วันที่ 16 ก.พ. 2566 เวลา 09.00  น. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนายณัฐธชนพงศ์  ธรรมวัตร  อายุ  40  ปี เจ้าของร้านรัตนะมือถือ ตั้งอยู่เลขที่ 133/ 1 หมู่ 1 ถ.รัตนบุรี -สำโรงทาบ ต.รัตนบุรี  อ.รัตนบุรี  จ.สุรินทร์  ซึ่งเป็นเจ้าของร้าน เล่าว่า เมื่อช่วงเช้าตรูของวันเสาร์ที่ 11 ก.พ.ที่ผ่านมา ขณะที่ตนเข้ามาเปิดร้านจำหน่ายโทรศัพท์มือถือตามปกติ สังเกตพบว่าสัญญาณไวไฟไม่ทำงาน จึงเข้าตรวจสอบที่ห้องควบคุมสัญญาณไวไฟและสัญญาณกล้องวงจรปิด พบว่าสายไฟสัญญาณถูกถอดออกทั้งหมด  จึงให้ภรรยาร่วมกันตรวจสอบทรัพย์สินพบว่าเงินสดจำนวน 1,500 บาทที่เก็บไว้ในลิ้นชักสำหรับใช้ทอนลูกค้าหายไป ส่วนที่ตู้โชว์มือถือพบว่า โทรศัพท์มือถือหลายยี่ห้อ จำนวน  29  เครื่อง ได้ถูกขโมยไปด้วย  จึงได้นำเรื่องดังกล่าวเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.รัตนบุรี ซึ่งชุดพิสูจน์หลักฐานของ ภว.จ.สุรินทร์ ได้ออกมาเก็บหลักฐานตรวจสถานที่เกิดเหตุไปแล้ว

 

ในช่วงเช้าของวันที่ 16  ก.พ.นี้ ตนได้นำหลักฐานซึ่งเป็นภาพจากกล้องวงจรปิด มามอบให้กับพนักงานสอบสวน สภ.รัตนบุรี  ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมาตนพร้อม จนท.ตร.ต่างก็ช่วยกันรวบรวมหาหลักฐานจากกล้องวงจรปิดตามสถานที่ต่าง ๆ ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือจากเพื่อนบ้านห้างร้านต่าง ๆ โดยเฉพาะกล้องวงจรปิดที่อยู่ตรงข้ามทางเข้าศาลเจ้าพ่อศรีนครเตา พบว่าเมื่อคืนวันที่ 10 ก.พ. เวลา 22.54 น. ได้มีชายผู้ต้องสงสัย รูปร่างสูงใหญ่ สวมเสื้อแขนยาว กางเกงขายาว ใส่หมวกปิดปังใบหน้า สะพายกระสอบปุ๋ยเดินเข้าปากทางเข้าศาลเจ้าพ่อศรีนครเตา จากนั้นพบว่าในเวลาประมาณ 02.24 น.ซึ่งเข้าสู่วันที่ 11 ก.พ. พบเห็นชายคนดังกล่าวเดินออกมาตามถนน พร้อมหิ้วกระสอบปุ๋ยที่มีสิ่งของบรรจุมากกว่าตอนเดินเข้าไปครั้งแรก ซึ่งคาดว่าชายคนดังกล่าวน่าจะเป็นผู้ลงมืองัดแงะร้านของตนตน  อยากวอนสื่อโซเซียลและใครที่พบเบาะแส หรือมีกล้องวงจรปิดที่สามารถแจ้งเบาะแสจนสามารถจับตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษได้ ตนพร้อมมอบรางวัลเป็นเครื่องโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ OPPO A 17 จำนวน  1  เครื่อง  ราคา 5,990 บาท

 

ทั้งนี้เพื่อต้องการช่วย จนท.ตร.เร่งหาตัวผู้กระทำความผิดมาโดยเร็ว เพราะหากปล่อยไว้คนร้ายอาจย่ามใจเหิมเกริม ไปขโมยทรัพย์สินแหล่งอื่น ๆได้อีก จึงขอความร่วมมือกับสื่อมวลชนและสื่อโซเซียลร่วมด้วยช่วยกันอีกแรง นายนายณัฐธชนพงศ์  ธรรมวัตร  เจ้าของร้านรัตนะมือถือกล่าว

 

ด้าน พ.ต.อ.ธีระศักดิ์ เจริญศรี ผกก.สภ.รัตนบุรี กล่าวว่าเรื่องดังกล่าวถือเป็นการกระทำที่เป็นภัยต่อสังคม หลังจากที่ทราบเหตุ ได้กำชับทาง จนท.ตร.ทุกฝ่ายได้เร่งสืบหาคนร้ายโดยเร็ว ตอนนี้กำลังรวบรวมพยานหลักฐาน ซึ่งคาดว่าไม่นานคงสามารถตามตัวได้  และในช่วงนี้ภัยสังคมได้รุกเข้ามาอย่างหลายรูปแบบ จึงอยากฝากพี่น้องประชาชนให้ช่วยกันเฝ้าระวังทรัพย์สินของมีค่าของตนเอง พร้อมร่วมด้วยช่วยกันเป็นหูเป็นตาให้กับทาง จนท.บ้านเมืองอีกทางหนึ่งด้วย