เวลา 11.00 น. วันที่ 7 ก.พ. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บริเวณศาลเจ้ากรุงพาลี ถ.เลียบชายทะเลพีเอ็มวาย ซ.1 ต.เนินพระ อ.เมือง จ.ระยอง พบ นายบุญทัน  คณะทรง อายุ 33 ปี  เป็นผู้ดูแลอพารต์เม้น และพักอยู่ที่อพาร์ตเม้นท์พีเอ็มวาย ใกล้กับศาลเจ้า ได้พาผู้สื่อข่าวไปดูในศาลเจ้าที่เหลือแต่แท่นบูชา ซึ่งก่อนหน้านั้นได้มีรูปปูนปั้นองค์เจ้ากรุงพาลี ขนาดสูง 60 ซ.ม. หน้าตักกว้าง 45 ซ.ม.ปางขัดสมาธิ ประดิษฐานอยู่ 

 

นายบุญทัน  คณะทรง  เล่าให้ฟังว่า รูปปั้นพระเจ้ากรุงพาลี นี้ นายยุทธนา พินธุโสถณ เจ้าของโรงแรมพีเอ็มวายและอพาร์ตเม้นท์ได้เป็นผู้ก่อตั้ง มากว่า 40 ปีแล้ว สร้างศาลนี้ก่อนที่จะสร้างโรงแรม โดยขณะที่มาปรับพื้นที่คนงานได้ฝันเห็นยักษ์ตัวใหญ่มากยืนอยู่ที่บริเวณนี้ พอเล่าให้เจ้าของฟัง ก็เลยสร้างศาลนี้ขึ้นและนำรูปปั้นองค์เจ้ากรุงพาลีมาประดิษฐาน ซึ่งเป็นที่เคารพบูชาของชาวบ้านบริเวณนี้  ใครมีปัญหาเดือดร้อนขัดสนอะไร ก็มักจะมาขอให้ช่วย ส่วนตัวเองก็เคยมาขอให้ท่านช่วยเรื่องการงานก็ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ซึ่งพนักงานที่อยู่อพาร์ตเม้นท์แห่งนี้ก่อนไปทำงานก็จะแวะเข้ามากราบไหว้ขอพรก่อนไปทำงานทุกครั้ง  แต่เมื่อวันที่ 6 ก.พที่ผ่านเวลา 9โมงเช้าตนเองได้เข้ามากราบไหว้ตามปกติและกลับขึ้นไปที่ห้องพัก พอลงมาช่วงประมาณ 11 โมงก็พบว่าประตูศาลเปิดจึงได้เดินเข้าไปดูพบว่า องค์รูปปั้นเจ้ากรุงพาลีหายไปแล้ว 

 

จากการการตรวจสอบกล้องวงจรปิดของอพาร์ตเม้นก็พบคนร้ายขับรถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ ดีแมกซ์ สีขาว ฝากระโปรงสีดำ  4 ประตู เข้ามาทางซอย 2 แล้วก็ถอยรถเข้าไปในบริเวณศาลแต่กล้องไม่สามารถจับภาพได้เพราะบริเวณศาลไม่มีกล้องวงจรปิด จากนั้นจึงได้เข้าไปดูกล้องวงจรปิดของทาง วรัญญาคอนโด ซึ่งอยู่ปากทาง ก็เห็นรถคนร้ายขับออกไปทางขวามือมุ่งหน้าไปทางหาดสุชาดา  จึงได้ไปแจ้งความกับ รตอ.ทองดาว โคตรหลักคำ ร้อยเวร สภ.เมือง ระยองไว้แล้ว หลังแจ้งความตนได้เดินทางไปไหว้และเสี่ยงเซียมซีพระพุทธอังคีรส  ซึ่งเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองระยอง ที่ สวนศรีเมือง ได้ใบที่ 15 ทายว่าของหายจะได้คืนชุ่มชื่นใจ ซึ่งก็ทำให้มีความหวังว่าจะได้ท่านกลับคืนมา แต่ก็ขอให้เจ้าหน้าที่ช่วยติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีให้ด้วย