เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 5 กรกฎาคม 2564 นายวีระชัย รัศมี อายุ 55 ปี บ้านเลขที่ 55/71ซ.5 ม.17 ต.บึงคำพร้อย  อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี เป็นอาสาสมัครดูแลหมู่บ้าน ภายในโครงการหมู่บ้านภาลัยการ์เด้นวิลล์ คลอง5 ได้ร้องเรียนต่อผู้สื่อข่าวว่า พวกตนและเพื่อนบ้านในโครงการดังกล่าวได้รับความเดือดร้อนจากโจรที่เข้ามาขโมยทรัพย์สินแทบไม่เว้นแต่ละวัน ซึ่งในแต่ละครั้งที่มีทรัพย์สินสูญหายก็ได้แจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่ สภ.ลำลูกกา แต่ก็ไม่มีอะไรคืบหน้า  

 

 

โดยโครงการศุภาลัยการ์เด้นวิลล์ และศุภาลัยวิลล์  ห่างกันเพียง 100 เมตร  โดยทั้ง 2 โครงการ มีบ้านเกือบ 1,000 หลัง จากภาพกล้องวงจรปิดโครงการหมู่บ้านภาลัยการ์เด้นวิลล์ คลอง5 เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2564 เวลา 03.35 น. ได้เห็นพฤติกรรมของคนร้ายแต่งกายเสือแขนยาวสีดำ นุ่งกางเกงสีดำและปิดบังใบหน้าด้วยกางใช้เสื้อสีดำพันใบหน้า  เข้าไปบริเวณภายในบ้านและขโมยทรัพย์สินที่มีค่าหลายรายการ ซี่งที่ผ่านมามีคนร้ายได้ปีนรั้วบ้านในหมู่บ้านจำนวนหลายหลังคาเรือนเป็นเวลาหลายปีแล้ว โดยที่ไม่มีการจับกุมคนร้ายรายนี้ได้ และอาจเป็นคนร้ายรายเดียวกันที่ตระเวนก่อเหตุได้มีความชำนาญในพื้นที่เป็นอย่างมาก เหมือนกับรู้การเคลื่อนไหวทั้งหมดของคนในหมู่บ้านเป็นอย่างดี และทำให้ชาวบ้านในโครงการทั้ง 2 โครงการเกิดความหวาดกลัวบ่งบอกถึงมาตรฐานความปลอดภัยของโครงการหมู่บ้านว่าไม่มีความปลอดภัย

 

 

นายวีระชัย  รัศมี  อายุ 55 ปี อาสาสมัครดูแลหมู่บ้าน กล่าวว่า เมื่อ 2-3 วันนี้ได้มีโจรเข้ามาใน 2 โครงการนี้เป็นรายเดียวกัน ช่วงเวลา ตี1ถึงตี3  และครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดขึ้น  โดยมีกล้องวงจรปิดของเพื่อนบ้านได้จับภาพคนร้ายได้จึงส่งมาในไลน์กลุ่มอาสาสมัครประจำหมู่บ้านที่ตนและเพื่อนบ้านตั้งขึ้นเองเพื่อช่วยเหลือดูแลกันเองในโครงการ พบว่ามีหลายหลังคาเรือนที่ถูกคนร้ายขโมยทรัพย์สินในเวลากลางคืน เสียหายหลายหลังคาเรือน จึงได้ติดตามไปยัง สภ.ลำลูกกา และ บริษัท ศุภาลัย จำกัด(มหาชน) ไม่ได้รับการสนใจจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าของโครงการแต่อย่างใด  อยากให้เจ้าของโครงการเข้ามาดูแลให้มากกว่านี้ พวกเราลูกบ้านได้จ่ายค่าส่วนกลาง 650 บาทต่อหลัง แต่ก็ไม่ได้รับการบริการที่น่าจะดีกว่านี้  ไม่ใช่แค่ขายบ้านหมดก็จบกัน และค่าส่วนกลางที่เก็บไปเอาไปทำอะไร ความปลอดภัยก็ไม่มี

 

 

นายภาสกร  เปาวสินต์  อายุ 49 ปี ที่อยู่ 55/240 ซ.15 ม.17 ต.บึงคำพร้อย  อ.ลำลูกกา  จ.ปทุมธานี  กล่าวว่า คืนนั้นเวลาประมาณตี 1 ตนได้ยินเสียงมาจากประตูห้องนอนที่ตนหลับอยู่ที่ชั้น2ของบ้าน เหมือนมีเสียงกำลังจะเปิดประตูตนก็ตกใจตื่นขึ้นมาได้เห็นแสงไฟฉายในบริเวณหน้าประตูชั้น2บริเวณระเบียง จึงใช้มือทุบไปบริเวณประตูและพูดว่าใครมาทำอะไรแต่ตนก็ไม่กล้าที่จะออกไปบริเวณระเบียงเพราะกลัวว่าจะเป็นอันตรายจากนั้นไม่นานแสงไฟฉายก็ดับไป ตนได้เปิดม่านออกมาดูที่ระเบียงไม่พบคนร้ายแล้ว  รุ่งขึ้นตอนเช้าตนจึงได้ขอภาพกล้องวงจรปิดจากเพื่อนบ้านที่มีในกลุ่มไลน์อาสาประจำหมู่บ้านได้เห็นคนร้ายรายนี้เทียวเข้าออกบ้านเรือนผู้เสียหาย  โดยใช้ไฟฉายส่องและเข้าไปยังบ้านหลังอื่นโดยไม่มีความเกรงกลัวใดๆเดินบนถนนหมู่บ้านโดยไม่หลบหลีกกลัวคนพบเห็นแต่อย่างใดราวว่าบ้านผู้เสียหายเป็นซุปเปอร์มาเก็ตที่สามารถเข้าออกและยิบขโมยทรัพย์สินได้อย่างสะดวก  ขอฝากไปยัง ผู้กำกับ สภ.ลำลูกกา ให้เร่งจับกุมคนรายรายนี้มาให้ได้เพราะสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านในโครงการทั้ง2เป็นอย่างมาก ภาพกล้องวงจรปิดก็มอบให้ไปแล้ว.