วันอังคาร ที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2567 16:14 น.

อาชญากรรม

ลูกจ้างตัดทุเรียนโหด! ยิงอดีตนักแสดงโชว์คาวบอย-เพื่อน2ศพ

วันอาทิตย์ ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2566, 05.42 น.

โหดเหี้ยม! ลูกจ้างตัดทุเรียนชักปืน 9 มม.ยิงร่างพรุนอดีตนักแสดงโชว์คาวบอยวงอาเฉินดับพร้อมเพื่อนรวม 2 ศพ สาหัสอีก 1 กระสุนทะลุเบ้าตาบอดเป็นตายเท่ากัน หลังก่อเหตุคนร้ายซิ่งกระบะหนีไม่รอดถูกรวบคาด่านตรวจในพื้นที่ จ.เพชรบุรี พ่อแม่คนตายหวั่นคดีไม่ถึงที่สุด ติดคุกไม่กี่ปีพ้นโทษ แต่ครอบครับผู้สูญเสียเสาหลักต้องดูแลลูกเล็กอีก 3 คน ร้องขอความเป็นธรรมให้ญาติคนยิงรับผิดชอบดูแลเยียวยา


เหตุการณ์สุดโหดเหี้ยมของหนุ่มรับจ้างตัดผลทุเรียนเกิดขึ้นเมื่อเวลา 18.50 น.วันที่ 19 มิ.ย.66 พ.ต.ท.ชยณัฐ  คำภาพันธ์  สว.(สอบสวน) สภ.สวี จ.ชุมพร ได้รับแจ้งว่ามีคนถูกยิงในพื้นที่หมู่ 8 ตำบลครน อ.สวี จ.ชุมพร ได้รับบาดเจ็บสาหัส 3 ราย จึงพร้อมด้วยพ.ต.อ.ปัญญา  ท้วมศรี ผกก.สภ.สวี  เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดชุมพร ร่วมกันเดินทางตรวจสอบ

 


      

ที่เกิดเหตุอยู่ที่บริเวณลานดินหน้าบ้านเลขที่ 17/3 หมู่ 8 ตำบลครน อ.สวี จ.ชุมพร พบเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจและชาวบ้านอยู่บริเวณหน้าบ้านที่เกิดเหตุเป็นจำนวนมาก  แต่ไม่พบผู้บาดเจ็บทราบว่าผู้ที่ถูกยิงจำนวน 3 รายถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลสวีแล้ว ประกอบด้วย 1.นายดำรงค์ศักดิ์  หรือไข่แดง หรือฟิวส์  เหวียดแป้น อายุ 27 ปี อยู่บ้านในตำบลตะโก อ.ทุ่งตะโก  จ.ชุมพร  2.นายวีระศักดิ์ หรือนิว  รัตนประเสริฐ  อายุ 20 ปี อยู่บ้านในพื้นที่ ต.ตะโก อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร  3.นายจักรพงษ์  เพ็ชรแก้ว อายุ 26 ปี อยู่บ้ายำบลตะโก อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร
         

ส่วนคนร้ายที่ใช้อาวุธปืนยิงทำร้ายคือนาย อานนท์  (สงวนนามสกุล)  อายุ 27 ปี อยู่บ้านในตำบลซึ้ง อ.ขลุง จ.จันทบุรี  หลังก่อเหตุได้ขับรถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ  ทะเบียน ผข 1237 จันทบุรี หลบหนีไป และต่อมาทราบว่าผู้ได้รับบาดเจ็บได้เสียชีวิตที่โรงพยาบาลสวี 2 ราย คือนายดำรงค์ศักดิ์  และนายวีระศักดิ์  ส่วนนายจักรพงษ์  ถูกยิงเข้าลำคอทะลุเบ้าตาเป็นตายเท่ากันได้รับบาดเจ็บสาหัสถูกนำตัวส่งต่อโรงพยาบาลชุมพรฯ
        

จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบมีรถยนต์กระบะบรรทุกผลทุเรียน จำนวน 3 คัน จอดอยู่หน้าบ้านที่เกิดเหตุบริเวณด้านหลังรถกระบะคนหนึ่งพบมีกองเลือดจำนวน 2 จุด และใกล้กันบริเวณม้านั่งใต้ต้นไม้หน้าบ้านมีอาวุธปืนสั้น กึ่งออโตเมติก ยี่ห้อ cz75 compact สีดำขนาด 9 ม.ม. จำนวน 1 กระบอก พร้อมซองบรรจุกระสุน จำนวน 1 ซองวางอยู่  และบริเวณพื้นดินข้างที่ล้างรถ พบมีปลอกกระสุนปืนขนาด 9 ม.ม. ตกอยู่ จำนวน 7 ปลอก จึงได้รวบรวมทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมาที่โรงพยาบาลสวี

 


       

ผลชันสูตรพลิกศพปรากฏว่านายดำรงค์ศักดิ์ฯ  ถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่บริเวรปาก 1 แผล  หน้าอก 2 แผล กระสุนทะลุด้านหลังพบมีแผลบริเวณด้านหลังผู้ตายจำนวน 4 แผล  ท้ายทอย 1 แผล  ส่วนนายวีระศักดิ์ฯมีรอยกระสุนเข้าที่บริเวรเหนือราวนมด้านซ้าย จำนวน 1 แผล กระสุนฝังใน
          
ตำรวจสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายอานนท์ฯได้ร่วมกันทำการตัดทุเรียนและคัดผลทุเรียนกับกลุ่มนายดำรงค์ศักดิ์ฯผู้ตาย และพวกอยู่บริเวณที่เกิดเหตุ  ต่อมาได้เกิดความไม่พึงพอใจกับกลุ่มผู้ตายโดยไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด จึงใช้ปืนที่นำติดตัวมาด้วยนั้นยิงกลุ่มผู้ตายทั้ง 3 คน หลังก่อเหตุนายอานนท์ได้ขับรถยนต์กระบะส่วนตัวหลบหนีไป
         

จากการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่านายอานนท์ฯ ได้ใช้อาวุธปืนยิงผู้อื่นได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจริง โดยจากพฤติการณ์และพยานหลักฐานดังกล่าวเข้าข่ายเป็นการกระทำความผิดอาญาฐาน “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพยายามฆ่าผู้อื่น และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร”  ข่าวรายงานว่าต่อมาในคืนเดียวกันด่านตรวจในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรีสามารถสกัดและควบคุมตัวนายอานนท์ผู้ก่อเหตุได้จึงถูกควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนสภ.สวีแล้ว

 


        

สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวล่าสุดเมื่อวันที่ 24 มิ.ย.66 ญาติของนายดำรงค์ศักดิ์  ผู้ตาย ได้ร้องขอความเป็นต่อผู้สื่อข่าวในพื้นที่จังหวัดชุมพร เกรงว่าอาจจะไม่ได้รับความเป็นธรรมจากสำนวนการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อการดำเนินคดีของผู้ก่อเหตุและการออกหนังสือรับรองการตาย
       

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านในตำบลตะโก อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร ซึ่งเป็นที่ตั้งสวดอภิธรรมศพของนายดำรงศักดิ์หรือไข่แดง หรือฟิวคาวบอย เป็นบ้านปูนชั้นเดียวปลูกอยู่ใกล้โรงเรียนบ้านแหลมยางนา ริมถนนสายข้างวัดเทพนิมิต ห่างจากถนนสายเอเชีย 41 ประมาณ 5 กม.  พบนายบัญหาญ  เหวียดแป้น อายุ 55 ปี นางคอง เหวียดแป้น อายุ 53 ปี พ่อแม่นายดำรงศักดิ์ฯผู้ตาย และน.ส.ชไมพร คำพุด อายุ 32 ปี ภรรยา

 


       

