วันที่ 26 พ.ค.65 ร.ต.อ.ตะวัน นวลแก้ว รอง สว.สส.สภ.เมืองภูเก็ตพร้อมด้วยชุดสืบสวนนำตัวนายนฤเบศร์ หรือ ชู (ขอสงวนนามสกุล)อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุมชี้ยืนยันของกลางธนบัตรที่ได้ขโมยมาและชุดที่ใช้ในการก่อเหตุที่ร้านหัวพาน ถ.รัตนโกสินทร์ 200 ปี ต.ตลาดเหนือ อ.เมือง จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 25 พ.ค. 65 เวลา 23.11 น.

 

ทั้งนี้เมื่อกลางดึกวันที่ 25 พ.ค.65 ชุดสืบสวน สภ.เมืองภูเก็ตได้รับแจ้งเหตุลักทรัพย์ โดยคนร้ายเพศชาย อายุประมาณ 30-35 ปี ผมสั้น สวมเสื้อยืดแขนยาวสีแดง นุ่งกางเกงขาสั้น สีเทา สวมรองเท้าแตะสีทึบ โดยใช้ยานพาหนะเป็นรถจักรยานยนต์ฮอนด้าคลิก สีขาว ทะเบียน ขรพ หรือ ขวพ 921 หรือ 521 ภูเก็ต มีตำหนิรอยสักที่หน้าอกลายสร้อยสังวาลย์และรอยสักที่ต้นขาขวา และข้อเท้าขวาด้วยหมึกสีดำ ขโมยเงินสด มูลค่ารวมจำนวน 10,000 บาท ผู้เสียหายจึงมาแจ้งความร้องทุกข์ไว้ ต่อมาชุดสืบสวนได้ออกติดตามคนร้ายและยานพาหนะที่คนร้ายใช้ในการกระผิดอย่างต่อเนื่อง จนสืบทราบว่ายานพาหนะที่ใช้ก่อเหตุพร้อมคนขับ ซึ่งมีลักษณะตรงกับภาพจากกล้องวงจรปิดที่ได้รับจากผู้เสียหายอยู่ที่บริเวณในซอยอนุภาษภูเก็ตการ 12 ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ชุดสืบสวนจึงได้ออกไปตรวจสอบ และพบรถจักรยานยนต์ลักษณะตรงตามที่ได้รับแจ้ง เมื่อคนบนรถเห็นชุดสืบสวนจึงได้ลงจากรถและพยายามจะวิ่งหนี แต่ถูกจับกุมตัวไว้ได้ ทราบชื่อคือ นายนฤเบศร์ หรือ ชู อายุ 28 ปี และได้ให้การยอมรับว่าตนคือ คนร้ายที่ได้ขโมยเงินสดภายในร้านหัวพาน ถ.รัตนโกสินทร์ 200 ปี ต.ตลาดเหนือ อ.เมือง เมื่อวันที่ 25 พ.ค. 2565 เวลาประมาณ 11.45 น.จริง จากการตรวจสอบพบของกลางต่างๆอยู่ภายในบ้านพักเลขที่ 547/12 ซ.แสนสุข 2 ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นบ้านที่ผู้ต้องหาพักอาศัย ได้ยึดของกลางทั้งหมดพร้อมควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ตในข้อหาลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม โดยในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

 

ทั้งนี้จากแนวทางการสืบสวนทราบว่า นายนฤเบศร์ หรือ ชู เคยก่อเหตุลักทรัพย์ตามร้านค้า ร้านอาหารต่างๆในพื้นที่ จ.ภูเก็ตมาอย่างโชกโชน เช่น พื้นที่เมืองภูเก็ต 15 ครั้ง พื้นที่ ต.ฉลอง 5 ครั้ง พื้นที่ ต.วิชิต 7 ครั้งและพื้นที่อื่นๆอีก 3-5 ครั้ง โดยก่อเหตุในรอบ 2 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งนำทรัพย์สินต่างๆไปแลกเป็นเงินสดเพื่อนำไปเล่นเกมส์และใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน โดยในอดีตเคยเป็นพนักงานส่งแก๊สหุงต้มตามร้านค้า ร้านอาหารต่างๆในพื้นที่ จ.ภูเก็ต จึงล่วงรู้ทำเลของแต่ละร้านในการก่อเหตุเป็นอย่างดี