วันพฤหัสบดี ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2568 02:57 น.

อาชญากรรม

สังคมทราม เด็กสาววัย 16 ถูกพ่อเลี้ยงทาสยาบ้า ข่มขืนมาราธอนถึง 8 ปีจนตั้งท้องคลอดลูก แถมแม่แท้ๆรู้เห็นเป็นใจ

วันศุกร์ ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2565, 17.57 น.
วันที่ 30 กันยายน 2565 นางสาวณัฐธ์ภัสส์ ยงใจยุทธ  ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย ว่าที่ร้อยตรี พิเชษฐ์ แก้วจินดา ยุติธรรมจังหวัดนครพนม นางสาวสุพรรณนี ศรีสุพรรณ พนักงานคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ พ.ต.ท.ธราพงษ์ ภูมิถินเหว่อ สารวัตรสอบสวน สภ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม ว่าที่ร้อยตรี ศิริพงศ์ ไชยพันธุ์ นายก อบต.นาขมิ้น อ.โพนสวรรค์ นางศิวาพร เสนจันทร์ฒิชัยไชย ผู้ใหญ่บ้านขามเตี้ยใหญ่ หมู่ 16 ต.นาขมิ้น พร้อมเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ผู้นำชุมชนหมู่บ้าน ลงพื้นที่ตรวจสอบให้การช่วยเหลือ”น้องตุ้ม” (นามสมมติ) อายุ 16 ปี เหยื่อพ่อเลี้ยงหื่นที่ถูกบังคับข่มขืนใจมาตั้งแต่อายุ  8 ขวบ ต้องทนทุกข์รับสภาพเป็นเหยื่อกามมานานถึง  8 ปี ทั้งนี้ มีแม่แท้ๆ เป็นคนรู้เห็นเป็นใจปกป้องช่วยเหลือให้พ่อเลี้ยงโฉดขืนใจ เนื่องจากทั้งคู่ตกเป็นทาสยาบ้า
 
กระทั่งในที่สุดเมื่อเดือนกรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมา ความชั่วร้ายของผัวเมียคู่นี้แตก เนื่องจากน้องตุ้มลูกสาวปัจจุบันอายุ 16 ปี ที่ถูกขืนใจมาราธอนนานเกือบ 10 ปีได้ตั้งครรภ์ท้อง พร้อมคลอดลูกสาวออกมามีอายุได้ประมาณ 2 เดือน ทางญาติทนเห็นสภาพสุดรันทดไม่ได้ จึงประสานตำรวจ และหน่วยงานยุติธรรม ดำเนินคดีตามกฎหมาย
 
ทางด้าน  พ.ต.ท.ธราพงษ์ ภูมิถินเหว่อ สารวัตรสอบสวน สภ.โพนสวรรค์ หลังได้รับแจ้งจึงลงพื้นที่นำทีมสอบสวนดำเนินคดี เอาผิดกับพ่อเลี้ยง อายุ 51 ปี ชาวบ้านต.นาขมิ้น อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม ใน 3 ข้อหาหนัก รวมทั้งฐานความผิดเสพยาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า) รวมถึง “ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี ซึ่งมิใช่ภรรยาหรือสามีของตน โดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย และทำอนาจารแก่เด็กอายุไม่เกิน 13 ปี โดยเด็กยินยอมหรือไม่ก็ตาม” นอกจากนี้ยังดำเนินคดีกับแม่แท้ๆของน้องตุ้ม อายุ 47 ปี ในข้อหาเสพยาบ้า และมียาเสพติดให้โทษ ประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองและเพื่อจำหน่าย โดยทั้งสองสามีภรรยาใจทราม อยู่ระหว่างส่งฝากขังที่เรือนจำกลางนครพนม เพื่อรอการพิจารณาตัดสินของศาลจังหวัดนครพนม
 
โดยในครั้งนี้ ทางด้าน  นางสาวณัฐธ์ภัสส์ ยงใจยุทธ  ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม ได้นำเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ช่วยเหลือด้านความเป็นอยู่ รวมถึงการช่วยเหลือ ในการดำเนินคดีทางกฎหมาย ที่สำคัญและน่าสลดใจแก่ผู้พบเห็น โดยปัจจุบันน้องตุ้ม อายุ 16 ปี ต้องอาศัยอยู่ในบ้านไม้ยกสูง สภาพเก่าทรุดโทรมโย้ไปเย้มา ฝาผนังบุด้วยสังกะสี รวมถึงไม้เก่าตามสภาพ อีกทั้งห้องน้ำยังไม่มิดชิด ทำขึ้นพอได้ใช้งาน ไม่มีไฟฟ้าใช้ ตลอดจนไม่มีระบบประปา ต้องใช้น้ำในลำห้วยใกล้บ้านมาอุปโภคบริโภค
 
