ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 4 พ.ค.65 ที่ผ่านมา นายปรีชา สมบัติ นายกเทศมนตรีตำบลบางลึก อ.เมือง จ.ชุมพร นายชุมพล องอาจ รองนายกเทศมนตรีตำบลบางลึก ได้รับร้องเรียนจากชาวบ้านว่ามีนายทุนได้นำวัว กระบือ จำนวนหลายตัวเข้ามาทำการฆ่าชะแหละเนื้อเป็นประจำเกือบทุกวัน เพื่อส่งเนื้อไปขายให้กับผู้ประกอบการ ที่บริเวณโรงเรือนบ้านเลขที่ 116/2 หมู่ 2 ตำบลบางลึก อ.เมือง จ.ชุมพร ได้สร้างความเดือดร้อนรำคราญทั้งเสียง กลิ่นและน้ำเสียที่ปล่อยทิ้งลงสู่ลำห้วยสาธารณะ จึงได้ประสานงานไปยัง นายทวีป ไทยสวี ปลัดอำเภอเมืองชุมพร ร.ต.ท.ภิญโญ พรหมเรือง รอง สวป.สภ.เมืองชุมพร ในฐานหัวหน้าสายตรวจตำบลบางลึก ไปตรวจสอบพร้อมด้วย นายวิทยา พลวัชรินทร์ สท.บางลึก นายกฤชกร ธนอภิรัตน์ นิติกร เทศบาลตำบลบางลึก นายสันติ หอมลออ กำนันตำบลบางลึก นายนิคม ไชยสังข์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ตำบลบางลึก และกำลังเจ้าหน้าที่ร่วมตรวจสอบ

จากการตรวจสอบพบว่าสถานที่ดังกล่าวสร้างเป็นโรงเรือนขนาดใหญ่มีการกั้นรั้วรอบ อยู่ติดกับถนนทางหลวงสาย 360  เป็นถนนตัดใหม่เส้นทางลัดระหว่าง อ.ท่าแซะ กับตัวเมืองชุมพร ด้านข้างโรงเรือนดังกล่าวเป็นชุมชนที่อยู่อาศัยของชาวบ้าน ด้านหน้าประตูเปิดอ้าอยู่ เมื่อเข้าไปตรวจสอบพบคนงานมีทั้งคนไทยและชาวเมียนมา 5-6 คน อยู่ภายในโรงเรือน มีวัวพันธุ์เนื้อจำนวน 2 ตัว ที่ขาทั้ง 2 ข้างถูกเชือกมัดอย่างแน่นหนานอนหงายข้าชี้ฟ้า ลักษณะถูกเชือดคอเป็นแผลขนาดใหญ่เตรียมชำแหละเนื้อ ส่วนอีกตัวคนงานกำลังจะแทงคอเพื่อเชือดชำแหละ แต่เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบต้องหยุดชะงักทันที ทำให้วัวตัวดังกล่าวรอดตายอย่างหวุดหวิด ส่วนด้านข้างมีวัวพันธุ์เนื้อจำนวน 10 ตัว ถูกขังอยู่ในคอกรอการเชือดชำแหละ 

ตรวจสอบด้านหน้าติดกับโรงเรือนมีการทำเป็นห้องเย็นขนาดเท่าตูคอนเทนเนอร์ เมื่อเปิดดูข้างในมีเนื้อวัวแช่แข็งอยู่จำนวนมาก นอกจากนั้นยังพบเศษเนื้อ เลือดสดๆและคราบเลือกเก่าๆถูกล้างชำระล้างรางระบายน้ำทิ้งออกไปข้างนอกลงสู่ลำห้วยสาธารณะบริเวณริมถนนที่อยู่ด้านหน้า ส่งกลิ่นเหม็นโชยไปทั่ว 

 จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดตรวจสอบได้ประสานไปยัง นายนรินทร์ สหสันติเวช ปศุสัตว์อำเภอเมืองชุมพร นายโสภณ นาคกล่อม หัวหน้ากลุ่มคุณภาพสินค้า สำนักงานปศุสัตว์ จ.ชุมพร มาร่วมตรวจสอบตรวจยึดของกลางทั้งหมด โดยมี นายปริญญา ประทาน อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16/1 หมู่ 8 ตำบลนาเตย อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา รับเป็นเจ้าของ เจ้าหน้าที่ขอตรวจสอบเอกสารการสร้างโรงเรือนฆ่าสัตว์ แต่ไม่มีมาแสดงโดยอ้างว่าอยู่ระหว่างดำเนินการขออนุญาต

เจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดเนื้อวัวของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองชุมพร ดำเนินคดีในข้อหาความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมการฆ่าสัตว์เพื่อการจำหน่ายเนื้อสัตว์ พ.ศ.2559 มาตรา 15 โดยทำการประกอบกิจการฆ่าสัตว์โดยไม่ได้รับอนุญาต ต้องโทษตามมาตรา 56 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมาตรา 31 โดยทำการฆ่าสัตว์โดยมิได้แจ้งจำนวนสัตว์ที่จะฆ่า แหล่งที่มาของสัตว์ที่จะฆ่า วัน เวลา ที่จะฆ่า และชื่อของโรงฆ่าสัตว์ ต้องโทษตามมาตร 60 ระวางโทษปรับเรียงตามรายตัวของสัตว์โคกระบือ ตัวละไม่เกิน 5 หมื่นบาท 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับโรงฆ่าสัตว์เถื่อนแห่งนี้ เมื่อวันที่ 24 ก.ค.56  เคยถูกเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลบางลึก และฝ่ายปกครองอำเภอเมืองชุมพร สนธิกำลังเข้าจับกุมมาแล้ว ตรวจยึดของกลางเนื้อวัวที่ชำแหละแล้วจำนวนมาก ศาลพิพากษาโทษปรับและโทษจำคุกให้รอลงอาญา กระทั่งมาถูกจับในครั้งนี้อีก.