เมื่อเวลา 12.35 น.วันที่ 6 ก.ย. 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายคลุมคลั่งควงขวานได้ทำร้ายเจ้าหน้าที่สำนักงานการประปาส่วนภูมิภาค อ.ปากพนังและชาวบ้านที่มาจ่ายค่าน้ำประปา เหตุเกิดบริเวณสำนักงานการประปาส่วนภูมิภาค อ.ปากพนัง ถนนสุนอนันต์ ต.ปากพนังฝั่งตะวันตก อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจรถ จยย.สภ.ปากพนัง นำลังไประงับเหตุ พบชายฉกรรจ์ทราบชื่อในเวลาต่อมาคือนายธนะชัย อายุ 29 ปี ต.คลองน้อย อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ทราบว่ามาเช่าบ้านอยู่อาศัยไม่ไกลจากสำนักงานการประปาที่เกิดเหตุมากนัก สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีน้ำเงิน นุ่งผ้าขาวม้าลายสก๊อต  ในมือถือขวานเล่มใหญ่ กำลังควงขวานไล่ทำร้ายเจ้าหน้าที่การประปา จนต้องวิ่งหนีกันชุลมุนวุ่นวาย
 
หลังจากนั้นนายธนะชัย ได้เดินใช้ขวานทุบตีรถกระบะบรรทุกปลาของชาวบ้านเสียหาย 2 คัน ก่อนจะควงขวานออกมากลางถนนเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจรถ จยย.มาระงับเหตุและจอดรถเสียบกุญแจไว้บริเวณจุดยูเทิร์น นายธนะชัย ควงขวานพุ่งตรงเข้าทำร้ายตำรวจจนตำรวจต้องทิ้งรถ จยย.วิ่งหลบหนีเอาชีวิตรอด ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยกู้ภัย ฯ ได้ช่วยกันกันรถที่จะว่างผ่านที่เกิดเหตุเกรงจะถูกนายธนะชัย ทำร้ายเอาได้  ในขณะที่นายธนะชัย ได้ใช้ขวานฟันและทุบรถ จยย.สายตรวจและพยายามจะขึ้นคร่อมรถ จยย.ขับหลบหนี แต่รถเสียหลักล้มลง นายธนะชัย จึงใช้ขวานฟันและทุบรถตำรวจตำรวจจนพังเสียหายยับเยิน หม้อน้ำแตก จากนั้นจึงวิ่งตรงเข้าไปจะทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ยืนตะโกนห้ามปรามทำให้ตำรวจสายตรวจต้องชักปืนออกมาข่มขู่และประกาศว่าอย่าเข้ามาหากฝ่าฝืนเขามาจะยิงให้ตาย นายธนะชัย จึงไม่กล้าเข้าไปทำร้ายตำรวจ แต่เปลี่ยนไปควงขวานไล่ทำร้ายชาวบ้านที่ผ่านไปมาจนต้องวิ่งหนีกันกระเจิง วุ่นวายปั่นป่วนกันทั้งตลาดปากพนังฝั่งตะวันตก  ก่อนจะเดินกลับไปที่หน้าสำนักงานประปาชิงเอารถ จยย.ของชาวบ้านที่มาจ่ายค่าน้ำประปาและเสียบกุญแจทิ้งไว้ขับหลบหนีไปทาง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช
 
เจ้าหน้าที่ตำรวจวิทยุสกัดจับนายธนะชัย พร้อมนำรถออกติดตามจับกุม จนกระทั้งเมื่อถึงหน้าป้อมนามตำรวจตำบลคลองกระบือ นายธนะชัย ได้ขับรถเข้าไปจอดข้างป้อมยาม ก่อนจะขึ้นขับรถ จยย.สายตรวจของตำรวจคลองกระบือหลบหนีต่อไปยังพื้นที่ อ.เมือง เจ้าหน้าที่พยายามสกัดจับแต่ไม่สำเร็จ จนนายธนะชัย ขับรถ จยย.ตำรวจหลบหนีไปในพื้นที่ อ.ท่าศาลา และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าศาลา และตำรวจ สภ.ปากพนังที่ช่วยกันติดตามไล่ล่าสกัดจับกุมเอาไว้ได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าศาลา จึงมอบให้ตำรวจ สภ.ปากพนัง ควบคุมตัวกลับไปดำเนินคดีที่ สภ.ปากพนัง โดยทางผู้จัดการสำนักงานการประปาส่วนภูมิภาค อ.ปากพนัง ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ประปา เข้าแจ้งวความกับพนักงานสอบสวน สภ.ปากพนัง เพื่อสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย

ในเบืองต้นนายธนะชัย ให้การรับสารภาพโดยอ้างว่าสาเหตุที่เครียดตนคลุ้มคลั่งอาละวาดในครั้งนี้เพราะบ้านที่ตนอยู่อาศัยโดนตัดมาตรน้ำประปา ตนกำลังจะเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำ  แต่พบว่าน้ำไม่ไหล เมื่อออกมาพบว่ามาตรน้ำประปาถูกเจ้าหน้าที่มาตัดไฟเสียแล้ว จึงสวมเสื้อคว้าได้ขวานรีบเดินทางมาเพื่อทำร้ายเจ้าหน้าที่ประปาที่ตัดมาตรฐานน้ำบ้านของตน จนเรื่องลุกลามบานปลายดังกล่าว เจ้าหน้าที่ทำการตรวจปัสสาวะนายธนะชัย พบว่าปัสสาวะสีม่วงและมีสารเสพติดในปัสสาวะ ซึ่งนายธนะชัย ยอมรับว่าเสพยาเสพติด (ยาบ้า) มาเมื่อ 3-4 วันก่อน ทางตำรวจส่งปัสสาวะตรวจพิสูจน์แยกสารเสพติดตามขั้นตอนอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรอีกครั้งหนึ่ง  และจากการตรวจสอบประวัติพบว่าเป็นผู้ป่วยจิตเวช อันเนื่องมาจากการเสพติด
 
นายชัฏ ชูพงศ์ ผู้จัดการสำนักงานการประชาภูมิภาค อ.ปากพนัง กล่าวว่า ตามปกติในการตัดมาตรน้ำนันทางการประปาส่วนภูมิภาคมีระเบียบชัดเจนว่าหากผู้ใช้น้ำค้างค่าน้ำประปาเกิน 3 เดือน จะถูกตัดมาตรน้ำ แต่ในทางปฏิบัติทางการประปาส่วนภูมิภาคจะยืดระยะเวลาให้อีก 1 เดือน รวมเป็น 4 เดือน หลังจากนั้นจะยังไม่ไปตัดมาตรน้ำทันที หากยังไม่ยอมจ่ายจะทำหนังสือเตือน จนขั้นตอนสุดท้ายจะแจ้งให้ผู้ใช้น้ำทราบและให้เซ็นหนังสือรับทราบอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรว่าเจ้าหน้าที่จำเป็นต้อบตัดมาตรน้ำ จึงจะทำการตัดมาตรน้ำต่อไป  ในกรณีของนายธนะชัย ผ่านระยะเวลาและกระบวนการทุกขั้นตอนหมดแล้ว  เมื่อเกิดเหตุร้ายแรงขึ้นในลักษณะนี้ตนก็ต้องแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาบุกรุกและพยายามฆ่า
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในส่วนตำรวจและชาวบ้านที่ได้รับความเสียหายก็แจ้งความแจ้งความดำเนินคดีกับนายธนะชัย เช่นเดียวกัน ซ่างมีทั้งข้อหาพยายามฆ่า บุกรุกทำลายทรัพย์สินของทางราชการ ชิงทรัพย์ และทำให้เสียทรัพย์ รวมตำรวจจะดำเนินคดีในข้อหาพกพาอาวุธ (ขวาน) ไปในสถานที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควรและ พรบ.ยาเสพติดอีกด้วย