นายบัญหาญ  พ่อผู้เสียชีวิต มีตำแหน่งเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน กล่าวว่า หลังเกิดเหตุไม่มีญาติผู้ก่อเหตุยิงลูกชายเดินทางมาแสดงความรับผิดชอบแต่อย่างใดส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้ติดต่อมาเพื่อสอบถามหรือแจ้งพูดคุยถึงคดีว่าจะต้องทำอย่างไรต่อไป  บอกเพียงว่ากำลังหาพยานหลักฐานอยู่ แล้วจะแจ้งให้ทราบ  แม้ว่าตำรวจจับคนร้ายได้แล้วก็ตาม ตนรู้สึกไม่สบายใจ เพราะทางครอบครัวของลูกชาย  ภรรยาต้องสูญเสียเสาหลัก มีลูกเล็กรวม 3 คน คนโตอายุ 6 ปี คนกลางอายุ 4 ปี และคนเล็กอายุ 2 ปี วอนให้ทางญาติผู้ต้องหามาดูแลเยียวยาบ้าง

 


     

ส่วนนายคะนอง  คงมี หรือแจ๊ค อายุ 38 ปี หัวหน้าคนงานตัดทุเรียน กล่าวว่า ตนรับงานมาจากบริษัทแผงทุเรียนอีกทอดน้องฟิวทำงานอยู่ด้วยกันเข้าปีที่ 3 วันเกิดเหตุมีคนงานทั้งหมด13 คนจนช่วงเย็นตัดทุเรียนเสร็จตลอดทั้งวันก็ไม่มีปัญหาหรือทะเลาะวิวาทกันเป็นปกติดี ขณะนั้นตนกำลังนั่งคิดบิลหันหลังให้กับกลุ่มคนงานทั้งหมด จนกระทั้งได้ยินเสียงปืนดังสนั่นหลายนัดจึงวิ่งเข้าไป เห็นนายจักรพงษ์ถูกยิง ตนจึงจับและแย่งปืนจากคนยิงได้ซึ่งเป็นจังหวะช่วงชุลมุนพร้อมกับเห็นนายดำรงศักดิ์หรือฟิว(คนตาย)  นอนคว่ำหน้าพร้อมนำคนเจ็บทั้งหมดขึ้นรถไปโรงพยาบาลสวี
      

หัวหน้างานคนตายกล่าวอีกว่า ส่วนตัวตนไม่รู้จักคนก่อเหตุแต่มีนายตี๋ซึ่งรู้จักกันแนะนำมาให้อีกทอดเพื่อรับเข้ามาทำงานกับกลุ่มของตนเป็นครั้งที่สองเท่านั้น  ซึ่งตนไม่ทราบจริงๆว่ามีปัญหากันตอนไหนถึงได้ก่อเหตุขึ้น

 


       

ด้าน น.ส.ชไมพร ภรรยา กล่าวด้วยน้ำตาว่า นายดำรงศักดิ์ อดีตเป็นนักแสดงโชว์แล่นควงไฟรูปแบบคาวบอยของคณะอาเฉิน รับงานแสดงโชว์ทั่วประเทศเป็นที่รู้จักกันและเคยออกแสดงโชว์รายการดังๆ ทางทีวีมาแล้วหลายช่อง หลังจากเจอวิกฤติการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 จึงพาครอบครัวจาก จ.ชลบุรีมาพักอาศัยอยู่กับพ่อแม่ที่ทุ่งตะโก จ.ชุมพร และรับจ้างตัดผลทุเรียนหารายได้ดูแลครอบครัวและบุตรอีก 3 คน จนมาเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดขึ้น ก่อนหน้านี้ไม่มีลางบอกเหตุมาก่อน  ตอนเช้ายังขี่รถจยย.ไปส่งที่บ้านหัวหน้างานวันเกิดเหตุประมาณ 6 โมงกว่าโทรหาแต่ไม่รับ
         

