อาชญากรรม
“ทนายเทวดา” ชี้พยานความเร็วรถ "บอส” กลับคำไม่น่าเชื่อถือ
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่

“ทนายเทวดา” ชำแหละพ.ต.อ.ธนสิทธิ “พยานคดี "บอส” กับคำไป-มาความเร็วรถเชื่อถือไม่ได้ ชี้เป็นแค่ “พยานบอกเล่า” แนะดูข้อเท็จจริงคดีให้รอบด้าน ยันข้อมูลความเร็วของ “ดร.สายประสิทธิ์” น่าเชื่อถือกว่าเพราะมีความเชี่ยวชาญและคำนวณตามหลักวิชาการ
ดร.สุกิจ พูนศรีเกษม ทนายความชื่อดัง ฉายา “ทนายเทวดา” ให้ความเห็นเกี่ยวกับคดีของนายวรยุทธ อยู่วิทยา “บอส” ในประเด็นที่สังคมถกเถียงกันอยู่ว่า โดยหลักการพยานที่เกี่ยวกับคดีนั้น ย่อมหมายถึงพยานที่ปรากฏในสำนวนการสอบสวน ชึ่งศาลฎีกาได้ให้แนวทางไว้ตามหลักฎหมาย ป.วิ.พ. มาตรา 95 บัญญัติว่า ห้ามมิให้ยอมรับฟังพยานบุคคลใด เว้นแต่พยานประเภทแรก คือ เป็นผู้ที่ได้เห็น ได้ยิน หรือทราบข้อความเกี่ยวในเรื่องที่จะให้การเป็นพยานนั้นมาด้วยตนเองโดยตรง หรือที่เรียกกันว่า ประจักษ์ พยาน ศาลฎีกาที่ 12498/2558 และหากพยานผู้เชี่ยวชาญไม่ได้ให้การจากองค์ความรู้ของตนเอง หรือไม่ใช่องค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ที่ได้รับการยอมรับ ต้องถือว่า พยานผู้เชี่ยวชาญนั้นไม่น่าเชื่อถือ เป็นพยานบอกเล่าที่ไม่มีน้ำหนักให้น่าเชื่อถือ
“ผมขอยกคดีตัวอย่างให้เห็นว่าได้ปรากฏไว้เป็นบรรทัดฐาน ในคดี "ผู้พันตึ๊ง” ที่สถาบันนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ กับสถานบันนิติวิทยาศาลสตร์กระทรวงยุติธรรม ต่างวินิจฉัยผลเลือดและความเห็นต่างกัน แต่ศาลไม่เชื่อสถานบันนิติวิทยาศาลสตร์กระทรวงยุติธรรม เนื่องจากเป็นแพทย์ทาง "พยาธิ" จึงไม่มีความน่าเชื่อถือ
ดังนี้คดีนาย "บอส" ก็เช่นกัน พนักงานสอบสวนก็ดี พยานผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบความเร็วก็ดี ไม่ได้เป็นอยู่ในเหตุการณ์ ขณะเกิดเหตุ พยานผู้เชี่ยวชาญจึงเป็นเพียงพยานที่ให้ความเห็นไปตามหลักวิชาการของตน ซึ่งปกติศาลก็รับฟัง "แต่มิใช่ว่าจะต้องเชื่อพยานผู้เชี่ยวชาญเสมอไป" ตามคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4299/2534
อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่ถกเถียงกันอย่างไม่รู้จบคือ การตรวจสอบความเร็วของรถยนต์ “บอส” ซึ่งตามข่าว มี พ.ต.อ.ธนสิทธิ แตงจั่น ลงพื้นที่เกิดเหตุพร้อมกับ ดร.สธน วิจารณ์วรรณลักษณ์ อาจารย์ประจำภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่มาเป็นที่ปรึกษาให้ "กองพิสูจน์หลักฐาน” และกำลังเตรียมมาเป็นพยานหลักฐานใหม่ในคดี “บอส” นั้น
การที่ ดร.สธน เคยให้ความเห็นว่า "บอส" ขับรถด้วยความเร็สูง 177 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยไม่ได้ตรวจสอบความเสียหายของรถทั้งสองคันในคดี และไม่เคยคำนวณความเร็วรถจักรยานยนต์มาก่อน จนเป็นที่มาของรายงานการคำนวณความเร็วของ พ.ต.อ.ธนสิทธิ ในสำนวนที่อัยการเคยหยิบนำมาเป็นเหตุในการสั่งฟ้อง “บอส” ซึ่งขัดแย้งกับ ความเห็นของ ดร.สายประสิทธิ์ เกิดนิยม หัวหน้าศูนย์วิจัยเฉพาะทางวิศวกรรมการประเมินและความปลอดภัยยานยนต์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ชึ่งถือเป็นผู้เชี่ยวชาญทางนิติวิทยาศาสตร์ และเคยร่วมพิสูจน์ข้อเท็จจริงในคดี "เสี่ยชูวงค์" ซึ่งมีความเห็นที่ที่สังคมให้การยอมรับอย่างมาก
ส่วนกรณีที่ ดร.สายประสิทธิ์ให้การคำนวณความเร็วได้ 76 กิโลเมตร/ชั่วโมง เขามีการทำรายงานอย่างละเอียด ทั้งหน้ากล้องและหลังกล้อง มันน่าเชื่อถือที่ควรให้น้ำหนักในการรับฟังมากกว่า ต่างกับ “พยานบอกเล่า” ที่ใช้แค่ความเข้าใจของตัวเองว่าน่าจะเกิดจากความเร็วตามกระแสสังคมชี้นำ ดังนั้นพอเราย้อนมาดูนักวิชาการท่านอื่นเขาไม่ได้จบมาทางนี้โดยตรงการแค่คำนวณหน้ากล้องวงจรปิด และจะเชื่อถือได้หรือไม่ เราต้องมาดูที่เกิดเหตุต้องดูรอยชนเอามาประกอบอาชญาวิทยา
ส่วนประจักษ์พยานอื่น ที่ได้ทำการตรวจสภาพความเสียหายของรถ ทําให้ทราบลักษณะทิศทางการชนของรถ ความแรงของการชน สีของรถคันที่ชนติดอยู่ ระดับความสูงต่ำหรือตําแหน่งที่ชนกัน ร่องรอยความเสียหายของรถแต่ละคันที่ชนกัน ซึ่งสามารถบอกทิศ ทางการชนกันของรถที่เกิดเหตุหลังกล้องวงจรปิด ที่สามารถนำมาเป็นหลักฐานประกอบในการคำนวณหาความเร็วรถเฟอร์รารี่ของ "บอส” ว่ามีความเร็วไม่เกิน 80 กม./ชมเป็นพยานหลักฐานที่สามารถพิสูจน์ได้จากวัตุพยาน ในสำนวนที่ควรหยิบขึ้นมาประกอบการพิจารณาเช่นกัน
การที่พนักงานอัยการมีคำสั่งให้สอบ พ.ต.อ.ธนสิทธิเป็นพยาน เพราะสำนวนมีข้อสงสัยที่ยังไม่สิ้นกระแสความเกี่ยวกับความเร็ว โดยให้คำนวณความเร็วโดยคำนึงถึงความเสียหายของรถทั้งสองคันหลังการชน ซึ่ง พ.ต.อ.ธนสิทธิให้การหลังการคำนวณด้วยวิธีใหม่ ได้ความเร็ว 79 กิโลเมตร/ชั่วโมง แต่ล่าสุด พ.ต.อ.ธนสิทธิ แตงจั่น ชี้แจงต่อคณะกรรมการธิการฝ่ายกฏหมายมีนายสิระ เจนจาคะ เป็นประธานกรรมธิการฯว่า ความเร็วของรถที่ "บอส" ขับขี่นั้นแท้จริงความเร็ว 177 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สาเหตุที่ให้การครั้งที่สองว่าใช้ความเร็ว 79 กิโลเมตรต่อชั่วโมงนั้น อ้างว่าเพิ่งคิดได้ว่าวิธีการที่ใช้คำนวณแบบเดียวกับ ดร.สายประสิทธิฯนั้น เป็นวิธีการคำนวณที่ผิด
