โคราชเสือร้ายบุกเดี่ยวปล้นร้านทอง ในห้างฯเทสโก้-โลตัส กลาง อ.โนนไทย กวาดทองได้กว่า 100 เส้น 1.9 ล้านบาท  

นครราชสีมา วันนี้ ( 19 ม.ค. 2564 ) เมื่อเวลา 19.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โนนไทย จ.นครราชสีมา ได้รับแจ้งเกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนบุกเดี่ยวบุกจี้ชิงทอง ร้านทองเยาวราชกรุงเทพฯ ภายใน ห้างสรรพสินค้า เทสโก้-โลตัส สาขา โนนไทย อ.โนนไทย จ.นครราชสีมา ได้ของกลางสร้อยคอทองคำไปขจำนวนหลายเส้น โดยเบื้องต้นทราบว่าคนร้ายแต่งกายสวมเสื้อสีเขียว กางเกงสีแดง ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ยามาฮ่า  รุ่น มีโอ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน หลบหนีไปทางพื้นที่ ต.สำโรง กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามตัวคนร้ายอย่างเร่ด่วน

พล.ต.ต.พรชัย นลวชัย  ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา  ได้เดินทางลงพื้นที่จุดเกิดเหตุเพื่อตรวจสอบและอำนวยการสั่งการติดตามตัวคนร้ายด้วนตน  พร้อมเปิดเผยว่า เบื้องต้นได้รับรายงานว่า คนร้ายเข้าก่อเหตุคนเดียว  ใช้อาวุธปืนข่มขู่พนักงานร้านทองก่อนชิงทองรูปพรรณหลบหนีไป ซึ่งขณะเกิดเหตุเจ้าของร้านไม่อยู่  ขณะนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามไล่ล่าคนร้าย โดยให้มีการตั้งจุดสกัดทั้งด้านเขตรอยต่อจังหวัดชัยภูมิ และ เขตรอยต่อตัวเมืองนครราชสีมาที่คาดว่าคนร้ายจะใช้เส้นทางในการหลบหนี พร้อมเร่งสอบปากคำผู้อยู่ในเหตุการณ์เห็นเหตุการณ์และตรวจสอบภาพจากกล้องโทรทัศน์วงจรเพื่อหาเบาะแสคนร้าย  โดยได้สั่งการให้ชุดสืบสวน ตร.โนนไทย พร้อมชุดสืบสวน ตร.ภ.นครราชสีมา  รวม 5 ชุด กระจายกำลังลงพื้นที่ตามล่าคนร้ายรายนี้แล้ว พร้อมกันนี้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบในที่เกิดเหตุ ภายในร้านทองเยาวราชกรุงเทพ สาขาห้างโลตัสโนนไทย โดยเบื้องต้นพนักงานในร้านให้การกับพนักงานสอบสวน สภ.โนนไทยว่า คนร้ายได้เดินเข้ามาในห้าง ก่อนที่จะใช้อาวุธปืนพกสั้นเข้าไปจี้พนักงานในร้าน พร้อมกับข่มขู่ว่า หมอบลงไม่งั้นจะยิง ทำให้พนักงานในร้านทองหวาดกลัว พากันหมอบลงกันหมด หลังจากนั้นคนร้ายได้กระโดดเข้ามาในตู้แล้วคว้าทองคำไปหลายเส้น ตรวจสอบพบว่าที่คนร้ายได้ไป มีสร้อยคอทองคำ จำนวน 119 เส้น น้ำหนัก 72 บาท 50 สตางค์ มูลค่ากว่า 1.9 ล้านบาท ส่วนคนร้ายรายนี้ยังไม่แน่ชัดว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างหาเบาะแสตามเส้นทางการหลบหนี เพื่อเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีเป็นการเร่งด่วนแล้ว

เบื้องต้นยังไม่สามารถระบุช่วงอายุผู้ก่อเหตุได้ เนื่องจากแต่งตัวมิดชิดโดยสวมเสื้อคลุมศีรษะและสมหน้ากากอนามัยปิดหน้ามิดชิด คาดว่าคนร้ายจะต้องมาดูลาดเลาก่อนก่อเหตุ เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อหาข้อมูลให้ได้มากที่สุดเพราะเป็นคดีที่สังคมให้ความสนใจ เจ้าหน้าที่จะทำงานอย่างเต็มที่และติดตามตัวคนร้ายมาลงโทษให้เร็วที่สุด