู้บริจาคเป็นประจำ เพราะเป็นวัดใหญ่ มีคนเข้ามาทำบุญเป็นจำนวนมาก แต่ไม่เคยจับได้ ครั้งนี้ถือว่าอุกอาจ เพราะก่อเหตุในตอนเช้า

 
ซึ่งในช่วงเกิดเหตุพระภายในวัดโทรศัพท์มาแจ้งว่าเงินในตู้บริจาคหาย และสงสัยชายแต่งตัวดีที่อยู่ในวัด จึงเดินทางมาพูดคุยเพื่อถ่วงเวลา ก่อนแจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบจนมีการจับกุมดังกล่าว