ความคืบหน้ากรณีเกิดเรื่องจากเด็กนักเรียนชาย 2 คนวัย 14 ปี เป็นเครือญาติและเพื่อนกันตั้งแต่เล็กๆทะเลาะกันบนรถรับส่งนักเรียน ถึงบ้านอีกฝ่ายฟ้องผู้ปกครอง  ตะโกนด่ากันข้ามถนนก่อนเกิดตะลุมบอน จนพ่อเด็กฝ่ายหนึ่งชักปืนยิงลุงของคู่กรณีเสียชีวิต 1 ส่วนลูกชาย 14 ปี ใช้มีดแทงฝ่ายตรงข้าม บาดเจ็บ 3 คน เหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นวันที่ 19 ส.ค.ที่ผ่านมา

 

โดยผู้เสียชีวิตคือนายจรัญ หรือรัน  แก้ววิลา  อายุ 49 ปี ถูกยิงเข้าบริเวณหน้าอก 2 นัด เสียชีวิตคาที่และมีผู้ถูกแทงได้รับบาดเจ็บ 3 คน ประกอบ  นายนุรักษ์ หรือแช้ง ฆาร อายุ 63 ปี มีศักดิ์เป็นตาของทั้ง 2 ฝ่าย นายภูริวัฒน์ หรือแบ้งค์ แก้ววิลา อายุ 22 ปี นายธีรพงศ์ หรือเจมส์ บุญญาธิการ อายุ 20 ปี  ส่วนผู้ลงมือก่อเหตุ ประกอบด้วย นายไตรเทพ หรือเฉ็ง คำสุทธิ์ อายุ 46 ปี เป็นผู้ใช้อาวุธปืนยิง และเด็กชาย ก.(นามสมมุติ) อายุ 14 ปี  (บุตรผู้ยิง) ซึ่งทั้ง 2 คนได้เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวนตั้งแต่เมื่อวานที่ผ่านมา ในขณะที่ทางพนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาผู้ก่อเหตุ 3 คน คือ1.นายไตรเทพ หรือเฉ็ง คำสุทธิ์ อายุ 46 ปี (ผู้ยิง) นางนัยเนตร หรืออ้อย คำสุทธิ์ อายุ 42 ปี(ภรรยาผู้ยิง) และเด็กชาย ก.อายุ 14 ปี (บุตรผู้ยิงผู้ใช้อาวุธแทง) ทั้ง 3 คนถูกแจ้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและร่วมกันทำร้ายผู้อื่นให้ได้รับบาดเจ็บสำหรับนายไตรเทพ ผู้ต้องหาคนที่ 1 ทางพนักงานสอบสวนฝากขังที่ศาลจังหวัดเวียงสระแล้ว ส่วนนางนัยเนตร ผู้ต้องหาที่ 2 ใช้หลักทรัพย์ประกันตัวชั่วคราว และเด็กชาย ก.อายุ 14 ปี รอการสอบปากคำต่อสหวิชาชีพก่อนส่งตัวไปยังสถานพินิจจังหวัดสุราษฎร์ธานี

 

ล่าสุดวันที่ 21 ส.ค. 63 พนักงานสอบสวน สภ.บางสวรรค์ อ.พระแสง จ.สุราษฎร์ธานีได้สอบปากคำ เด็กชายก. ผู้ต้องหาอายุ 14 ปี ต่อหน้าสหวิชาชีพ และจะส่งตัวไปยังสถานพินิจจังหวัดสุราษฎร์ธานีภายในวันนี้       

 

ด้านนายสุมิตร ฆาร ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ม.12 ต.บางสวรรค์ อ.พระแสง จ.สุราษฎร์ธานี มีศักดิ์เป็นลุงของทั้ง 2 ฝ่าย กล่าวว่า วันนั้นหากตนอยู่ในเหตุการณ์คงจะไม่เกิดเหตุร้ายขึ้น ตนเองมั่นใจว่า สามารถพูดคุยกันให้เข้าใจได้ทั้ง 2 ฝ่าย สาเหตุที่เกิดขึ้นมาจากเด็กชาย ก.อายุ 14 ปี กับเด็กชาย ข. อายุ 14 ปีเท่ากัน ซึ่งเป็นญาติและเป็นเพื่อนเรียนโรงเรียนเดียวกัน และกลับจากโรงเรียนด้วยรถคันเดียวกัน มักจะหยอกล้อและกระทบกระทั่งกันบ่อย แต่ครั้งนี้จนถึงขั้นชกต่อย ซึ่งผู้เสียชีวิตเข้าไปห้าม และว่ากล่าวตักเตือนทำให้เด็กชายก. ผู้ต้องหาไม่พอใจ โทรศัพท์ตามพ่อกับแม่ที่กำลังไปทำธุระนอกบ้านให้กลับบ้าน พ่อแม่ก็กลับทันทีมาถึงก็ต่อว่ากันจนเกิดอารมณ์ชั่ววูบด้วยกันทั้งคู่ จนเกิดเหตุดังกล่าวและเกิดความสูญเสียด้วยกันทั้งคู่ 

 

อย่างไรก็ตามขอให้เป็นอุทาหรณ์สำหรับครอบครัวอื่นด้วย หากมีปัญหากันขอให้พูดคุยกันอย่าใช้ความรุนแรง เรื่องของเด็กให้เด็กจัดการกันเอง หากเกินเลยก็ใช้สติพูดคุยทำความเข้าใจกัน ทั้งนี้หลังจากเสร็จงานศพตนเองจะเข้าไปพูดคุยกับทั้ง 2 ครอบครัวขอให้ยุติอย่าได้บาดหมางใจต่อกันขอให้อโหสิต่อกัน คนทำผิดก็ได้รับโทษตามกฎหมายเท่ากับเป็นตราบาปติดตัวไปแล้ว  ขออย่าให้มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก  ซึ่งคนที่รับโทษหลังจากพ้นโทษออกมาแล้วก็อาจจะต้องไปอยู่ที่ อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ เชื่อว่าคงช่วยลบรอยแผลในใจของครอบครัวผู้เสียชีวิตได้บ้าง

 

สำหรับอาการของผู้บาดเจ็บทั้ง 3 คนล่าสุด นายนุรักษ์ ฆาร อายุ 63 ปี ซึ่งมีศักดิ์เป็นตาถูกแทงเข้าด้านหลังแพทย์ได้ทำแผลและอนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว ส่วนนายภูริวัฒน์และนายธีรพงศ์ ถูกแทงเข้าที่หน้าท้องทางโรงพยาบาลพระแสง ส่งรักษาตัวต่อที่โรงพยาลสุราษฎร์ธานีอาการปลอดภัยแล้วเช่นกัน