จากกรณีที่ น.ส.นันทวดี อรรคบุตร อายุ 39 ปี ตำแหน่ง นักพัฒนาชุมชน ชำนาญการ กองสวัสดิการสังคม อบต.ดู่ อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ ได้เปิดโปงการทุจริตการก่อสร้างถนนสายบ้านครั่งไปยังบ้านกระเดา ระยะทาง  800 เมตร งบประมาณในการก่อสร้าง 1,100,000 บาทเศษ และต่อมาได้ถูก นายก อบต.แห่งหนึ่งบีบคอ ลากเอาร่างลงมาจากบันไดที่ทำการ อบต. แล้วทุ่มร่างของ น.ส.นันทวดี ให้ล้มลงกับพื้นที่ทางเดินก่อนขึ้นบันไดอย่างแรง โดยมีเจ้าหน้าที่ของ อบต.หลายคนเห็นเหตุการณ์  ทำให้ น.ส.นันทวดี ได้รับบาดเจ็บตามร่างกายทั้งตัวและได้เข้าแจ้งความกับร.ต.อ.ปรีชา นาคาแก้ว พนักงานสอบสวน สภ.ราษีไศล เพื่อให้ดำเนินคดีอาญากับ นายก อบต.จอมโหด ขณะที่ผู้ที่เห็นเหตุการณ์ได้มาให้ปากคำเพื่อเป็นพยานในคดีนี้แล้ว ซึ่งพยานทุกคนได้ให้การตรงกันว่า เห็นเหตุการณ์ที่ นายก อบต.ทำร้าย น.ส.นันทวดี จนทำให้ได้รับบาดเจ็บจริง ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น

 

ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้  เมื่อวันที่ 16 ก.ย. 63  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลากลาง จ.ศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ น.ส.นันทวดี อรรคบุตร อายุ  39 ปี ตำแหน่ง นักพัฒนาชุมชน ชำนาญการ กองสวัสดิการสังคม อบต.ดู่  อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ ได้ใช้ไม้เท้าพยุงร่างที่บาดเจ็บบริเวณข้อเท้าด้านขวาเนื่องจากนิ้วแตก เดินทางมาเข้าพบ นายสมศักดิ์  พนากิจสุวรรณ  ท้องถิ่นจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อขอหารือเกี่ยวกับการที่ได้ถูก นายก อบต.ดู่ ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บทั้งร่างกายและจิตใจ ซึ่งนายสมศักดิ์ได้ให้ข้อเสนอแนะตามระเบียบกฏหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่ง น.ส.นันทวดี ได้รายงานให้ท้องถิ่นจังหวัดศรีสะเกษทราบว่า เพื่อให้การปฏิบัติราชการเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้มีเรื่องต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ มีเหตุการณ์เกิดขึ้นมาซ้ำอีก  ดังนั้น  จึงได้รายงานท้องถิ่นจังหวัดศรีสะเกษ ขอย้ายตนเองออกนอกพื้นที่ อบต.ดู่ ไปอยู่ที่ อบต.ไผ่  ซึ่งเป็นเขตพื้นที่บ้านเกิด หรือขอไปช่วยราชการที่แห่งใดก็ได้  เนื่องจากว่า หวั่นเกรงภัยมืดที่อาจจะเป็นอันตรายต่อชีวิตของตนเอง

 

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อไปว่า ขณะเดียวกัน ได้มีตัวแทนจากชมรมพัฒนาชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแห่งประเทศไทย ชมรมพัฒนาชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นภาคอีสาน นำโดย นางศรีมาลา ปิยะพันธุ์ ประธานชมรมพัฒนาชุมชนจังหวัดศรีสะเกษ และคณะ ได้นำเอากระเช้าดอกไม้และเครื่องดื่มบำรุงกำลังมามอบให้กับ น.ส.นันทวดี  และได้แจ้งให้ทราบถึงความรักความห่วงใยของสมาชิกชมรมทุกคนที่พร้อมจะอยู่เคียงข้างและเป็นกำลังใจให้กับ น.ส.นันทวดี เพื่อให้ต่อสู้กับความไม่ถูกต้อง และต่อต้านการถูกทำร้ายร่างกายอย่างเหี้ยมโหดในครั้งนี้  และมีชมรม  STRONG จิตพอเพียงต้านทุจริต จ.ศรีสะเกษ นำโดย นายชาญชัย พลศรี  ที่ปรึกษาชมรม  STRONG จิตพอเพียงต้านทุจริตศรีสะเกษ พร้อมด้วย นายอิสระชล นันทบัน นำสมาชิกของชมรมซึ่งเป็นเครือข่ายภาคประชาชนจากทุกอำเภอของ จ.ศรีสะเกษ  มาเยี่ยมและให้กำลังใจแก่ น.ส.นันทวดี ที่โดนทำร้ายร่างกายเพราะต่อต้านเรื่องการทุจริตในครั้งนี้ด้วย

 

น.ส.นันทวดี   อรรคบุตร  อายุ  39 ปี  ตำแหน่ง นักพัฒนาชุมชน ชำนาญการ กองสวัสดิการสังคม อบต.ดู่ อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ  กล่าวว่า  จากการที่ตนได้เข้าพบกับท่านท้องถิ่นจังหวัดศรีสะเกษแล้ว  ตนได้ขอความเมตตาจากท่านท้องถิ่นจังหวัดขอย้ายตนเองออกจาก อบต.ดู่  โดยขอย้ายไปที่ อบต.ไผ่ ซึ่งอยู่ใกล้บ้านเกิด หรือให้ไปช่วยราชการที่สำนักงานท้องถิ่นจังหวัดศรีสะเกษก็ได้  ซึ่งท่านท้องถิ่นจังหวัดศรีสะเกษ ได้รับทราบแล้วและจะพิจารณาดำเนินการให้ต่อไป ส่วนในด้านคดีความนั้น  ร.ต.อ.ปรีชา  นาคาแก้ว พนักงานสอบสวน สภ.ราษีไศล เจ้าของคดีนี้ ได้โทรศัพท์แจ้งให้ตนไปลงนามในเอกสารสำนวนคดีเพิ่มเติมที่ สภ.ราษีไศล โดยร้อยเวรเจ้าของคดีจะนำคดีนี้ไปส่งฟ้องต่ออัยการจังหวัดศรีสะเกษในวันที่ 18 ก.ย. 63 ที่จะถึงนี้  ซึ่งตนขอยืนยันว่า จะดำเนินคดีกับนายก อบต.ที่ทำร้ายร่างกายตนจนถึงที่สุด