วันที่ 17 ตุลาคม 2563 ณ สโมสรสัญญาบัตร กองบัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (บก.นรข.) นายไกรสร กองฉลาด ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พล.ร.ต.จรัสเกียรติ ไชยพันธุ์ ผบ.นรข. พล.ต.ต.ธนชาติ รอดคลองตัน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม นายภิญโญ โฆสิต ผู้อำนวยการฯ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(ป.ป.ส.) ภาค 4  พ.ต.อ.ณรงค์ นาคทั่ง รอง ผบก.ภ.จว.นครพนม รักษาราชการแทน ผกก.สภ.ท่าอุเทน  แถลงข่าวการตรวจยึดเฮโรอีน จำนวน 248 กิโลกรัม

 

ผบ.นรข. เปิดเผยว่าได้บูรณาการร่วมกับฝ่ายความมั่นคง ประกอบด้วย  พล.ต.บุญสิน พาดกลาง ผู้บัญชาการกองกำลังสุรศักดิ์มนตรี(ผบ.กกล.ฯ) น.อ.สุรศักดิ์ สุวรรณเกษา ผบ.นรข.เขตนครพนม นายสมศักดิ์ ชุ่มแจ่ม นายอำเภอท่าอุเทน พ.ต.อ.ชนะไชย เกษมวงศ์ ผกก.10 บก.รน.(ตำรวจน้ำ) พ.ต.อ.สมเกียรติ สนใจ ผกก.ตรวจคนเข้าเมือง(ตม.นครพนม) พ.ต.ท.ชิษณุพงษ์ ทองเกื้อ ผบ.ร้อย ตชด. 236 ว่า วันที่ 16 ตุลาคม ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งจากสายลับว่า จะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติด เข้าสู่พื้นที่ตอนในราชอาณาจักร บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง บ้านแก้งส้มโฮง หมู่ 1 ต.พะทาย อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม จึงวางแผนวางกำลังดักซุ่มบริเวณที่ได้รับแจ้งและพื้นที่ใกล้เคียง

 

 

กระทั่งเวลาประมาณ 18.30 น. พบชายต้องสงสัยจำนวน 1 คน ขับเรือหาปลาแล่นมาจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ขึ้นไปทางทิศเหนือของบ้านนาข่าท่า หมู่ 7 ต.พะทาย จากนั้นก็ล่องลงมาจอดที่ท่าเรือประจำหมู่บ้าน บ้านแก้งส้มโฮง  แล้วทำทีขึ้นไปนั่งพักอยู่ในพุ่มไม้ใกล้กับที่จอดเรือ เจ้าหน้าที่จึงออกจากที่ซุ่มแสดงตัวขอตรวจค้น ชายต้องสงสัยตกใจอาศัยความมืดและความชำนาญในพื้นที่วิ่งหลบหนีไปได้ เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบในลำเรือ พบกระสอบถุงปุ๋ยยี่ห้อหนึ่งของประเทศไทย จำนวน 1 ถุง นอกนั้นเป็นกระสอบป่านไม่มีตราสัญลักษณ์ใด จำนวน 12 ถุง รวมทั้งสิ้น 13 กระสอบ จึงขนกระสอบทั้ง 13 ถุงไปตรวจสอบอย่างละเอียดที่ บก.นรข.

 

ภายในกระสอบทั้งหมด มีวัตถุสี่เหลี่ยมหุ้มด้วยเทปกาวสีเหลือง ข้างในมีถุงพลาสติกสีดำอีกหนึ่งชั้น เมื่อฉีกออกพบแผ่นสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีตราสัญลักษณ์สิงห์โตคู่เหยียบลูกโลก ภายในเป็นผงสีขาวนวลไม่มีกลิ่น จึงเชิญ พ.ต.อ.หญิง จิรนันท์ ธนะสิงห์ ผกก.พิสูจน์หลักฐานฯนครพนม นำเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบด้วยน้ำยาเคมี ผลออกมาเป็นเฮโรอีนบริสุทธิ์ 100 % รวมทั้งสิ้น 248 กิโลกรัม

 

นายไกรสร กองฉลาด ผวจ.นครพนม กล่าวว่า ในฐานะเป็นผู้อำนวยการ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร(กอ.รมน) จังหวัดนครพนม  จะเชิญหน่วยงานความมั่นคงหารือในการป้องกัน ปราบปรามยาเสพติด โดยจะยกปัญหายาเสพติดเป็นวาระของจังหวัดฯ ถึงแม้จังหวัดนครพนมจะเป็นแค่ทางผ่านไปยังพื้นที่ชั้นในหรือส่งต่อไปต่างประเทศ ก็ถือว่าเป็นอันตรายต่อมนุษยชาติ ยิ่งในช่วงวิกฤติโควิด-19 ขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติจะเปลี่ยนเส้นทางจากภาคเหนือลงมาแถบภาคอีสาน  จึงต้องเพิ่มความเข้มข้นมากยิ่งขึ้น

 

 

ส่วนเฮโรอีนล็อตนี้ลำเลียงมาจากสามเหลี่ยมทองคำของกลุ่มว้าแดง เนื่องจากประเทศเมียนมาร์ปิดพรมแดนจากวิกฤติโรคโควิด-19 จึงเบนเส้นทางมายังแถบภาคอีสาน ดังจะมีการตรวจยึดจับกุมผู้ต้องหาในพื้นที่จังหวัดริมแม่น้ำโขงถี่กว่าปกติ สำหรับมูลค่าขั้นต่ำ ซื้อขายราคากิโลกรัมละ 3,000,000 บาท โดยเฮโรอีนที่ตรวจยึดได้นี้ ถือว่ามีความบริสุทธิ์สูง สามารถนำไปเป็นสารตั้งต้นผลิตเป็นยาบ้า ฯลฯ ตรวจยึดได้ 248 กิโลกรัม มีมูลค่าสูงถึง 744,000,000 บาท  และอาจจะเป็นการตรวจยึดเฮโรอีนที่มีจำนวนมากที่สุดในประเทศไทยด้วย

 

ทั้งนี้ แหล่งข่าวซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง เปิดเผยว่า การตรวจยึดเฮโรอีนครั้งนี้ นับว่าเป็นครั้งประวัติศาสตร์ที่สามารถสร้างความเสียหายทางธุรกิจยาเสพติดได้มาก ทำให้นายทุนสุญเสียเงินจำนวนมาก เรียกว่าขาดทุนแน่นอน โดยเชื่อว่าเฮโรอีนล๊อตนี้จะถูกส่งไปยังปลายทางที่ประเทศทางตอนใต้ของประเทศไทย หากทะลุไปถึงประเทศสหรัฐอเมริกาและจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นจากราคาหน้าโรงงานอีก 100 เท่า

 

“ราคาต้นทุนที่โรงงานของเฮโรอีนบริสุทธิ์ 100 เปอร์เซ็นต์ ตราสิงห์โตคู่เหยียบลูกโลก น้ำหนักประมาณ 7-8 ขีดต่อตัว จะมีมูลค่า 300,000–500,000 บาท ถ้าผ่านเข้าประเทศมาเลเซียได้จะมีมูลค่าสูงขึ้นที่ตัวละล้านกว่าบาท และหากหลุดไปถึงสหรัฐอเมริกา จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นอีก 100 เท่า” แหล่งข่าวกล่าว

 

ก่อนหน้านี้ที่จังหวัดนครพนมกลางปี 2560  ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 236   สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 1 ราย บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง บ้านนาคอกควาย หมู่ 2 ต.ดงขวาง อ.เมือง จ.นครพนม พบเฮโรอีนบริสุทธิ์ มีน้ำหนักสุทธิ 740 กรัม ครั้งนั้นถือว่าเป็นครั้งแรกในการจับกุมยาเสพติดชนิดเฮโรอีนในพื้นที่ของจังหวัดนครพนม