ส่วนนางคอง แม่ผู้เสียชีวิต กล่าวว่า หลังเกิดเหตุมา 2 คืนแล้วทำไมญาติของผู้ก่อเหตุไม่ติดต่อรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นเลย อยากได้กำลังใจ พากันมาขอขมาศพก็ยังดี อย่าลืมว่ายิงคนตายทีเดียว  2 ศพ และบาดเจ็บสาหัสเป็นตายเท่ากันอีก 1 คน มันเป็นเรื่องใหญ่ คนตายเป็นเสาหลักของครอบครัวแล้วต่อไปครอบครัวผู้สูญเสียจะทำอย่างไร คนยิงติดคุกไม่กี่ปีก็ออกมาสู่โลกภายนอกได้แต่ครอบครัวคนตายละ จะเยียวยากันอย่างไร ทุกอย่างเงียบหมดชีวิตคนทั้งคน เหมือนหมดความหวัง ไม่นึกเลยว่าจะโดนกับตัวเองเคยเห็นแต่ในข่าวในทีวี รู้สึกท้อใจ ในส่วนของคดี ตั้งแต่ญาติรับศพที่รพ. “ตำรวจไม่เคยมาในงานเลย ไม่บอกเลยว่าคดีเป็นแบบไหนอะไรยังไง ไม่รู้ข่าวอะไรเลย”

 


       

นั่นเป็นสิ่งที่ครอบครัวผู้สูญเสียคาใจว่าการดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุนั้นจะได้รับโทษสูงสุดหรือไม่ ประกอบกับการออกหนังสือรับรองการตายของโรงพยาบาลโดยญาติเผยว่า ในหนังสือระบุผลการตายว่า “หัวใจล้มเหลว หรือเลือดเยอะ ญาติแจ้งว่ายังมีข้อสงสัยและไม่สอดคล้องกับสาเหตุที่แท้จริง ซึ่งทางญาติไปแจ้งตายไม่ได้เพราะมีสำนวนคดีของตำรวจตายเพราะถูกยิง  จึงแจ้งให้แพทย์ทราบเพื่อยืนยันอีกครั้งต่อมาได้แก้ไขแล้ว
     

นางคอง จึงถามกลับว่าการลงบันทึกอย่างนี้จะกระทบถึงผลของคดีไหม กลัวว่าคดีไม่ถึงไหนจะได้รับความเป็นธรรมไหม มันจะไม่ง่ายไปหรอ ลูกไม่ตายฟรีหรอชีวิตคนทั้งคน”
      

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังสภ.สวี เพื่อสอบถามคดีดังกล่าวปรากฏว่าไม่พบผกก.จึงได้โทรศัพท์สอบถาม ได้ความว่า คดีดังกล่าวจบแล้ว สามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้ขณะขับรถหลบหนีเข้าเขตพื้นที่ จ.เพชรบุรีบริเวณด่านสามร้อยยอด โดยนายอานนท์หรือต้น สารภาพว่า เป็นผู้ก่อเหตุยิงทั้ง 3 คนจริง สาเหตุมาจากเกิดเขม่นกันในระหว่างทำงานการคัดตัดโยนทุเรียน และถูกฝ่ายกลุ่มคนตายขู่จะทำร้ายฝ่ายคนยิง  คนยิงจึงเข้าใจว่าถ้าเสร็จงานงานโดนแน่ จึงชิงลงมือก่อน ซึ่งไม่พอใจเรื่องแค่นี้เอง ล่าสุดได้นำตัวผู้ต้องหาฝากขังศาลเรียบร้อย ในส่วนของสำนวนยังสอบอีกนิดหน่อย พยานฝ่ายผู้เสียหายไม่แน่ใจว่าพนักงานสอบสวนสอบหรือยัง แต่ส่วนอื่นๆสอบหมดแล้ว” พ.ต.อ.ปัญญา  ท้วมศรี  ผกก.สภ.สวี กล่าว

 

 

หน้าแรก » อาชญากรรม