เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม เวลา 20.30 น. ร.ต.อ วิกรม คงทอง รองสว( สอบสวน)สภ. ลาดบัวหลวงได้รับแจ้งเหตุ คนร้ายถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจวิสามัญคนร้ายเหตุเกิดบริเวณภายในปั๊มแห่งหนึ่งบนถนน 340 ลาดบัวหลวงมุ่งหน้าสุพรรณบุรี ม.5ต. สามเมืองอำเภอลาดบัวหลวงจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม รายงาน พ.ต.อ จักรพันธ์  โอสถากันต์ ผกก.สภ. ลาดบัวหลวง ผู้และ ประสานแพทย์เวรโรงพยาบาลเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานและเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู

 

ในที่เกิดเหตุพบเป็นบริเวณลานจอดรถภายในปั๊มพบรถยนต์เก๋งยี่ห้อ Honda Jazz สีดำทะเบียนป้ายแดงกรุงเทพมหานคร ภายในรถด้านคนขับพบผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 รายสวมเสื้อสีขาวคอกลมกางเกงยีนส์ลักษณะนอนคว่ำหน้าอยู่บริเวณเกียร์รถ

 

ต่อมาช่วงเวลา 23.30 น. เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานลงตรวจสอบที่เกิดเหตุเพื่อเก็บหลักฐานในจุดเกิดเหตุทั้งหมด เพื่อนำไปประกอบสำนวนคดี แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจ นำเชือกมากั้น ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปดูสถานการณ์ และทำข่าวแม้กระทั้งอาวุธปืนที่ใช้ยิงยังไม่ทราบชนิด ผู้สื่อข่าวยืนรอนาน3ชั่วโมง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจออกมาแจ้งว่ายังไม่สะดวกให้ข้อมูลกับสื่อมวลชน  

 

ขณะเดียวกันแม่ของผู้เสียชีวิตได้เดินทางมาจุดเกิดเหตุแต่ถูกกันไม่ให้เข้าไปดูลูกชายศพและให้รออยู่ด้านนอก ด้านแม่ (สงวนชื่อนามสกุล)เผยกับผู้สื่อข่าวเพียงสั้นๆว่าตนเองทราบข่าวจากหลานชายก็รู้สึกตกใจมากที่ลูกชายถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจวิสามัญแต่ตนเองก็ยังไม่รู้ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอย่างไรเนื่องจากยังไม่ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาพูดคุยด้วยพร้อมเผยลูกชายได้แยกออกจากที่บ้านและไปและไปเปิดร้านขายยางเปอร์เซนซึ่งปกติก็ไม่ค่อยได้คุยกับลูกชายจึงไม่รู้ว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นส่วนเรื่องที่ลูกชายโดนหมายจับ ก็พอจะรู้บ้างส่วนอาวุธปืนก็ยอมรับว่าลูกชายจะพกติดตัว

 

ในเวลาต่อมามีชาวบ้านซึ่งเป็นผู้เสียหายเข้ามาโวยวายกับเจ้าที่ตำรวจหลังถูกลูกหลงถูกวิถีกระสนปืนยิงเข้าตัวรถ นาย โอม คนขับรถยนต์ Isuzu ป้ายแดงพร้อมเพื่อนที่นั่งมาด้วยกัน 3 คน ขับรถมาจอดบริเวณภายในปั๊มน้ำมันเพื่อเข้าพบกับพนักงานสอบสวนถึงสาเหตุที่รถของตนเองนั้นถูกอาวุธปืนยิงเข้าประตูด้านฝั่งคนนั่งข้างคนขับ จนเกือบจะเสียชีวิต

 

นายโทนอายุ 26 ปี  เผยว่าตนเองพร้อมเพื่อนนั่งมาด้วยกัน 3 คนกลับจากการทำบุญ ต่างจังหวัดและกำลังเดินทางกลับจังหวัดนครปฐมพอผ่านถึงจุดเกิดเหตุได้ยินเสียงปืนดังขึ้นบริเวณประตูรถเพื่อนที่ขับมาด้วยกันก็ตกใจ นึกว่าถูกปล้น พยายามขับรถเลยผ่านปั๊มแล้วไปจอดห่างจากจุดเกิดเหตุจากนั้นก็ลงมาตรวจสอบก็พบว่ารถตัวเองถูกวิถีกระสุนปืนยิงเข้าใส่บริเวณประตูจากนั้นจึงโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าถูกยิง และ ขับรถกลับมายังจุดเกิดเหตุซึ่งอยู่บริเวณหน้าปั๊มตอนแรกยังไม่ทราบว่ามีการวิสามัญคนร้าย กระทั่งมาทราบจากชาวบ้านที่มาดูเหตุการณ์ว่ามีการวิสามัญคนร้าย ที่อยู่ภายในปั๊ม ซึ่งพอรู้เรื่องราวทางพนักงานสอบสวนและทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจึงจะทำการตรวจสอบวิธีกระสุนของรถตนเองโดยการผ่าแต่ตนไม่ยอมเพราะเนื่องจากรถเพิ่งออกมาใหม่และถ้าผ่าพิสูจน์คืนนี้ตนเองจะต้องเสียเวลาเพราะจะต้องทำงานเสียรายได้ไม่คุ้ม จึงขอนัดเป็นพรุ่งนี้แต่ถ้าหากจะทำการผ่าตนเองก็จะต้องอยู่ดูในเหตุการณ์ หากเป็นของคนตายตนเองก็อาจจะไม่เรียกค่าเสียเวลาก็ได้แต่หากเป็นของเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ต้องมีการฟ้องร้องเรียกค่าชดเชยที่ตนเองขาดรายได้ไป แต่สำหรับ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนเองมองว่า ผู้ต้องหาคดี ล่วงละเมิดทางเพศหญิงต่ำกว่าอายุ 15 ทางเจ้าหน้า ตำรวจไม่น่าถึงจะขั้นต้องวิสามัญผู้ต้องหาในจุดที่ตำรวจยิงเป็นจุดที่ชุมชนเสี่ยงต่อให้ประชาชนถูกลูกหลง ซึ่งยังถือว่า โชคดีที่ตนเองหรือเพื่อนที่นั่งมาในรถไม่ถูกกระสุนปืนและถ้าเป็นรถจักรยานยนต์ที่ขับผ่านมาอาจจะไม่โชคดีเหมือนอย่างตนก็เป็นได้