ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีเพจของ ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ระบุข้อความว่า ตำรวจจังหวัดภูเก็ตทำอะไรกันอยู่ ผู้เสียหายไปแจ้งความก็ลงแค่บันทึกประจำวัน เรื่องไม่ถึงสื่อไม่ขยับก้นกันใช่ไหม ด้วยบริษัทเอเจนซี(รับทำวีซ่าอยู่ต่อในไทยให้คนต่างชาติ)แห่งหนึ่งในภูเก็ต รับให้บริการดังกล่าว ซึ่งรับเงินชาวต่างชาติแล้วและเก็บพาสสปอร์ตชาวต่างชาตินั้นไว้ โดยอ้างว่าจะนำไปดำเนินการต่อกับ ตม /ตรวจคนเข้าเมืองให้ จนเวลาผ่านไป 1 เดือน 2 เดือน 3 เดือน กระทั่งจนชาวต่างชาติบางส่วนรอไม่ไว้ จึงไปขอคืนและพบว่ามิได้ดำเนินการอะไรให้เลย จนทำให้หนังสือเดินทางชาวต่างชาติทุกคนอยู่เกิน (overstay) ส่วนหนึ่งวีซ่าไม่เกิน 90 วัน แต่บางส่วนวีซ่าเกิน 90 วัน ซึ่งกลุ่มคนชาวต่างชาติส่วนหลังนี้ ไม่กล้าไปแจ้งความ เพราะรู้ตนเองว่าอยู่เกิน (overstay) พาสปอร์ตชาวต่างชาติส่วนหนึ่งเอเจนซี่นั้นยังเก็บไว้ ไม่ยอมส่งคืนให้เจ้าตัว มีชาวต่างชาติที่ได้รับความเดือดร้อนกับบริษัทนี้ ร่วม 100 คนครับ ผมแค่ช่วยเหลือประสานงานครับ

 

พ.ต.อ.สราวุธ ชูประสิทธิ์ ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต กล่าวว่า วันนี้มีนักท่องเที่ยวที่ได้รับความเดือดร้อนจากกรณีดังกล่าวได้เข้ามาแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าได้จ้างบริษัทเอเย่นต์ต่อวีซ่า แต่พอถึงเวลาบริษัทเอเย่นต์ก็ไม่ได้ทำตามข้อตกลง จากการตรวจสอบเบื้องต้นอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน ซึ่งถ้าพบว่าบริษัทเอเย่นต์ดังกล่าวไม่ทำตามข้อตกลงที่ทำไว้กับนักท่องเที่ยว เราก็จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ส่วนสำหรับนักท่องเที่ยวประสานกับทางผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองภูเก็ต ในเรื่องของการทำวีซ่าก็เป็นเรื่องเฉพาะตัวของนักท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวต้องรู้ว่า วีซ่าจะครบตามกำหนดระยะเวลา แล้วต้องไปดำเนินการต่อให้เรียบร้อย กรณีที่ต่อแล้วไม่เรียบร้อยก็เป็นหน้าที่ของนักท่องเที่ยวที่จะต้องไปติดตามที่ตรวจคนเข้าเมืองภูเก็ต หรือตม.ถ้าไม่ไปติดตามก็ถือว่าโอเวอร์สเตย์  ก็เป็นหน้าที่ของนักท่องเที่ยวที่จะต้องไปติดตามด้วยตัวเองส่วนที่โอเวอร์สเตย์ไปแล้วก็ต้องรีบไปติดต่อที่ ตม.ก่อนการผลักดันไป แต่รายไหนที่ยังไม่โอเวอร์สเตย์ หรือกำลังจะครบ ก็รีบไปติดต่อที่ตม.ภายใน 90 วัน  ไม่ต้องรอบริษัทเอเย่นต์แล้ว ต้องรีบไปติดต่อตม.ด้วยตนเอง ทาง ตม.ก็จะทำการประสานงานให้

 

“ในส่วนของบริษัทเอเย่นต์ที่รับดำเนินการต่อวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ ซึ่งมีมากกว่า 1 บริษัท มีการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานไปถึงตัวบริษัท  ก็อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน ถ้าพบว่ามีเจตนาที่จะหลอกลวงนักท่องเที่ยว ก็จะมีความผิดฐานฉ้อโกง”  

 

ทางด้าน พ.ต.อ.ธเนศ สุขชัย ผกก.ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดภูเก็ต (ตม.ภูเก็ต) เปิดเผยทางโทรศัพท์กรณีประเด็นปัญหานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติกลุ่มดังกล่าว ว่า ได้รับรายงานในเรื่องนี้แล้ว และได้สั่งให้ตั้งศูนย์บริการช่วยเหลือชาวต่างชาติผู้ได้รับความเดือดร้อน เพื่อรับเรื่องราวร้องทุกข์กรณีได้รับความเดือดร้อนจากการให้บริการรับต่อวีซ่าของบริษัทตัวแทน และเร่งรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ เพื่อเอาผิดกับบริษัทที่หลอกลวงนักท่องเที่ยวดังกล่าว เบื้องต้นขอให้ญาติหรือครอบครัวของผู้ที่ตกเป็นเหยื่อบริษัทดังกล่าว ไปพบกับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง เพื่อให้ข้อมูลและจะได้ให้การช่วยเหลือเยียวยาเป็นรายๆ ไป  ทราบว่ามีผู้เดินทางมาให้ข้อมูลแล้ว 1 ราย 

 

จึงอยากฝากประชาสัมพันธ์ไปยังชาวต่างชาติที่เดือดร้อนและเสียหายว่า ขอให้ทางญาติหรือครอบครัวของชาวต่างชาติที่ได้รับความเดือดร้อนเข้ามาพบ และให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ฯ เพราะทราบว่า หลายรายไม่กล้าที่จะมาพบเจ้าหน้าที่เพราะกลัวจะถูกจับกุมดำเนินคดี เพื่อทางเจ้าหน้าที่ฯ จะได้ให้คำแนะนำเป็นรายๆ ไป  เพราะจะมีทั้งเรื่องการเยียวยากรณีที่ถูกหลอกว่าจะสามารถช่วยเหลือได้อย่างไร และการบังคับใช้กฎหมายกับบริษัทตัวแทนที่ก่อให้เกิดความเสียหายขึ้นกับนักท่องเที่ยว รวมถึงภาพลักษณ์ของจังหวัดภูเก็ตด้วย เนื่องจากขณะนี้ท่องเที่ยวกำลังเติบโตและเป็นไปในทิศทางที่ดี

 

อย่างไรก็ตามในส่วนของ ตม.ภูเก็ต ได้มีการจัดทำข้อความประชาสัมพันธ์ของศูนย์บริการช่วยเหลือชาวต่างชาติผู้เดือดร้อน ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ  ผ่านสื่อออนไลน์ ระบุว่า ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดภูเก็ตรับเรื่องราวร้องทุกข์ จากชาวต่างชาติ ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการให้บริการรับต่อวีซ่าของบริษัทตัวแทน  โดยสามารถนัดหมายผ่านเจ้าหน้าที่โดยตรง ได้ที่หมายเลข 086 4077 763 และ 076 211905  ต่อ 110  หนังสือเดินทาง หรือสำเนาหนังสือเดินทาง, หลักฐานการดำเนินการกับบริษัท/ตัวแทนเกี่ยวกับวีซ่า, หลักฐานเกี่ยวกับการดำเนินคดี เช่น เอกสารแจ้งความ (ถ้ามี) เป็นต้น รวมถึงข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง