วันที่ 10 สิงหาคม 2564 เวลาประมาณ 11.45 น. พ.ต.ท. อดิศร อินธิจักร ร้อยเวรสอบสวนสถานีตำรวจเกษตรวิสัย จังหวัดร้อยเอ็ด ได้รับแจ้งเหตุมีหญิงสาวแม่ลูก เสียชีวิต 2 ราย ที่บ้านเลขที่ 161 ม.10 ต.สิงห์โคก อ.เกษตรวิสัย จ.ร้อยเอ็ด จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมแพทย์เวร และเจ้าหน้าที่กู้ภัย

เมื่อถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นบ้านเลขที่ 161 ม.10 ต.สิงห์โคก อ.เกษตรวิสัย จ.ร้อยเอ็ด พบศพ นางสาวนันทนา อายุ 20 ปี อยู่ สภาพศพถูกมีดปาดคอ และมีแผลถูกแทงที่แก้ม กับที่แขน นอนหงายจมกองเลือดอยู่ภายในบ้าน สวมชุดลายขาวดำ มีมีดสั้นทำครัว ตกอยู่ด้านซ้ายของศพ และพบจดหมายลาตายซึ่งผู้เป็นแม่เขียนไว้ บนโต๊ะรีดผ้า แต่ไม่พบตัว จึงตามหาจนพบรถจักรยานยนต์จอดอยู่ พร้อมรองเท้าที่ถอดทิ้งไว้แถวหนองน้ำ ห่างจากบ้านที่เกิดเหตุประมาณหนึ่งกิโล พบศพนางไพวรรณ อายุ 45  ปี ซึ่งเป็นแม่ของผู้ตาย สภาพเสียชีวิตจากการจมน้ำ

นางร่วม อายุ 72 ปี มารดาของนางไพวรรณ เล่าว่า ลูกสาวได้ทำธุระกิจ ขายวัสดุก่อสร้าง ช่วงหลังๆบ่นเรื่องหนี้สินมาเป็นระยะเวลาสักพักแล้ว ช่วงก่อนหน้าโควิดก็ขายสินค้าดีปกติ แต่มาช่วงโควิดนี้ ทำให้ขายของไม่ดี และบ่นเรื่องเงินตลอด ไม่คิดว่าลูกสาวจะคิดสั้น ฆ่าหลานสาว และฆ่าตัวตายตาม เพื่อหนีปัญหาแบบนี้

จดหมายลาตาย เขียนว่า ถ้าไม่มีเงินจัดงานให้ฝังหนูไว้กับลูกให้อยู่นำกันทุกชาติ ลูกขอโทษทุกคนลูกหมดแรงหมดกำลังหมดหนทางใช้หนี้บ่ไหว มันเข้ามาหาลูกทุกประตูมีแต่คนถามนี่รักพ่อแม่น้องลูกหลานทุกคนพี่น้องเพื่อนพ้องทุกคน ลูกตัดสินใจจบชีวิตใช้หนี้หากชาติหน้ามีจริงลูกขอเกิดเป็นลูกพ่อกับแม่อีก เฮิ่นจังใด๋กะไปบ่ได้  นี่ธนาคาร 5,000,000 บาท จบชีวิตลูกตัวเองบ่อยากให้ลูกมีปัญหาตามมา ลูกบ่มีทางออกอีหลีรักครอบครัวที่สุด เกลียดที่สุดนายบุญมา คำนิล บอกทิศเขตนำแหน่ให้โทรหาเบอร์น้องบี น้องบี รักเขต น้องบีบ่อมีไผ ถ้าชาติหน้ามีจริง ขอให้ได้ครองคู่กัน ขอบคุณ พ่อแม่พี่น้องที่คอยให้กำลังใจแต่บ่ไหวอีหลี ถ้าเกิดมามีเงิน ถ้าลูกหลานมีปัญหาคือสิคิดนำแก้ให้ทุกคนขอโทษย่า นำเด้อ

จากการสอบสวนเบื้องต้นได้ความว่า นางไพรวรรณฯ อยู่กับบุตรสาวคือ น.ส.นันทนาฯที่บ้านเกิดเหตุเพียงสองคน สามีแยกทางกัน และเคยพูดกับญาติและเพื่อนบ้านเป็นประจำว่ามีหนี้สินจำนวนมาก ในวันเกิดเหตุเวลาประมาณ 04.00 น.ได้พบเห็นนางไพรวรรณฯแต่เพียงผู้เดียว ขับขี่รถจักยานยนต์ออกไปทางหนองน้ำ จนกระทั่งมาพบศพ น.ส.นันทนาฯ และนางไพรวรรณฯ ดังกล่าวข้างต้น ในชั้นนี้เชื่อว่านางไพรวรรณฯได้ใช้มีดทำครัวทำร้าย น.ส.นันทนาฯ จนเสียชีวิต และไปกระโดดน้ำและจมน้ำถึงแก่ความตาย โดยญาติไม่ติดใจสงสัยในสาเหตุการตาย ว่าเป็นบุคคลอื่นฆาตรกรรม และเจ้าหน้าที่จะได้ดำเนินการตามขั้นตอนตามกฎหมายต่อไปก่อนที่จะส่งมอบศพ2แม่ลูกให้กับญาติพี่น้องนำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป