ความคืบหน้ากรณีพิพาทบุกรุกที่สาธารณะอ่าวบ้านดอน จ.สุราษฎร์ธานีจับจองเลี้ยงหอยแครง ปลูกสร้างบ้านหรูและขนำเฝ้าคอกหอย หลังจากที่ศูนย์รักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลหรือ ศรชล.ตั้งกองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อยและแก้ไขปัญหาการบุกรุกพื้นที่สาธารณะอ่าวบ้านดอน ณ วัดชลธาร ต.บางไทร อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี เกือบ 1 สัปดาห์แล้ว โดยในวันที่ 26 มิ.ย.63 มีทั้งตัวแทนชาวประมงพื้นบ้านใน จ.สุราษฎร์ธานีมาร้องทุกข์กับ ศรชล.ให้ดูแลความปลอดภัยระหว่างที่เก็บหาหอยแครงในทะเล ขณะเดียวกันมีตัวแทนผู้ประกอบการเลี้ยงหอยแครงร้องทุกข์ว่ามีชาวบ้านไปขโมยหอยแครงที่เลี้ยงไว้ในคอกหอย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ ศรชล.ได้อธิบายทำความเข้าใจกับทุกฝ่ายตามกระบวนของกฏหมาย

 

 

ขณะเดียวกันทางชุดหน่วยปฏิบัติการลำน้ำและจุดจู่โจมพิเศษ กองทัพเรือ ได้พาพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี/เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน 8 / ไปเก็บพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์โดยมีเจ้าหน้าที่ประมงจังหวัดสุราษฎร์ธานีและเจ้าท่าภูมิภาค สาขาสุราษฎร์ธานีเป็นผู้นำชี้เป้าหมาย หลักฐานที่เก็บมีทั้งเส้นผม/เส้นขน /ตัวอย่างดีเอ็นเอ. ที่ขนำเฝ้าคอกหอย 2 แห่ง ซึ่งเป็นจุดที่ยึดอาวุธปืนไว้ได้เมื่อปลายเดือน พ.ค. และต้นเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา พร้อมวัดขนาดความสูง ความกว้างของขนำ ใช้ประกอบสำนวนคดีตามที่มีการแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนไว้ ซึ่งขนำแรกมีป้ายติดหน้าขนำว่า”ห้ามเข้าเด็ดขาด” โดยก่อนเข้าเก็บหลักฐานทางชุดหน่วยทำลายใต้น้ำจู่โจม หรือหน่วยซิลเป็นหน่วยหนึ่งในหน่วยปฏิบัติการสงครามพิเศษทางเรือ กองทัพเรือไทย ได้เข้าเคลียร์พื้นที่ก่อนเพื่อความปลอดภัยของทุกคน

 

 

ขณะที่บรรยากาศเก็บหาหอยแครงในอ่าวบ้านดอน ยังคงมีชาวประมงพื้นบ้านเก็บหาตามปกติ แต่ค่อนข้างน้อยส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะปริมาณหอยแครงลดน้อยลง

 

สำหรับในส่วนของการแจ้งความดำเนินคดีโดยมีเจ้าท่าภูมิภาค สาขา สุราษฎร์ธานีและประมงจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้แจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.เมือง และรับเป็นคดีแล้ว 28 แห่ง ตามพ.ร.ก.ประมง 2558 มาตรา 62 เกี่ยวกับการบุกรุกที่สาธารณะ สร้างสิ่งปลูกสร้างในที่สาธารณะโดยมิได้รับอนุญาต.