ภายใต้อำนวยการ นายวิชวุทย์  จินโต  ผวจ.สุราษฎร์ธานี ,  พล.ต.ต.ณัฐ สิงห์อุดม รองผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนรักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 4 , นายสุทธิพงษ์ คล้ายอุดม รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์, พ.ต.อ.กิจต์ณศักดิ์ เกี้ยวเพ็ง ผกก.ตชด.41 , พ.ต.ท.กุลนริศร์ นวมมณีรัตน์ รอง ผกก.ตชด.41 , พ.ต.ท.อภิสิทธิ์ รอดน้อย ผบ.ร้อย ตชด.417 ร่วมกันจับกุม 2 ผู้ต้องหาค้ายาเสพติด1.นายอุทัย หรือสี เพ็ชร์รัตน์ อายุ 33 อยู่บ้านเลขที่ 6/9 ม.8 ต.ควนทอง อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช 2.นายอนุเชษฐ์ หรือเชษฐ์ ศรีทองนาค อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 56 ม.8 ต.ควนทอง อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช จับกุมได้ที่ บริเวณศาลาริมถนน หลักกิโลเมตรที่ 61 ถนนสุราษฎร์ธานี-นครศรีธรรมราช ม.12 ต.ปากแพรก อ.ดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี ต่อเนื่องสถานที่จับกุม บริเวณข้างบ้านเลขที่ 6/9 ม.8 ต.ควนทอง อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช พร้อมของกลางมี 1.ยาบ้า จำนวน 275 มัด (มัดละ 2,000 เม็ด) รวมของกลางยาบ้า จำนวน 550,000 เม็ด มูลค่า ประมาณ 55,000,000 บาท2.ไอซ์ น้ำหนักประมาณ 100 กรัม มูลค่าประมาณ 100,000 บาท 3.เฮโรอีน น้ำหนักประมาณ 4 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 14,000,000 บาท 4.รถจักรยานยนต์ จำนวน 1 คัน รวมมูลค่าของกลางทั้งหมดประมาณ 69,000,000 บาท

 

ทั้งนี้สืบเนื่องจากการสืบสวนหาข่าวเครือข่ายยาเสพติด นายอุทัย หรือสี เพ็ชร์รัตน์ เป็นผู้จำหน่ายยาเสพติดในพื้นที่ อ.ดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี ต่อมาเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ.2564 จนท.ชปข.ร้อย ตชด.417 เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับว่าสามารถติดต่อสั่งซื้อยาเสพติดได้จากนายอุทัย ฯ จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ให้สายลับใช้โทรศัพท์ติดต่อไปหานายอุทัย ฯ และได้สั่งซื้อยาบ้าจำนวน 1 มัด (2,000 เม็ด) ในราคา 15,000 บาท นายอุทัย ฯ ได้ตกลงจำหน่ายยาบ้าให้กับสายลับ และนัดหมายให้ไปรับยาบ้าที่บริเวณศาลาริมถนน ปากทางเข้าคลองวัง ถนนสุราษฎร์ธานี-นครศรีธรรมราช ม.12 ต.ปากแพรก อ.ดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี

 

จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมพร้อมสายลับได้เดินทางไปที่ นายอุทัย ฯ ได้แจ้งไว้ และได้ซุ่มสังเกตการณ์บริเวณที่เกิดเหตุ จนกระทั่งเวลาประมาณ 20.00 น. ได้สังเกตเห็นผู้ชาย 2 คน ขับรถจักรยานยนต์มาจอดที่บริเวณศาลาที่เกิดเหตุ สายลับได้แจ้งกับชุดจับกุมว่าคนที่ขับรถนั้นเป็นนายอุทัย ฯ เจ้าหน้าที่ชุดจับจึงได้เข้าไปแสดงตัวทำการจับกุมนายอุทัย ฯ พร้อมด้วยนายอนุเชษฐ์ หรือเชษฐ์ ศรีทองนาค จากนั้นนายอุทัย ฯ ได้รับสารภาพว่าตนนั้นได้นำยาบ้ามาส่งให้กับสายลับจริง และนายอุทัย ฯ ยังรับสารภาพอีกว่าตนยังมี ไอซ์, ยาบ้า และเฮโรอีน ซุกซ่อนอยู่ที่บริเวณภายในสวนข้างบ้านเลขที่ 6/9 ม.8 ต.ควนทอง อ.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นบ้านของ นายอุทัย ฯ จากนั้นนายอุทัย ฯ ได้พาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมเดินทางไปที่บ้านของตน และได้นำชี้ของกลางไอซ์, ยาบ้า และเฮโรอีน ให้กับชุดจับกุม นายอุทัย ฯ สารภาพกับชุดจับกุมว่าไอซ์, ยาบ้า และเฮโรอีนที่เจ้าหน้าที่จับกุมได้นั้น นายอุทัย ฯ ได้รับคำสั่งจากนายโด่ง ฯ พักอาศัยอยู่ที่ จ.กระบี่ ให้ไปรับยาเสพติดที่บริเวณริมถนนเซ้าเทิร์นซีบอร์ด หลักกิโลเมตรที่ 62 ถนนสุราษฎร์ธานี-กระบี่ ม.2 ต.อรัญคามวารี อ.เคียนซา จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งนายโด่ง ฯ จะนำยาเสพติดมาวางไว้ เพื่อให้นายอุทัย ฯ นำมาเก็บไว้ และรอรับคำสั่งจากนายโด่ง ฯ เพื่อจะเอายาเสพติดส่งให้กับลูกค้าตามคำสั่งของนายโด่ง ฯ โดยนายอุทัย ฯ จะได้รับค่าจ้างเป็นเงินจำนวน 150,000-200,000 บาท ต่อครั้ง

 

โดยการจับกุมครั้งนี้นับว่าเป็นการจับกุมรายใหญ่และเป็นครั้งที่ 2 ในการทำงานชุดปฏิบัติการของ ตชด.417และจะมีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการอีกครั้งในช่วงเย็นนี้