ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สถานีตำรวจ สภ.ตะกั่วป่า พ.ต.อ.คุณเดช ณ หนองคาย ผกก.สภ.ตะกั่วป่า พร้อม พ.ต.ท.นิพนธ์ ญาณไพศาล รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.ตะกั่วป่า ร.ต.ท.หญิง ภคนันท์ ศรีนันทพันธ์ รอง สว.สอบสวน สภ.ตะกั่วป่า ได้นำตัวนายณรงค์ จันทร์แจ่มใส่ อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 78/2 หมู่ 5 บ้านบางมรวน (บาง-มะ-รวน)ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนลูกซองยาวยิงใส่ ด.ต.บัญชา แก้วนุ้ย อายุ 50 ปี ตำแหน่ง ผบ.หมู่ งานป้องกันและปราบปราม ปฏิบัติหน้าที่ สิบเวร สภ.ตะกั่วป่า จำนวน 1 นัด เข้าที่ชายโครงด้านขวาจนเสียชีวิต ที่บริเวณบ้านเลขที่ 78/2 หมู่ 5 บ้านบางมรวน (บาง-มะ-รวน)ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา โดยตั้งแต่ช่วงเช้าถึงตอนเที่ยงนานหลายช่วงโมง โดยทางผู้ก่อเหตุได้พาทนายส่วนตัวมาร่วมรับฟังการสอบปากคำในวันนี้และไม่อนุญาตให้สื่อเก็บภาพ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้อ่านสำนวนการสอบสวนให้ผู้ก่อเหตุและทนายส่วนตัวฟัง พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาผู้ก่อเหตุว่า ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนโดยทางผู้ต้อหายอมรับทุกข้อกล่าวหา

 

ทางนายปัญญา เอกภาพันธ์ อายุ 40 ปี ช่างก่อสร้างบ้านที่รู้จักกับนายณรงค์ฯ ผู้ก่อเหตุ กล่าวว่า ทางผู้ก่อเหตุได้เล่าให้ฟังว่าก่อนหน้านี้ทางดาบตำรวจที่เสียชีวิตได้นำอาวุธปืนไปจ่อหัวผู้ที่ก่อเหตุยิงตำรวจครั้งหนึ่งแล้วและมีการไล่ยิงกันในสวนปาล์มน้ำมันใกล้บ้าน และได้มีน้องสาวเข้ามาห้ามร้องจูงมือผู้ก่อเหตุเข้าบ้านแต่ต่อจากนั้นไม่นานทางผู้ก่อเหตุได้ไปหยิบปืนลูกซองยาวยิงใส่ดาบตำรวจเข้าที่บริเวณชายโครงด้านขวาเป็นรูพรุนหลายนัดและเสียชีวิตซึ่งก่อนหน้านี้เคยมีปากเสียงทะเลาะวิวาท กันบ่อยครั้ง โดยวันที่เกิดเหตุได้มีการไล่ยิ่งเหมือนในหนัง และตนเองได้เข้ามายกมือไหว้ตำรวจผมขอปืนและถอดแม็กปืนออกให้กับน้องเขยของผู้ก่อเหตุไปเก็บไว้แต่สุดท้ายทางดาบตำรวจ ได้วิ่งมาด่าผู้ก่อเหตุและถูกยิงในเวลาต่อมาและหลังจากก่อเหตุทางคนยิงได้วิ่งมาหาตนและบอกว่าให้ช่วยพาไปซื้อสุราหนึ่งขวดเพื่อกินย้อมใจ และเดี๋ยวถ้าตำรวจมากก็ให้ตำรวจจับไปเลยตนเองก็ได้พาไปซื้อเหล้าซึ่งก่อนหน้านี้ก็กินไปหมดแล้ว1ขวด และทางผู้ก่อเหตุได้บอกว่าทางผู้ตายนอนอยู่บ้านเค้าเค้าซักผ้าให้หุงข้าวทำกับข้าวให้กินมาตลอดแต่อยู่อยู่ทำไมดาบตำรวจจึงเอาปืนมาจ่อหัวผู้ก่อเหตุ ทั้งที่ไม่รู้เลยว่าเคยทะเลาะอะไรกันมาก่อน

 

ทางด้าน พ.ต.อ.คุณเดช ณ หนองคาย ผกก.สภ.ตะกั่วป่า กล่าวว่า โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและมีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนซึ่งคดีนี้ไม่ได้มีความซับซ้อนอะไรมากสืบเนื่องจากพฤติการณ์ที่ผ่านมาทางผู้ตายเป็นผู้ปฎิบัติหน้าที่สิบ มีความประพฤติตัวเรียบร้อย แต่นอกเวลางานก็มีทางสังคมกับเพื่อนฝูงกับคนในพื้นที่ซึ่งผู้ก่อเหตุและผู้ตายได้มีความสนิทสนมเหมือนพี่เหมือนน้องถึงขนาดว่าผู้ก่อเหตุให้ผู้ตายไปพักอาศัยอยู่ที่บ้านประมาณ 3 ปีและเป็นพี่รักน้องรักกัน แต่สาเหตุที่เกิดขึ้นน่าจะเกิดจากความไม่เข้าใจกันอะไรบางเรื่องซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือเกิดจากการดื่มสุราด้วยส่วนนึงจนเกิดอารมณ์ในการพูดจาจนกลายเป็นความรุนแรงขึ้นมา ซึ่งปกติดาบตำรวจบัญชาเป็นคนอารมณ์ดีใจเย็นคนที่จะปฏิบัติหน้าที่สิบเวร ต้องรับผิดชอบงานเรื่องด้านประชาสัมพันธ์ซึ่งถ้าสื่อสารประชาสัมพันธ์กับประชาชนไม่รู้เรื่องตนเองก็ไม่เอามาไว้อยู่ตรงนี้ที่ได้รับมอบหมายหน้าที่กับเพื่อนร่วมงานก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี โดยวันนี้ทางผู้ก่อเหตุได้นำทนายส่วนตัวมาร่วมรับฟังสำนวนซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ให้ความยุติธรรมทุกฝ่ายส่วนจะฝากขังเมื่อไหร่ก็ต้องรอให้สอบสวนเสร็จเรียบร้อยก่อนจึงจะนำตัวไปฝากขังยังศาลต่อไป