"ถ้าผมเป็นทนายนะ เสร็จผม พยานกลับไปกลับมาพิสูจน์หลักฐาน แค่นี้ถ้าขึ้นศาลผมซักแค่สองประโยค ก็จับโกหกได้แล้ว "ดร.สุกิจฯ กล่าว
อย่างไรก็ตาม การที่พยานยังอ้างต่อไปอีกว่าจะขอให้การใหม่ ว่าความเร็วนั้น แท้จริง 177 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่พนักงานสอบสวนได้ส่งสำนวนไปยังอัยการนั้น "ยิ่งไม่น่าเชื่อถือ หากข้องอ้างของ พ.ต.อ.ธนสิทธิ์ เป็นความจริง ก็น่าจะทำหนังสือถึงพนักงานอัยการเป็นหนังสือขอถอนคำให้การได้ ทำให้พยานปากนี้ไม่น่าเชื่อถือ เป็นแค่พยานบอกเล่าให้การปรักปร่ำผู้ต้องหาไปตามกระแสสังคมเท่านั้น ส่วนพยานปาก ดร.สธนฯได้ร่วมกันตรวจที่เกิดเหตุพร้อมกับพ.ต.อ.ธนะสิทธิเกี่ยวกับเรื่องความเร็วของรถนั้น จึงไม่ใช่พยานหลักฐานใหม่ที่อัยการสูงสุดจะสั่งให้พนักงานสอบดำเนินคดีได้
ในส่วนของคดี “บอส” นอกจากพยานผู้เชี่ยวชาญที่ยังมีความเห็นขัดแย้งกันในประเด็นการคำนวณความเร็ว ยังมีประจักษ์พยานหลักฐานอื่นที่ควรหยิบขึ้นมาพิจารณาประกอบ เช่น การขี่รถจักรยานยนต์เปลี่ยนเลนจากซ้ายสุดไปชนกับรถยนต์ที่ขับมาในช่องทางขวาสุด ความเสียหายของรถทั้งสองคัน เป็นต้น “หากคุณขับรถมาดีๆอย่างวิญญูชนทั่วไป แล้วมีคนอื่นขับรถมาตัดหน้าคุณ ผมขอถามว่าคุณผิดเหรอ มันต้องดูรายละเอียดทุกอย่างมาประกอบ ไม่ใช่เอาความเข้าใจของตัวเองมาตัดสิน” ดร.สุกิจได้กล่าวทิ้งท้าย
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
หน้าแรก » อาชญากรรม
Top 5 ข่าวอาชญากรรม ![]()
- รอง ผบ.ตร.สั่งด่วนรับมือน้ำท่วมกระทบจราจรติดขัดใน กทม.และปริมณฑล 24 พ.ค. 2568
- ผบ.ตร.แสดงความเสียใจ เหตุ ฮ.ตก ดับ 3 นายที่ประจวบฯ สั่งเร่งสอบสวน-ดูแลครอบครัว 24 พ.ค. 2568
- หนุ่มคลั่งยาขู่ชาวบ้าน ดวลเดือดตร.ดับ 1 เจ็บ 2 24 พ.ค. 2568
- กู้ภัยระทึก! ชายขับเก๋งปาดหน้าชักปืนขู่โวยวายอ้างพาคนร้ายหนี ต้องแจ้งตำรวจช่วย พบเพิ่งพ้นโทษคดียิงคนตาย 24 พ.ค. 2568
ข่าวในหมวดอาชญากรรม ![]()
หนุ่มคลั่งยาขู่ชาวบ้าน ดวลเดือดตร.ดับ 1 เจ็บ 2 19:27 น.
- ผบ.ตร.แสดงความเสียใจ เหตุ ฮ.ตก ดับ 3 นายที่ประจวบฯ สั่งเร่งสอบสวน-ดูแลครอบครัว 15:08 น.
- รอง ผบ.ตร.สั่งด่วนรับมือน้ำท่วมกระทบจราจรติดขัดใน กทม.และปริมณฑล 14:23 น.
- กู้ภัยระทึก! ชายขับเก๋งปาดหน้าชักปืนขู่โวยวายอ้างพาคนร้ายหนี ต้องแจ้งตำรวจช่วย พบเพิ่งพ้นโทษคดียิงคนตาย 12:29 น.
- ตร.ทางหลวง รวบหนุ่มหัวเกรียนบุกลักรถตู้วัด พบเพิ่งพ้นโทษ 18:37 น.