ทั้งต้องดูแลทารกน้อยวัย 2 เดือนเพียงลำพัง ไม่มีรายได้จากที่ไหน ต้องเอาน้ำเปล่าให้ลูกกินแทนนมประทังชีวิต มีเพียงญาติพี่น้องและชาวบ้าน ที่คอยดูแลช่วยเหลือตามอัตภาพ และมีปัญหาด้านสภาพจิตใจ ไม่ได้ใช้ชีวิตตามวัยของตนเอง ตรงกันข้ามกลับถูกครอบครัวโดยเฉพาะผู้เป็นเป็นแม่ กดดันทุกอย่าง เพื่อให้ตกเป็นทาสบำเรอกามให้พ่อเลี้ยง
 
เบื้องต้นทางด้าน หน่วยงานเกี่ยวข้อง รวมถึง ผู้นำชุมชนท้องถิ่น ได้ตั้งกองทุน เปิดบัญชีรับบริจาคช่วยเหลือกับผู้ใจบุญ โดยสามารถสอบถามรายละเอียด และบริจาคช่วยเหลือได้ที่ บัญชี ธนาคารออมสิน สาขาโพนสวรรค์ เลขที่บัญชี 020-3995-3237-1 ชื่อบัญชีบริจาค กองทุนเพื่อช่วยเหลือน้องตุ้ม ตำบลนาขมิ้น สอบถามได้ที่โทร. 063-531-9726  นางศิวาพร เสนจันทร์ฒิชัยไชย ผู้ใหญ่บ้านขามเตี้ยใหญ่ หมู่ 16
 
ด้าน นางสาวณัฐธ์ภัสส์ ยงใจยุทธ  ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า หลังรับทราบข่าวจากหน่วยงานเกี่ยวข้อง รวมถึงผู้นำชุมชนท้องถิ่น หน่วยงานตำรวจ จึงประสานลงพื้นที่ช่วยเหลือครอบครัวน้องที่ตกเป็นเหยื่อกามของพ่อเลี้ยงมานานเกือบ 10 ปี โดยมีแม่แท้ๆ เป็นคนปกป้อง รู้เห็นเป็นใจบังคับให้ลูกสาวถูกขืนใจกระทำชำเรา จนกระทั้งตั้งครรภ์ คลอดลูกออกมา และยังบังคับให้เสพยาบ้าโชคดีเด็กไม่ยอม ทางญาติพี่น้อง รวมถึงผู้นำชุมชน จึงได้ประสานตำรวจ ดำเนินคดีตามกฎหมาย และถูกจับกุมดำเนินคดี ทั้งพ่อเลี้ย และแม่แท้ๆ เพราะมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติดเสพยาบ้า
 
สอบถามเบื้องต้นทราบว่า ครอบครัวเด็กที่ถูกกระทำมีพี่น้องทั้งหมด 3 คน เป็นหญิงทั้งหมด ผู้เสียหายเป็นคนกลาง ส่วนคนโตไปทำงานมีครอบครัว จึงเหลือผู้เสียหายและน้องคนสุดท้อง ที่อาศัยอยู่กับแม่และพ่อเลี้ยง ที่บ้านอีกหลัง โดยไม่มีใครดูแล จนเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น กระทั่งญาติพี่น้องรู้พฤติกรรมของพ่อเลี้ยง ตอนเด็กสาวตั้งครรภ์ได้ประมาณ 5-6 เดือน จึงประสานขอรับการช่วยเหลือจากหน่วยงานเกี่ยวข้อง จนคลอดบุตรมาเป็นทารกหญิง และนำไปดูแลที่บ้านพักเด็กและครอบครัว พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ให้การช่วยเหลือ รวมถึงหน่วยงานคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ยุติธรรมจังหวัด ดูแลทุกด้าน และมอบเงินเยียวยาเบื้องต้น
 
สำคัญที่สุดคือ ที่พักอาศัย สภาพความเป็นอยู่ จะต้องได้รับความร่วมแรงร่วมใจทั้งภาครัฐ เอกชน จึงประสานตั้งกองทุนรับบริจาคช่วยเหลือ เพื่อนำเงินมาปรับปรุงบ้านพักอาศัย ดูแลเด็กทารกที่เกิดได้ประมาณ 2 เดือน ต้องมีค่าใช้จ่าย รวมถึงอนาคตของน้องสาวคนเล็กที่กำลังศึกษาอยู่  ซึ่งปัญหาลักษณะนี้ถือว่า สังคมต้องช่วยเหลือกัน และสร้างภูมิคุ้มกันให้สังคม โดยมีหน่วยงานยุติธรรมคอยดูแลช่วยเหลือ สามารถติดต่อขอรับการช่วยเหลือได้ทุกจังหวัด ส่วนกรณีดังกล่าวจะได้ประสานตำรวจ และหน่วยงานเกี่ยวข้อง ดูแลเรื่องการดำเนินคดีผู้กระทำผิดให้ถึงที่สุด และดูแลคุณภาพชีวิตน้องไม่ให้ได้รับผลกระทบต่อสภาพจิตใจในอนาคต

หน้าแรก » อาชญากรรม