สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่นางสมัย (นามสมมุติ)  อายุ 78 ปี  อาชีพเดินเก็บขยะและของเก่าขาย  ถูกคนร้ายที่เป็นชายหนุ่มพยายามจะข่มขืน  เมื่อช่วงเวลา 19.54 น. วันที่ 23 พฤศจิกายน  2563  ที่ริมถนนราษฎร์อุทิศ  ใกล้วัดศรีภูมิ ชุมชนบ้านแฮ่ เขตเทศบาลเมืองเลย  โดยมีกล้องวงจรปิดหน้าบ้านประชาชนที่อยู่บริเวณนั้นบันทึกภาพเหตุการณ์ไว้ได้  ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกติดตามสืบหา เพื่อตามจับตัวคนร้ายมาดำเนินคดีเมื่อวานนี้นั้น

มีความคืบหน้าล่าสุดเข้ามา  โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองเลย  ได้จับกุมคนร้ายรายนี้ได้แล้ว ทราบชื่อคือนายอมร  พุป้อง  อายุ 29 ปี  อยู่บ้านเลขที่ 189 หมู่ 12 ต.เกาะจันทร์  อ.เกาะจันทร์  จ.ชลบุรี  โดยก่อนถูกจับกุม มีพลเมืองดีเห็นชายลักษณะแต่งตัวและใบหน้าคล้ายคนร้ายเดินอยู่บริเวณสะพานแขวนข้ามแม่น้ำเลย สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ หน้าสำนักงานเทศบาลเมืองเลย  

ก่อนนี้  นายอมร เคยติดคุกมาแล้วในคดีเกี่ยวกับทางเพศ เมื่อปี 2552  หลังพ้นโทษออกมาก็กลายเป็นคนเร่ร่อน หารับจ้างทั่วไป มักจะเดินตระเวนขอเงินชาวบ้าน และอาศัยนอนตามสวนสาธารณะในเมืองเลย โดยยังให้การวกวน คล้ายคนสติไม่สมประกอบ ซึ่งในช่วงเที่ยงของวันนี้นั้น ทางพนักงานสอบสวนยังไม่สามารถแจ้งข้อหาได้เนื่องจากยังไม่มีผู้เสียหาย (ยาย) มาแจ้งความ

ล่าสุด เวลาประมาณ 16.00 น.นางสมัย (นามสมมุติ)  อายุ 78 ปี ยายผู้เสียหาย ได้เดินทางไปยัง สภ เมืองเลย เพื่อเข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.พศวัต จันทร์ดุ้งรอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองเลย และได้มีการสอบสวน โดยตั้งข้อหา ความผิด  ตาม มาตรา 276 ผู้ใดข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำให้ผู้อื่นนั้นเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สี่ปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่แปดหมื่นบาทถึงสี่แสนบาท และข้อหา มาตรา 278  ผู้ใดกระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปีโดยขู่เข็ญด้วยประการใด ๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำให้บุคคลนั้นเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี หรือปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ สงตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดเลย เพื่อพิจารณาต่อไป