เมื่อวันที่ 21 พ.ย.2563 เวลา 16.30 น. เจ้าพนักงานตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ โดยการอำนวยการของ พ.ต.อ.ภูวนาถ ดวงดี ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ , พ.ต.ท.มนัสชัย อินทร์เถื่อน รอง ผกก.สส.สภ.เมืองเชียงใหม่ นำโดย พ.ต.ท.ตรีเพชร ป่าหวาย สว.สส.ฯ , พ.ต.ต.ชุวาพล  ชัยสาร สว.สส.ฯ , ร.ต.อ.ชัยพล  ชัยชนะ รอง สว.สส.ฯ , ด.ต.ธนวินท์  พรมวังขวา  , ด.ต.จีรวัฒน์  อาสาหม้อ , ด.ต.สุรัชต์  สุวรรณรัตน์ , ด.ต.เกียรติชัย  รุจิราภา , ด.ต.อนุพงศ์  ลออกิจ , ส.ต.อ.ณัฐพล  อุ่นเรือนพิงค์ และ ส.ต.อ.ฐากูร  ชัยอินตา ได้ร่วมกันจับตัว นายชา หรือเบิร์ด  (นามสมมุติ) อายุ 32 ปี  อยู่ ต.ท่าศาลา อ.เมืองเชียงใหม่ จว.เชียงใหม่ 

 

พร้อมด้วยของกลางคือ  เงินสด จำนวน  37,000 บาท​ ,รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นดรีม  1 กฌ 8446 เชียงใหม่, เสื้อแจ็คเก็ตแขนยาว สีดำ จำนวน 1 ตัว,กางเกงขาสั้น สีดำ จำนวน 1 ตัว,รองเท้าแตะแบบสวม สีขาว จำนวน 1 คู่, หมวกแก็ป จำนวน 1 ใบ นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ ดำเนินดคีด โดยกล่าวหาว่า มีความผิดฐาน “ ลักทรัพย์ในเคหะสถานในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม หรือรับของโจร ” จับกุมได้บริเวณหน้าบ้าน ถ.อนุวิถี ต.ท่าศาลา อ.เมืองเชียงใหม่ จว.เชียงใหม่ 

 

โดยเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2563 เวลาประมาณ 06.00 น. เจ้าพนักงานตำรวจฝ่ายสืบสวนได้รับแจ้งเหตุลักทรัพย์ เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 290/3 หมู่บ้านเชียงใหม่แลนด์ ซอย 2 ต.ช้างคลาน อ.เมืองเชียงใหม่ ช่วงระหว่างคืนวันที่ 19 พฤศจิกายน 2563 เวลาประมาณ 22.00 น. ถึงวันที่ 20 พฤศจิกายน 2563 เวลาประมาณ 05.45 น. ทรัพย์สินที่สูญหาย เป็นเงินสด จำนวน 63,000 บาท เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจึงได้เดินทางไปตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ พบว่าบริเวณใกล้เคียงกับที่เกิดเหตุมีกล้องวงจรปิดของอกชน ติดตั้งอยู่ จึงได้ขอตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดย้อนหลัง พบว่า ในคืนวันที่ 20 พฤศจิกายน 2563 เวลาประมาณ 02.40 น. ได้มีชายคนร้ายเป็นชายคนสวมเสื้อแจ็คเก็ตแขนยาว สีออกมืด กางเกงขาสั้นสีออกมืด สวมรองเท้าแตะแบบสวม สีขาว สวมหมวกแก็ปขับขี่รถจักรยานยนต์แบบหญิง สีดำ ทราบยี่ห้อและหมายเลขทะเบียนภายหลังเป็นรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นดรีม สีดำ หมายเลขทะเบียน1กฌ 8446  เชียงใหม่ ขับเข้ามาทางซอย 4 และจอดอยู่ตรงบริเวณเลยแยกในซอย 4 

 

จากนั้น ชายคนดังกล่าวได้เดินเข้าไปในซอยที่เชื่อมต่อระหว่างซอย 2 กับซอย 4 เพื่อดูลาดเลา และเมื่อเวลาประมาณ  03.13 น. ของคืนเดียวกัน ชายคนร้ายได้เดินตรงไปยังบริเวณหน้าบ้านเลขที่ 290/3 หมู่บ้านเชียงใหม่แลนด์ ซอย 2 สถานที่เกิดเหตุ และปีนรั้วเข้าไปในบ้าน และหายไปประมาณ 20 นาที ต่อมาเวลาประมาณ 03.24 น. ในคืนเดียวกัน ชายคนร้ายได้ปีนออกมาจากบ้านที่เกิดเหตุ  และเดินมายังบริเวณที่จอดรถจักรยานยนต์ไว้ จากนั้น ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีมุ่งหน้าไปทางถนนมหิดล และเลี้ยวซ้ายไปมุ่งหน้าไปทางสะพานข้ามน้ำปิง (ภาค 5) และเลี้ยวเข้าถนนต้นขาม ซอย 2 ไปออกบริเวณทางลอดอุโมงค์บิ๊กซี เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนซุปเปอร์ไฮเวย์เชียงใหม่-ลำปาง  ผ่านหน้า ภ.จว.เชียงใหม่ และเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนเจริญเมือง จากนั้น ชายคนร้ายได้จอดรถบริเวณหน้าตู้ธนาคารกสิกรไทย สาขาแยกถนนเจริญเมือง และ สักพักชายคนร้ายได้เดินข้ามถนนและเดินเข้าไปในร้านสะดวกซื้อ 7-11 ที่ตั้งอยู่ในบริเวณปั๊มน้ำมัน ปตท. ตรงข้ามกับธนาคารกสิกรไทย สาขาถนนเจริญเมือง ซึ่งกล้องวงจรปิดในร้านสะดวกซื้อ 7-11 สามารถบันทึกภาพใบหน้า และลักษณะตำหนิรูปพรรณคนร้ายและเครื่องแต่งกายได้อย่างชัดเจน

 

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ดูภาาพจากกล้องจรปิด และจากการตรวจสอบข้อมูลประวัติพบว่า คนร้ายรายนี้คือนายชาหรือเบิร์ด  (นามสมมุติ) เคยถูกจำคุกในคดีลักทรัพย์ และเพิ่งพ้นโทษมาเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2563  โดยนายชา หรือเบิร์ด พักอาศัยอยู่ที่ ต.ท่าศาลา อ.เมืองเชียงใหม่ จว.เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้เดินทางไปตรวจสอบ เมื่อไปถึงหน้าบ้านพบพบบิดาของผู้ต้อหา นั่งอยู่ในบ้าน  จึงได้ให้ทางบิดาโทรศัพท์เรียกผู้ต้องหาพบ เมื่อนายชา (นามสมมุติ) ต่อานายชา ได้ขับรถจักรยายนต์มาพบ  เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงได้แสดงตัว แสดงบัตร และนำภาพจากกล้องวงจรปิด ตามวัน ที่บันทึกได้ในที่เกิดเหตุ ตลอดจนตามเส้นทางหลบหนี ให้นายชาหรือเบิร์ด  ดู เมื่อนายชา หรือเบิร์ด เห็นชายที่ปรากฏตามภาพกล้องวงจรปิด ได้แสดงอาการหน้าซีด  ตกใจ แสดงอาการพิรุธ และยอมรับกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าตนเอง คือชายที่ปรากฏตามภาพกล้องวงจรปิดจริง 

 

นอกจากนั้น นายชา ยังให้การยอมรับว่าตามวัน เวลาที่เกิดเหตุ ตนเองคือคนร้ายที่ ก่อเหตุลักทรัพย์ (เงินสดของกลางรายการที่ 1) ของผู้เสียหาย ซึ่งก่อนเกิดเหตุตนเองได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ (ของกลางรายการที่ 2) โดยสวมเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย (ของกลางรายการที่ 3-5) ได้แอบเข้าไปในบ้านที่เกิดเหตุ ในช่วงที่ผู้เสียหายกำลังนอนหลับอยู่ในบ้าน

 

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม มีหลักฐานเชื่อแน่ว่าผู้ต้องหา เป็นคนร้ายที่ก่อเหตุดังกล่าวข้างต้นจริง จากการรวบรวมพยานหลักฐาน ตลอดจนเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายที่ผู้ต้องหาสวมใส่ในวันก่อเหตุ และของกลางที่ผู้ต้องหาลักไป และได้พาเจ้าหน้าที่ตำรวจไปติดตามตรวจยึดไว้ได้ จึงมีพยานหลักฐานเพียงพอ  เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อกล่าวหา ว่า “ลักทรัพย์ในเคหะสถานในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม หรือรับของโจร” จากนั้นเจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุมจึงได้นำตัวผู้ถูกจับมาที่ สภ.เมืองเชียงใหม่ จัดทำบันทึกการจับกุมไว้เป็นหลักฐาน นำตัวผู้ถูกจับส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป